ชื่อเดิมของเขื่อนแห่งนี้ ชื่อว่า " เขื่อนเชี่ยวหลาน"เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก ต่อมาได้รับ... อ่านเพิ่มเติม
ชื่อเดิมของเขื่อนแห่งนี้ ชื่อว่า " เขื่อนเชี่ยวหลาน"เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก ต่อมาได้รับ... อ่านเพิ่มเติม
ในหลวง ร.9 ทรงพระราชทานนามว่า "เขื่อนรัชชประภา” ซึ่งมีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร... อ่านเพิ่มเติม
หากท่านได้มาสัมผัส บรรยากาศแห่งธรรมชาติโดยแท้จริง
จะรับรู้ได้ว่า เขื่อนเชี่ยวหลานแห่งนี้ เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างดี
น้ำใส ส่องสัตว์ มองปลาว่ายน้ำ
รับรอง คุ้มค่ากับการเดินทางแน่นอน
เขื่อนเชี่ยวหลาน (เขื่อนรัชชประภา) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมากเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเนื่องจากต้องลงเรืออาจไม่สะดวกในการพาเด็กเล็กมาพักที่แพ
สมควรไปพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ เล่นน้ำ มีปลาว่ายเวียนให้เห็น ค่ำๆไปส่องสัตว์ เห็นกระทิง ป่า กลางวันขึ้นไปชมถ้ำ สวยงามมาก นั่งพักดูครอบครัวนกเงือก ที่ทำรัง ดูแลลูกขณะที่แม่ไปหาอาหาร บางกลุ่ม ทำสมาธิ เล่นโยคะ แล้วนั่งเรือ ชมภูเขาหินปูน มีชื่อตามรูป ลักษณะ น้ำใส เขียว ไม่มีกลิ่น นี่หาโอกาส จะไปอีก
เมื่อลงเรือจากท่าเรือเราไว้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อเดินทางไปดูเขาสามเกลอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ กุ้ยหลินเมืองไทย (แต่เราชอบเขาสามเกลอมากกว่านะ เพราะยังไงก็เป็นชื่อแบบไทยอะ) เป็นเขาที่โผล่พ้นน้ำ ล้มรอบไปด้วยน้ำสีเขียวสวยสดใส และภูเขาที่มีต้นไม้ขึ้นประปรายสวยงาม และเข้าแพพัก (เราพักที่แพสายชล ดีมากมากเลยขอแนะนำ) และเมื่อกินข้าวเที่ยงเสร็จเราก็เดินทางไปเพื่อดูถ้ำประการัง เราต้องเดินข้ามเขาลูกเล็กๆ 1 ลูก ทางเดินค่อนข้างลำบากสำหรับผู้สูงอายุ แต่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัย หลังจากเดินทางถึงอีกฝั่งหนึ่ง เราจะต้องเดินทางไปยังถ้ำปะการังโดยใช้แพ เมื่อไปถึงจะเห็นถ้ำที่เป็นหินงอกหินย้อย ภายในเป็นโถงขนาดพอประมาณ มีหินเป็นรูปทรงคล้ายปะการัง (ภายในมีหินถูกทำลายไปพอสมควร ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว อย่าจับและทำลายหินที่เหลืออีกเลยนะ) จากนั้นเราก็เดินกลุับทางเดิมเพื่อ แล้วก็กลับแพพัก เพื่อเล่นน้ำและพายเรือคายักเล่น น้ำใสมาก และเย็นมาก เราเจอปลากระโดดด้วยนะ บรรยากาศดีมาก รายล้อมไปด้วยภูเขาและมีแสงแดดอ่อนๆ จากนั้นก็กินข้าวเย็นแล้วนอน เช้าวันต่อมาเราตื่นแต่เช้าไปดูสัตว์ ตอนกลางคืนในไม่ตกเลยไม่มีหมอก (เสียใจเล็กน้อยพอประมาณ) จากนั้นเราก็กินข้าวเช้าแล้วนั่งเรือกลับท่าเรือโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากจะเป็นน้ำที่ใสมาก บรรยากาศที่ดีงามแล้ว อีกอย่างคือการที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้เราสามารถใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับตัวเองและเพื่อนๆได้มากที่สุด
การเข้าพักแพในเขื่อนเป็นสิ่งที่สุดยอดมาก คุณจะได้ใช้เวลากับตัวเองและเพื่อนฝูงอย่างเต็มที่ ทั้งกิจกรรมเล่นน้ำ พายคายัค เดินป่า สำรวจถ้ำ หรือจะแค่ใช้เวลาสบายๆกับหนังสือเล่มโปรดกับวิวแผ่นน้ำสีมรกต ภูเขา และสายหมอก(ที่มีมากในฤดูฝน) ถ้าเข้าไปในแพแล้วบางที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ และไฟฟ้าปั่นอาจมีบริการเป็นช่วงเวลา แตกต่างกันไปในแต่ละแพพัก
ขอชื่นชมในการจัดการในเรื่องการท่องเที่ยวภายในเขื่อน
ที่สะอาด ทำให้ได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามจริงๆ
เหมาะกับคู่รัก ครอบครัวและกลุ่มเพื่อนๆที่จะเดินทางไป
พักผ่อน และหากคุณมีโอกาสได้พักค้างคืนในเขื่อน
คุณจะรู้สึกเต็มอิ่มกับสิ่งที่ได้รับ