มุ่งหน้าสู่ @อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ไปเก็บภาพบรรยากาศ ณ จุดชมวิว 1715 (คือระดับความสูงจากน้ำทะเลน๊าาาาาาา) แดดร้อนมากกกกกแต่ลมเย็นมากกกกก อยู่ที่ 19 องศา #แมวภูคานอนนึกว่าตาย 😺🐈😂 และขับลงมาเพื่อถ่ายภาพกับ @ถนนลอยฟ้าปัว-บ่อเกลือ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน #วิวด้านบนสวยมากกกก หุบเขาสลับซับซ้อน แสงแดดพาดผ่าน สบายตาฝุดๆ ⛰🌄 ทริปนี้ไม่ได้ขึ้นไปบ่อเกลือ เพราะไปถึงช้า และขากลับกลัวว่าจะมืดซะก่อน แหะๆ 😬😥

มีสถานที่ทางธรรมชาติให้พักผ่อนหย่อนใจมากมาย วันนี้มีโอกาสได้ไปน้ำตกตาดหลวง น้ำแบ่งเป็นชั้นต่างๆไหลไม่แรงมากเหมาะสำหรับการเล่นเจ้าหน้าที่ดูแลช่วยเหลือดี

อุทยานแห่งชาติดอยภูคาแห่งนี้ จะคลอบคลุมพื้นที่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ยอดดอยภูคาจะมีหมอกปกคลุมตลอด จึงทำให้มีวิวที่สวยงามมากเหมือนในอยู่ดินแดนทวีปยุโรป ดอยภูคาแห่งนี้จะ เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่มีทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่าที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ รวมทั้งเป็น แหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว ลำน้ำว้า ที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวจังหวัดน่านแต่ ปัจจุบันพื้นที่ของเทือกเขาที่อยู่นอกเหนือเขตอุทยานและพื้นที่บางส่วนของอุทยานได้มีการลักลอบบุกรุกทำไร่เลื่อนลอยปลูกพืชผลทางการเกษตรจำนวนมาก จนข้าพเจ้าเห็นแล้วสุดแสนจะเสียดายเนื่องจากจะทำให้ระบบนิเวศน์เสียหายอย่างที่ประเมินค่าไม่ได้ครับอีกทั้งยังทำให้เป็นต้นเหตุของอุทกภัยที่ธรรมชาติทวงคืนไม่ว่าจะเป็นน้ำป่าไหลหลาก,ดินสไลด์ตัวลงมาเพราะขาดต้นไม้ใหญ่ยึดเกาะและอุ้งน้ำไว้ในช่วงฤดูฝน สร้างความเสียหายเพิ่มหนักขึ้นเรื่อยๆครับ หลายๆหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและภาคเอกชนก็พยายามร่วมกันดูแลปกป้องผืนป่าให้พลิกฟื้นกลับมาอุดมสมบูรณ์โดยประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่คนในท้องที่ให้เห็นถึงผลเสียของการตัดไม้ทำลายป่าครับ แต่ก็ยังไม่เห็นผลคืบหน้ามากอย่างที่ควรจะเป็นครับ ในอดีตดินแดนแห่งนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ด้วยครับ คือ เป็นเขตเมืองเก่าของบรรพบุรุษ ของคนเมืองน่านและในปัจจุบันนี้ก็ยังมีศาลเจ้าพ่อภูคา อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดน่านจุดเด่นของอุยานแห่งชาติดอยภูคา คือ การได้มาชมความงดงามของต้นชมพูภูคา พันธุ์ไม้ที่ได้ชื่อ ว่าหายากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง เคยพบในมณฑลยูนนานของจีน ก่อนจะสูญพันธุ์ไป และมีการค้นพบอีกครั้งใน ประเทศไทยที่ดอยภูคา จังหวัดน่าน พันธุ์ไม้ชนิดนี้จึง หลงเหลืออยู่ในโลกเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ประเทศไทย ชมพูภูคาจะออกดอกเป็นช่อสีชมพูในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้นครับ