วนอุทยานภูสิงห์ แห่งนี้มีพื้นที่กว้างมากถึง 10,000ไร่ เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดบึงกาฬ โดยนักท่องเที่ยวจะมาที่นี่เพื่อเข้าไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ที่สำคัญ อาทิเช่น ที่ห้ามพลาด คือ หินสามวาฬ

ประตูสวรรค์หรือประตูภูสิงห์เป็นบริเวณที่มีหินขนาดใหญ่สองก้อน ตั้งอยู่ริมหน้าผา มองดูแล้วคล้ายกับช่องเขานั่นเอง และเมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ จะเป็นบริเวณของริมหน้าผา สามารถมองเห็นวิวป่าสีเขียว สวยงามอยู่เบื้องหน้าแบบพาโนรามา ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดไฮไลท์ของภูสิงห์แห่งนี้เลย

จุดชมวิวส้างร้อยบ่อ ที่มาของคำนี้มาจากคำว่า ส้าง ที่แปลว่าหลุมหรือบ่อนั่นเองเป็นภาษาท้องถิ่น ถ้าได้มองดูใกล้ๆ แล้วจะรู้สึกว่าหลุมที่เราเห็นกันนี้เหมือนกับ อ่างอาบน้ำตามธรรมชาติมีขนาดเล็ก,ใหญ่แตกต่างกัน แม้ว่าที่นี่จะเป็นลานหินเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่มากมายนัก แต่บริเวณนี้กลับสามารถมองเห็นศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ และเป็นจุดชมวิวที่สวยงดงามอย่างมาก ยิ่งถ้าได้มาในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดินจะยิ่งเพิ่มความงดงามเป็นอย่างยิ่งและ ถ้าเป็นช่วงที่ฝนตกแล้วมีน้ำขังอยู่เต็มบ่อ เห็นแล้วอยากจะลงไปนั่งแช่น้ำเลยทีเดียว

นอกจากจุดไฮไลท์ที่สำคัญทั้งสามแห่งนี้แล้ว ถ้าท่านมาเวลา ก็ยังสามารถแวะชมสถานที่อื่นๆ เพิ่มเติมได้ นั่นก็คือ จุดชมวิวถ้ำฤาษี,จุดชมหินหัวช้าง,จุดชมวิวหินช้าง,ถ้ำใหญ่,กำแพงภูสิงห์และลานธรรม

ในการมาเที่ยวชมวนอุทยานภูสิงห์นี้ ท่านจะต้องมายังที่ทำการของ เจ้าหน้าที่ดูแลเขตป่าสงวน ภูสิงห์ เพื่อลงทะเบียนชื่อ ก่อนจะขึ้นไปยังด้านบน โดยรถที่จะขับขึ้นได้ต้องเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อเพราะเส้นทางดินจะค่อนข้างแคบและชันพอสมควรเลย แต่ถ้าท่านใดไม่อยากขับรถขึ้นไปเองก็มีรถให้บริการเค้าจะจอดให้บริการอยู่บริเวณที่ทำการภูสิงห์ ตั้งแต่ 05.30-17.00 น. โดยมีค่าบริการคันละ 500 บาท เป็นค่าใช้จ่ายเหมารวมขาไปและขากลับ ซึ่งรถสามารถนั่งได้ถึง 10 คนที่นี่จะไม่มีบ้านพักหรือค่ายพักแรมบริการแก่นักท่องเที่ยว สามารถมาเที่ยวได้ในช่วงเช้า จรดเย็น แค่นั้นครับ