Friend trip ที่แท้ทรู สำหรับการเดินทางขึ้นภูกระดึงฝั่งหนองผักบุ้ง เส้นทางธรรมชาต... อ่านเพิ่มเติม
Friend trip ที่แท้ทรู สำหรับการเดินทางขึ้นภูกระดึงฝั่งหนองผักบุ้ง เส้นทางธรรมชาต... อ่านเพิ่มเติม
หากจะเที่ยวภูกระดึงให้ครบ ต้องใช้เวลาหลายวันเลยทีเดียว แหล่งท่องเที่ยวมีความไกลจากจุดกางเต็นท์พอควร... อ่านเพิ่มเติม
การเดินทางขึ้ภูมีความยากลำบากมากแต่ในนั้นก็แผงไปด้วยความสวยงามและมิตรภาพที่ดีปับนักท่องเที่ยวที่จะแสวงหาประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตคือผู้พิชิตภูกระดึงจะขอแนะนำร้านค้าบนนั้นข้าวผัดหรืออาหารอื่นๆอร่อยมากราคาไม่แพงอิ่มมากเพราะทางร้านจะจัดมาให้เยอะมากจานเดียวอิ่ม
หากจะเที่ยวภูกระดึงให้ครบ ต้องใช้เวลาหลายวันเลยทีเดียว แหล่งท่องเที่ยวมีความไกลจากจุดกางเต็นท์พอควร จะเดินหรือปั่นจักรยานไปก็ตามสะดวก ด้วยอากาศอันหนาวเหน็บ ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนมหัศจรรย์ ภูกระดึง จึงเป็นอีกสถานที่ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต ไปเสียแต่ตอนนี้ ตอนที่เรายังมีแรงเหลืออยู่
การเดินทางขึ้นภูกระดึงดินแดนที่มีเสน่ต์ทางธรรมชาติอันสวยงามมากมายหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปดูน้ำตกสวยๆหรือหน้าผาที่งดงามเมื่อได้ไปเยือนหรือจะเป็นการเดินป่าดูธรรมชาติที่สวยงามพันธ์ไม้ต่างๆนานาพันธ์และมิตรภาพระหว่างการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่มีน้ำใจช่วยเหลือในการเดินทางขึ้นภูกระดึงนับว่าเป็นอีกแห่งที่นักแสวงหาการผจญภัยไม่ควรพลาด
ทางขึ้นเหนื่อยแล้ว แต่ทางลาแย่กว่าจ้า เพราะมันเหนื่อยมันล้ามันเข่าทรุด แต่ก็เป็นที่ๆ คุ้มที่จะไป เป็นภูที่สบายที่สุดด้านการเตรียมของ เพราะเค้ามีขายทุกอย่างทั้งตามทางและบนภู เรื่องชาร์จแบทก็ไม่ต้องเป็นห่วง มีบริหารตามร้านอาหารและตรงเจ้าหน้าที่จ้า (แต่มีคิดค่าชาร์จบ้างไม่มีบ้างแล้วแต่ที่นะเออ) ห้องอาบน้ำพร้อม ห้องส้วมครบ แค่ไม่สบายเหมือนที่บ้าน (แต่สบายกว่าหลายๆ ภู หลายๆ เขา) น้ำมีขายแต่แพง (แต่ก็รับได้เพราะเค้าก็แบกขึ้นมาเหมือนกัน) มีที่เที่ยวเยอะมาก แบบไปนอน 3-4 คืนก็ยังได้ อากาศดี แนะนำให้ไปช่วงที่คนไม่เยอะนะ เพราะถ้าไปกันเยอะแล้วทุกอย่างจะช้าไปหมด ตั้งแต่เรื่องกิน อาบน้ำ เข้าห้องน้ำ ยันตอนเที่ยว ตอนขึ้น-ลงเขา
การที่ใครๆจะไปเยือนภูกระดึงได้นั้นร่างกายต้องพร้อมและใจต้องถึงเพราะระยะทางไกลและต้องเดินเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแนะนำเอาของที่จำเป็นไปเท่านั้นและที่เหลื่อก็ซื้อเอาข้างบนดีกว่าเพราะค่าลูกหาบกับราคาของข้างบนพอๆกันครับ
ครอบครัวเราไปเที่ยวภูกระดึงเป็นครั้งแรก เป็นการไปเคาน์ดาวน์ในช่วงขึ้นปีใหม่ 2019 ตอนแรกไม่แน่ใจว่าจะไปดีหรือไม่ เนื่องจากได้ยินได้ฟังมาเยอะว่าทางขึ้นโหดมาก ประกอบกับตัวเองก็อายุมากแล้ว กลัวว่าจะขึ้นไม่ไหว และกลัวว่าจะต้องไปอยู่อย่างลำบากกลัวอดอยาก.... แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจไปจนได้ และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด....
ทางขึ้นภูกระดึง ถ้าสำหรับเด็กๆและวัยรุ่น คงเป็นเรื่องที่ไม่ยากเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่อายุใกล้ 50 ถือว่าโหดร้ายกับขาและเข่ามาก...แม้ว่าเราจะออกกำลังกายสม่ำเสมอก็ยังต้องยอม... เพราะที่นี่เป็นทางขึ้นที่สูงชัน ต้องปีนป่ายอยู่ตลอด เป็นการเดินขึ้นแบบยาวนานจริงๆ รู้สึกต้องเดินขึ้นแบบไม่มีวันสิ้นสุด...จนบางครั้งเริ่มท้อ ว่าเมื่อไหร่จะถึงเสียที...โชคดีที่ได้ลูกวัยรุ่นไฟแรงคอยให้กำลังใจ...ทำให้ขึ้นไปถึงในที่สุด ใช้เวลา เกือบ 4 ชั่วโมง โดยไม่มีอาการบาดเจ็บ...
พอขึ้นไปถึงยอดภูกระดึงแล้ว รู้สึกได้เลยว่าอากาศดีมาก หายใจได้เต็มปอดจริงๆ มันเหมือนเป็นการหยุดเวลาไว้ตรงนั้น ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่นๆ ปล่อยวางทุกอย่าง คิดแค่ว่าทำอย่างไรให้ไปถึงจุดหมายเสียที ตั้งใจเดิน... เดิน... แล้วก็เดินเท่านั้น...
มันเป็นความเงียบสงบ ผ่อนคลาย ที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน ไม่มีรถยนต์ ไม่มีเสียงใดๆมารบกวน นอกจากเสียงของลมพัดกับเสียงลมหายใจของตนเอง...
ตลอดทั้ง 2 วัน เราเดินไปทั่วทุกแห่ง ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต...ถือว่าเดินมากที่สุดที่เคยท่องเที่ยวมา ระยะทางเดินไป-กลับภายใน 1 วัน รวมๆกันแล้วประมาณ 30 กิโล...
ทุกที่่สวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ มีความเงียบสงบ ได้พักใจพักสมองอย่างเต็มที่จริงๆ...
สำหรับที่พัก...ครอบครัวเราพักในบ้านพักชื่อว่า เอพริล 3 เป็นบ้านพักสำหรับ 6 คน ที่ไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่แค่พออยู่ได้ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆนอกจากที่นอนและผ้าห่ม...มีห้องน้ำส่วนตัวในห้องพัก(ที่เราคิดว่าห้องน้ำรวมยังน่าใช้กว่า)...มีถังน้ำไว้รองน้ำอาบ มีขันน้ำให้ 1 ใบ และขอบอกว่าน้ำที่นี่เย็นยิ่งกว่าน้ำในตู้เย็นเสียอีก...ในห้องพักไม่มีช่องเสียบปลั๊กใดๆ สามารถเปิดไฟในห้องพักได้ตอน 18.00-22.00 เท่านั้น...หลังจากนั้นก็อยู่ในความมืด...ซึ่งส่วนตัว เราคิดว่านอนเต้นท์น่าจะดีและสนุกกว่าบ้านพัก...คิดว่าครั้งต่อไปจะนอนเต้นท์แน่นอน...
ในเรื่องอาหารการกิน บนภูกระดึงถือว่าเป็นที่ซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้านอาหารที่สุด ไม่อดอยากแน่นอน มีร้านอาหารมากมาย มีทั้งข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง โจ๊ก ปาท่องโก๋ และอีกสารพัดอย่างให้เลือกกิน ไม่ต้องกลัวอด แค่เตรียมเงินมาให้พอเท่านั้น ในวันที่ไปข้าวราดแกงสองอย่างราคาประมาณจานละ 60- 80 บาท ก๋วยเตี๋ยว 60 บาท น้้ำเปล่าขวดเล็ก 30 บาท หมูกะทะชุดละ 500 บาท ก็เป็นราคาที่สมเหตุสมผล เพราะของทุกอย่างต้องจ้างลูกหาบแบกขึ้นมา...
ถึงเวลากลับ...ถ้าใครคิดว่าโล่งแล้ว ไม่ต้องปีนขึ้นอีกต่อไป ได้เดินลงเสียที...
ส่วนตัวขอบอกว่าการลงเขานั้นยากและหนื่อยมากกว่าการขึ้นเขาเสียอีก...เพราะทางลงนั้นสูงชัน แทบไม่มีที่ให้เกาะ แถมต้องใช้พลังขาเป็นอย่างมากในการเบรค เพื่อไม่ให้ลื่นไถล...นอกจากนี้ทางลงยังลื่นมากๆ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพื้นทราย...ถ้าก้าวไม่ดีก็ลื่นล้มได้ง่ายๆ...วันที่เราลงเขา ก็มีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุลื่นตกเขาด้วย...ก็ต้องมีทีมกูภัย 6 คน ช่วยกันแบกลงมาซึ่งทุลักทุเลและลำบากมาก กว่าจะลงมาถึงด้านล่างและรีบนำส่งโรงพยาบาล....
ภูกระดึง ทั้งโหด ทั้งเหนื่อย ...ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจมาควรเตรียมร่างกายให้พร้อมเสียก่อน...แต่ขอบอกเลยว่าที่นี่คุ้มค่ามาก...คุ้มกับความเหนื่อยจริงๆ...