ชื่อเดิมของเขื่อนแห่งนี้ ชื่อว่า " เขื่อนเชี่ยวหลาน"เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก ต่อมาได้รับ... อ่านเพิ่มเติม
ชื่อเดิมของเขื่อนแห่งนี้ ชื่อว่า " เขื่อนเชี่ยวหลาน"เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก ต่อมาได้รับ... อ่านเพิ่มเติม
ในหลวง ร.9 ทรงพระราชทานนามว่า "เขื่อนรัชชประภา” ซึ่งมีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร... อ่านเพิ่มเติม
ผมกับเพื่อนๆ หลายคนไปเที่ยวและพักที่เขื่อนรัชชประภา(เชี่ยวหลาน) เมื่อต้นเดือน ธ.ค.58 พักที่เรือนรับรอง และได้ลงเรือไปชมทิวทัศน์ในตอนเช้า บรรยากาศดีมาก และทิวทัศน์สวยงามมาก มีทะเลหมอกในตอนเช้า ใช้เวลานั่งเรือชมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ประทับใจมาก สถานที่พักก็ถือว่าดีมาก สนามกอล์ฟสวยมาก เหมาะสำหรับมาพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนๆ แต่มีข้อด้อยเพียงอย่างเดียวคือ ไม่ค่อยมีกิจกรรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง นอกจากอุทยานเขาสกซึ่งห่างไปประมาณ 40-50 กิโลเมตร
เป็นประสบการณ์ครั้งแรก ที่ได้ไปสัมผัส เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ กุ้ยหลินเมืองไทย สวยงามมาก จนแทบลืมหายใจ ท้องฟ้า และผื่นน้ำกว้างใหญ่สุดตา สูดอากาศสดชื่น นอนชิลๆที่แพ 500 ไร่ ใช้ชีวิตหลีกหนีความวุ่นวาย เหมาะกับการไปหาที่ชาร์ตแบตเติมพลังชีวิตอย่างมากเลยค่ะ
ครั้งแรกที่ไปเห็น สวยมากๆ ณจุดชมวิวก่อนลงเรือ มีภูเขากับที่ฟ้าที่ไม่มีเมฆทำให้มองเห็นท้องฟ้าสีฟ้าสว่างสดใส นั่งเรือไปชมกุ้ยหลิน ระยะทางก็ไกลพอสมควร บรรยากาศดี คุ้มค่าแก่การเดินทาง คุณต้องไปสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วคุณจะติดใจ
หนีความวุ่นวายในเมืองหลวง ไปเขาสกสถานที่อันเงียบสงบ
ใครอยากไปพักผ่อนแบบพักผ่อนจริงๆแนะนำเขาสก อากาศเย็นๆรับลมอ่านหนังสือ
เนื่องจากช่วงเดือนที่ผ่านมา มีเพื่อนที่ทำงานได้โทรมาถามว่าสนใจจะไปเที่ยวแพ500ไร่ไหม เขาเดินอยู่งานท่องเที่ยวไทยแล้วพบโปรโมชั่นพิเศษ
โปรแกรม 3วัน2คืน พักแพ 500ไร่ 1 คืน พักภูผาและลำธารที่เขาสก อีก 1คืน แต่ต้องไป 4คน นะ หัวละ 4500 ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร ตอบตกลงไปทันที
ทั้งๆที่ไม่รู้จักแพ 500 ไร่มาก่อนเลย
วันแรก
โดยที่ทางพวกเรา เดินทางกัน 4คน ขับรถไปกันเอง ออกเดินทางตั้งแต่ 5โมงเย็นวันพุธ แวะทานข้าวแถวสมุทรสงคราม
ขับรถมาถึง อ. ฉวี ตอนเที่ยงคืน เข้าพัก โรงแรมข้างทาง คืนละ 400 บาท ห้องพักค่อนข้างดี ใหม่ สะอาด ที่นอน นุ่ม แอร์เย็นสบาย แถมอาหารเช้าอีก
วันรุ่งขึ้น ตื่น 6โมงเช้า ทานกาแฟ พร้อมออกเดินทาง ถึงบ้านตาขุน ซึ่งเป็น ออฟพิศของแพ 500ไร่ ตามเวลานัด 9 โมงเช้าพอดี โดยขับรถไปจอดไว้ที่ออฟพิศ ที่จอดมีร่มให้ มีคนคอยดูแล ประมาณเกือบ 10 โมงรถตู้ก็ออกเดินทางสู่สันเขื่อน โดยปล่อยให้ถ่ายรูป 20 นาที หลังจากนั้นก็เดินทางต่อสู่ท่าเรือโดยมีเจ้าหน้าที่มาดูแล ช่วยขนของ ยกกระเป๋าลงเรือ บริการอย่างดี นั่งเรือไปชมธรรมชาติไป ใช้เวลาประมาณ 45 นาที วันนี้แดดดีมากเลย มีสแลนสีดำคุลมให้นิดหน่อย ใครไม่ได้ทาครีมก็หน้าไหม้แบบมีเดี่ยม ลมพัด + น้ำกระเซ็นเป็นระยะ พอทำให้คลายร้อนไปได้ อยากจะบอกว่า น้ำใสมว๊ากกกก นึกว่าอยู่ในทะเล สีเขียวมรกตเลย นั่งเรือมาซักพักถึงเขาสามเกลอ ถือว่าเป็นไฮไลท์ในจุดนี้ หลังจากดื่มด่ำกับธรรมชาติเสร็จ ก็เดินทางต่อมาที่พักครับ ใช้เวลาประมาณ 20นาทีก็มาถึง เดินมาดูที่พัก สวยจริงๆ น้ำนิ่ง ใส เห็นแล้วอยากจะกระโดดน้ำ ณ ตอนนั้นเลย มาถึงแล้วพนักงานต้อนรับมี Welcome Drink มาเสริฟ์ พร้อมทั้ง อาหารเที่ยง
อยากจะบอกว่านอกจากจะประทับใจ บรรยากาศกับที่พักแล้ว อาหารที่นี่ อร่อยจริงๆ แถมหมดแล้วเติมได้ด้วย ห้องพักที่เราอยู่เป็นห้องพักแบบ 4 คน มีชั้นลอย กะชั้นล่าง
เตียงกับหมอน นุ่มมากกกก นอนสบายครับ แต่แอร์ที่นี่เปิดให้ใช้ได้ตอน 6โมงเย็น ถึง 9 โมงเช้า
เพื่อที่ให้ทุกคนได้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ แอร์ไม่มี
วันที่ 2
เตรียมตัวเดินทางต่อ ถึงฝั่งเรานั่งรถตู้มาที่ออฟพิศเพื่อจะเดินทางต่อ คืนนี้เราจะไปพักที่ ภูผาและลำธาร จากบ้านตาขุน ขับรถไปประมาณ 45นาที มาถึงที่พักแล้ว อยู่ติดริมน้ำและภูเขา บรรยากาศดีอีกแล้ว ห้องพักที่นี่ สภาพปานกลาง น่าจะสร้างมานานแล้ว เตียงนอนสบาย แอร์เย็น วิว A++ มีมุ้งครอบสร้างบรรยากาศด้วย ข้อเสียของที่นี่ ที่โดมอาหาร ด้านล่าง จะอยู่ติดกับลำธาร.. ยุงเยอะสุดๆ พวกเราต้องขอทานอาหารเย็น ตอน 6โมงเย็น ซึ่งทางรีสอร์ทก็จัดให้ เนื่องจากคิดว่าถ้า มาทานตอน ทุ่มนึง คงจะทนยุงกันไม่ไหวแน่นอน ทานเสร็จก็เข้านอน พักผ่อนกัน
ธรรมชาติที่งดงาม...การได้ไปสัมผัส ได้เห็น พื้นน้ำที่กว้างใหญ่ ภูเขาหินปูนสูงต่ำ ที่แปลกตา
ช่างตื่นตา ตื่นใจ จริงๆ ไม่เคยเห็นทะเลสาบที่สวยขนาดนี้มาก่อน ได้ไปพักที่แพ 500 ไร่
ช่างสบายใจจริง ๆ ทั้งเจ้าของ ที่บริการอย่างดี มีอาหารที่อร่อยให้ทานได้ไม่อั้น ห้องพักก็สะอาด
มีกิจกรรมให้ได้เลือกหลายอย่าง ล่องแพ พายเรือคายัค ชมถ้ำ และเที่ยวชมหมู่เกาะต่างๆ ชอบมาก
และที่สำคัญเล่นน้ำได้ทั้งวัน แต่ต้องใส่เสื้อชูชีพด้วย เวลาที่ได้มาพักและได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์รู้สึก สบายใจ มีความสุข สงบ เหมือนได้มาชารจ์พลังให้กับตัวเองได้เต็มที่
ถ้ามีโอกาสอยากจะกลับไปเที่ยวที่นี่อีก เมืองไทย ของเราก็ไม่คืดว่าธรรมชาติจะสวยงามไม่แพ้ต่างประเทศเลยทีเดียว