Friend trip ที่แท้ทรู สำหรับการเดินทางขึ้นภูกระดึงฝั่งหนองผักบุ้ง เส้นทางธรรมชาต... อ่านเพิ่มเติม
Friend trip ที่แท้ทรู สำหรับการเดินทางขึ้นภูกระดึงฝั่งหนองผักบุ้ง เส้นทางธรรมชาต... อ่านเพิ่มเติม
การเดินทางขึ้ภูมีความยากลำบากมากแต่ในนั้นก็แผงไปด้วยความสวยงามและมิตรภาพที่ดีปับนักท่องเที่ยวที่จะแส... อ่านเพิ่มเติม
การไปภูกระดึงครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ค่ะ ถ้าไปรถส่วนตัวก็สามารถขับเข้าไปจอดที่อุทยานได้เลย แต่ถ้าใครที่ไปรถทัว์ก็ลงที่ป้ยภูกระดึงแล้วก็ต้องเหมารถ2แถวต่อเข้าอุทยานค่ะค่ารถประมาณ200 บาท(ถ้าจำไม่ผิดนะ อิอิ)ถึงอุทยานแล้วถ้าใครมีเต็นต์ก็ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ค่ะ(ไม่แพง)ส่วนใครไม่ได้มีเต็นต์ส่วนตัวก็เช่าเต็นต์ได้เลยค่ะ จากั้นก็เสียค่าธรรมเนียมนิดหน่อย ทางอุทยานเริ่มเปิดเส้นทางการเดินขึ้นเขาประมาณ 7 โมงเช้าค่ะ ปิดบ่าย 2 เราใช้เวลาเดินขึ้นไปจนถึงที่พักประมาณ 6 ชั่วโมงค่ะ
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะไม่ได้เปิดให้เข้าท่องเที่ยงตลอดทั้งปี เฉพาช่วงที่เจ้าหน้าที่กำหนดเท่านั้น ประมาณ ตุลาคม- มกราคมจะเหมาะที่สุด ใช้เวลาเดินทางตลอดทั้งวันขึ้นอยู่กับเรี่ยวแรงของแต่ละคน
เมื่อตอนปลายเดือนเมษาผมได้มีโอกาส ขึ้นไปเที่ยวภูกระดึง ที่ที่ซึ่งผมเคยฝันไว้ว่าจะได้ไปสักครั้งหนึ่งตอนช่วงวัยรุ่นผมใช้ชีวิตค่อนข้างลัลล้ามีความสุขไม่มีการออกกำลังกายหรือดูแลสุขภาพมากนัก แต่พอมาในช่วงอายุ 40 กว่าๆผมมีการดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น ความหวังที่จะขึ้นภูกระดึงก็ได้มาถึง
ผมนัดกับเพื่อนสนิทซึ่งมีทั้งอายุ 50 กว่า 60 กว่า 70 กว่าเมื่อคืนไปเปิดโลกกระทัดใหม่ๆที่ภูกระดึง วันนั้นผมได้ไปนอนค้างที่เชิงภูกระดึงก่อนเป็นเวลา 1 คืนก่อนที่จะขึ้นภูในวันรุ่งขึ้น รุ่งขึ้นผมออกเดินทางจากเชิงภูขึ้นไปเป็นเวลาประมาณ 7 โมงถึง ยอดภูกระดึง ประมาณ บ่ายสองโมงใช้เวลาร่วมกันประมาณ 5 ชั่วโมงกว่ากว่าผมประทับใจภูกระดึงมากๆแม้ช่วงที่ผมไปจะเป็นช่วงที่อากาศร้อนซึ่งสวนทางกับคนอื่นที่ไปกันส่วนใหญ่เขาจะไปกันตอนหนาวๆ
ผมใช้ชีวิตอยู่บนภู 3 วัน 2 คืนได้ไปเที่ยวหลายๆที่บนภูกระดึงไม่ว่าจะเป็นผานกแอ่น และอีกหลายๆที่ผมประทับใจมากๆครับ ต้องมาอีกแน่นอนไม่มีวันลืมภูกระดึง
เริ่มจากข้างล่างอุทยานเราต้องเสียค่าเข้าก่อนจากนั้นก็เราจะได้แผนที่ การเดินทางเดินเท้าเท่านั้น เราใช่เวลาเดินขึ้นประมาณ 5hr พักบ้างถ่ายรูปบ้าง พอเดินไปถึงป้ายภูพิชิตภูกระดึงจะเป็นทางราบ เดินอีก 3 กิโล ถึงจะถึงจุดกางเต๊นท์ หรือถ้าโชคดีจะได้นั่งรถของเจ้าหน้าที่ที่โดยเป็นรถกระบะ(เก่าๆ) ถ้าได้ไปบอกเลยว่าคุ้มค่าเหนื่อยแน่นอนควรไปพักอย่างน้อย 2 คืนจะดีเพราผาเยอะมาก ไปคืนเดียวเดินเที่ยวไม่หมดแน่ๆค่ะ
ภูกระดึงเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่เป็นธรรมชาติที่แท้จริง ไปครั้งแรกเราจะได้บรรยากาศแบบหนึ่ง ไปครั้งที่2ก็ได้อีกแบบ พูดง่ายๆคือ ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ
คือโชคร้ายมาก จะขึ้นวันนี้ ตีห้าฝนตกจร้า แต่ก้อหยุดช่วงเช้า สายวันนั้นแลขึ้นอนาถสุดๆ ดินเลน แฉะมาก มองสภาพแล้วไม่น่าเชื่อว่า นี่กุไต่ขึ้นมาได้ยังไงว่ะ ลื่นชิหาย สุดท้ายไต่จนได้ วันต่อมาเดินชมธรรมชาติรอบภู ตีนแทบแตกจิงๆ คือเดินแล้วหยุดไม่ได้ ถ้าหยุดแล้วลงเดินใหม่น้ะเหมือนเท้าจะร้าวระเบิดเลย ส่วยทากๆม่ต้องพุดถึง ทั้งปูนที่โบกรองเท้าทั้งน้ำมันมวยทั้งยากันแมลงเอาไม่อยุ่จ้ะ เดินผ่านน้ำตกและลัดมาทางหน้าผาผ่านทางช้างผ่าน คือเดินในน้ำดีๆนี่เอง เลยปล่อยช่างแม่มแล้ะ สุดท้าย กัดให้เมิงกัดไปอิทาก อย่าให้เจอร่ะกัน สุดท้ายก้อเจอหลายตัวเลยเกาะหน้าแข้ง. ก้อแค่หยิบออกค่ะ ขากลับจากหล่มสักมืดมากก กรุณาเอาไฟฉายไปด้วยค่ะ เอาที่ส่องเห้นทาง น้องที่ไปเอาไฟมือฉายอันเล้กไปค่ะ ส่องมองแค่ปลายเท้านี่แสงเจือจางหมดร่ะ กลับมาต้มสุกี้กินที่ร้านป้าดึกๆนั่นแหละ ตัดไฟแล้วก้อไม่เปนอุปสรรคค่ะ ตื่นมาเดินลง โอเครน้ะ คือพื้นมันแห้งแล้วไง. แล้วพื้นก้อเปนพื้นดิน สามารถเดินเร้ว หรือเกือบวิ่งๆลัดๆมาพักบ้างไรบ้าง ก้อโอ ใส่รองเท้าแตะค่ะ เพราะไม่อยากใส่ให้ชนหัวเท้า. ปรากฏว่า กลับมานอกจากเดินยกขาขึ้นลงบันไดไม่ได้ไปเกือบสองอาทิด เล้บโป้งเริ่มทะยอยหลุดค่ะ แต่ก้อช่างมัน สรุปสนุกดี แต่ไม่รวรขึ้นหน้าฝน ทางลำบากเอี้ยๆ