ไปช่วงกลางวันอากาศร้อนมาก ไปเกินเล่นถ่ายรูปวัดสวยๆ ถ้าจะให้ดีควรมาตินกลางคืน... อ่านเพิ่มเติม
ไปช่วงกลางวันอากาศร้อนมาก ไปเกินเล่นถ่ายรูปวัดสวยๆ ถ้าจะให้ดีควรมาตินกลางคืน... อ่านเพิ่มเติม
ที่นี่เป็นวัดที่มีชื่อเสียง เริ่มพลบค่ำสัก 5 โมงก็มีผู้คนทยอยเข้ามาจับจองพื้นที่กันแล้ว... อ่านเพิ่มเติม
เป็นวัดที่สวยงามมาก ต้นแบบอุโบสถมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว ไปตอนเย็นบรรยากาศดี สวยงามมากๆ สามารถชมวิวช่องเม็กและ ฝั่งลาว รอชมพระอาทิตย์ตกดิน และรูปต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงที่ด้านหลังอุโบสถ
สวยงามประทับใจ
วัดสวยมากค่ะ ทางขึ้นสะดวกสะบาย ลานจอดรถกว้างขวางห้องน้ำมีเพียงพอสำหรับทุกคน จากวัดมองเห็นฝั่งลาว มองเห็นแม่น้ำโขงพระอาทิตย์ตกดินสวยและโรแมนติกมาก ไฮไลต์สำคัญอยู่ตรงที่ด้านหลังโบสถ์ต้นมีต้นโพธิ์เรืองแสงและลานด้านหลังเรืองแสงหมดเลยค่ะ ใครไม่ไปถือว่าพลาด
ตอนแรกที่ไปนึกว่าเป็นวัดทั่วไปที่อยู่บนจุดชมวิวสวยๆ แต่ไม่ใช่เลย วัดนี้มีความพิเศษมากค่ะ มีส่วนที่เรืองแสงได้ เคยไปทั้งกลางวันและกลางคืน กลางวันก็สวยเห็นลวดลายวัดชัดเจน พอตกกลางคืนลวดลายหลังวัดจะเรืองแสงเพราะรอบข้างมืดหมด นอกจากนี้ยังเห็นดาวบนท้องฟ้า + อากาศเย็นสบายดีอีกด้วยค่ะ
ระยะทางค่อนข้างไกลจากตัวเมือง
ควรเดินทางไปก่อนพระอาทิตย์ตก เพราะจะได้ดูพระอาทิตย์ตกไปด้วย พอเริ่มมืด ผนังวัดจะเรืองแสง
รอบนี้ไป ทางเดินก็มีการทำลายให้เรืองแสง
น่าตื่นตาตื่นใจดีครับ
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือนิยมเรียกกันว่า "วัดเรืองแสง" ตั้งอยู่ที่ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ บริเวณบนยอดเขาจะมองเห็น"พระอุโบสถสีทอง"ตั้งเด่นเป็นสง่า จุดเด่นของวัดแห่งนี้ที่โด่งดังไปไกลทั่วโลกคือ การได้มาชมภาพเรืองแสงเป็นสีเขียวของของต้นกัลปพฤกษ์ที่เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถในยามค่ำคืน ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมและถ่ายภาพคือ ตั้งแต่เวลา 18.00น-19.30 น. ซึ่งหากท้องฟ้าเปิดอากาศแจ่มใสก็จะได้เห็นดวงดาวมากมายเต็มท้องฟ้า อีกด้วยครับ แต่!!ภาพเรืองแสงนี้หากมองด้วยตาเปล่าจะเห็นเพียงเล็กน้อย จะไม่เห็นเป็นสีเขียว,สีน้ำเงินและสีอื่นๆได้ชัดเจนนักยกเว้นรูปภาพที่ถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพครับ (เทคนิคการถ่ายรูป ตั้งค่ากล้อง ไปที่โหมด M ดัน ISO ไปที่ 200 ตั้งค่า F ไปที่ 2.8 ความเร็วชัตเตอร์ ไปที่ 60 ครับ โดยการใช้ขาตั้งกล้องเพื่อไม่ให้ภาพสั่นไหวในขณะตั้งเวลาในการถ่ายภาพครับ)จะได้รูปที่งดงามเหนือคำบรรยายครับ การถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือ ก็สามารถถ่ายได้แต่ ความคมชัดของแสงและของสีจะด้อยลงไปเยอะครับโดยปรับโหมดไปที่"HDR" เพื่อเพิ่มความสว่างของรูปครับ วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ซึ่งเป็นวิวลำน้ำโขง และบริเวณด้านหลังพระอุโบสถเป็นจุดชม วิวทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาวและมองเห็นด่านช่องเม็กรวมทั้งอ่างเก็บน้ำที่ อยู่บริเวณเชิงเขาคล้ายกับทะเลสาป โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินเราเราจะได้เห็น"พระอาทิตย์อัสดง"ซึ่งเป็นบรรยากาศที่สวยงามมาก สำหรับ"ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง"และพื้นที่อื่นรอบๆบริเวณวิหารแห่งนี้ที่เรืองแสงได้ทั้งหมด เป็นฝีมือการออกแบบที่สุดแสนจะงดงามและวิจิตรบรรจงของคุณ"คุณากร ปริญญาปุณโณ" เป็นผู้ลงมือติดโมเสกแต่ละชิ้นด้วยตัวเอง โดยมีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ในภาพยนตร์เรื่อง"อวตาร" โดยใช้ "สารเรืองแสง" หรือ "สารฟลูออเรสเซนต์" คุณสมบัติของสารฟลูออเรสเซนต์จะรับแสงพระอาทิตย์ ในตอนกลางวันดังนั้น "ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง"จึงได้มีการหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อรับแสงได้เต็มที่ในเวลากลางวัน ก็เลยเหมือนเป็นฉากกั้น พลังงาน และในช่วงเวลาตอนกลางวัน แล้วจะคลายพลังงานแสงออกมาในตอนกลางคืน ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจาก "วัดเชียงทอง" ประเทศลาว เสาแต่ละต้นเขียนลวดลายด้วยมือ สวยงามอ่อนช้อยและละเอียดอ่อนมากๆครับ "พระอาจารย์บุญมาก"เป็นผู้ริเริ่มในการก่อสร้างวัดแห่งนี้โดย ท่านเป็นคนฝั่งลาวจำปาสักเข้ามาเผยแพร่อบรมสมาธิทางฝั่งไทยณ.บริเวณวัดแห่งนี้จนต่อมาปี 2516ท่านได้ขอบิณฑบาตพื้นที่ให้เป็นวัดจากทางหน่วยทหารและทางราชการอ.พิบูลมังสาหาร ทางอำเภอจึงให้ตั้งชื่อวัดว่า วัด"สิรินธรวราราม"หลังจากนั้นท่าน"พระอาจารย์บุญมาก"ต้องกลับประเทศลาว ทิ้งให้วัดร้างหลายสิบปีจนกระทั่ง "พระครูกมล" ลูกศิษย์ของท่านได้ค้นพบวัดอีกครั้งและบูรณะให้กลับมาเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมได้ดังเดิม หลังจาก พระครูกมล ละสังขารไปในปี 2549 พระครูปัญญาก็เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดและสานต่องานสร้างวัดต่อไปจนงดงามและโด่งดังไกลไปทั่วโลกในนามชื่อว่า"วัดเรืองแสง"แห่งลุ่มแม่น้ำโขง ของสยามประเทศ ครับ
การเดินทางค่อนข้างล่างลำบาก หากไม่มีรถส่วนตัว เพราะไกลจากตัวจังหวัดอุบลพอสมควร แต่พอไปถึง และได้เจอกับสิ่งที่รอคอย ก็ทำให้หายเหนื่อยทันที เพราะสวยมาก วิวด้านบนสามารถมองเห็นด่านชายแดนช่องเม็ดแล้วประเทศเพื่อน ประเทศลาวได้อย่างชัดเจน รวมถึงแม่น้ำโขงอีกด้วย ซึ่งบอกเลยไม่ควรพลาด