อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งมีจุดชมวิวสามารถชมวิวได้ 360 องศา ตอนขับไปถึงเจอหมอกเยอะมากได้อีกฟิวเลย ที่สำคัญหนาวมาก 18 องศา ประทับใจแนะนำอีกหนึ่งที่เที่ยว

ช่วงตรุษจีนมีโอกาสไปเที่ยวน่าน คืนแรกนอนในเมืองแวะเที่ยววัดและ สถานที่เที่ยวในเมืองครบแล้ว วันที่สองตั้งใจจะไปกางเต้นท์บนดอยภู คา อยากวิ่งไปทางอ.ปัว เพื่อเก็บที่เที่ยวทางนั้นก่อน แต่GPS พาขึ้นมาทางอ.บ่อเกลือ ถนนช่วงแรกกำลังทำ นึกว่าจะเป็นตลอดสาย ผ่านมาสักครู่ถนนเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ อยากบอกว่าทางเส้นนี้ถนนดีมาก วิวข้างทางเลาะเขาและบางช่วงวิ่งบนสันเขาถนนสวยมาก วิวสวยแต่ เสียดายภูเขาที่ช่วงนี้ไม่มีการเพาะปลูก เป็นเขาหัวโล้นกว้างสุดลูกหูลูกตา สงสารภูเขาหมดเป็นลูกๆเลย เหมือนที่เพชรบูรณ์เลย แวะเที่ยวบ่อเกลือก่อนแล้วเดินทางต่อไปดอยภูคา อากาศเริ่มครึ้ม หมอกลงตามทาง กลัวฝนจะตกพอถึงอุทยานถามเจ้าหน้าที่เขาไม่แนะนำให้กางเต้นท์กลัวฝนจะตก เลยเช่าบ้านเกวียนหลังเล็กๆนอน ที่พักมีห้องอาบน้ำอุ่นด้วยแก๊สอยู่หนึ่ง ห้อง หัวค่ำอากาศเริ่มหนาวมาก ซื้ออาหารจากสโมสรร้านค้าที่นั่นมาทาน ให้เยอะมากๆ ไม่แพง และอร่อย เนื่องจากหนาวมากทานข้าวเสร็จก็นอน เลย ตอนเช้ามีอาหารเหลือจากเมื่อคืนเนื่อง จากให้เยอะมาก ขอเขาใส่ถุงให้แต่เจ้าหน้าที่ใจดีบอกจะ ทานที่นี่เป็นมื้อเช้าไหมจะอุ่นให้ เลยเอาอาหารเดิมมาทานได้อีกมื้อ ประทับใจเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อุทยาน พูดจาดี ให้คำแนะนำที่เที่ยวที่อ.ปัวให้ ขากลับเลยแวะเที่ยวอ.ปัว วิ่งเป็นวงกลมไม่ต้องย้อนไปมา สะดวกดี แนะนำใครจะไปนอนที่อุทยานภูคา วิ่งไปทางอ.บ่อเกลือแล้วมาลงทางอ.ปัว จะได้ชมวิวภูเขาสวยๆกันก่อนค่ะ

เราพักในที่พักของอุทยานเลยค่ะ จองผ่านหน้าเว็บไปค่ะ เป็นบ้านพัก นอนได้ 4 คน ห้องพักโดยรวมโอเค มีเครื่องทำน้ำอุ่น มีตู้เย็น ที่พักห่างจากจุกชมวิวประมาณ 8 กิโล ช่วงเช้าขึ้นไปรอชมทะเลหมอก ตรงจุดชมวิวบรรยากาศดี มีสัญลักษณ์คือเลข 1715 ตัวใหญ่ๆ เป็นความสูงจากระดับน้ำทะเลค่ะ สำหรับการเดินทางมาทางคดเคี้ยวและชันนะคะ แต่บรรยากาศระหว่างทางสวยงามค่ะ ช่วงที่ไป ดอกชมพูภูคายังไม่ออกดอกเลยค่ะ แต่มีต้นพญาเสือโคร่งให้ดูนิดหน่อยค่ะ ที่พักมีทั้งบ้านพักและกางเต๊นท์ มากันเป็นกลุ่มเพื่อนๆ สนุกสนานดีค่ะ เช้าเดินทางไปบ่อเกลือ และไร่สตอเบอร์รี่ต่อได้เลยค่ะ อยู่ไม่ไกลมาก