ประทับใจที่นี่มากกกกกก !
ตอนแรกโทรไปจองแพอื่นๆ ที่มีสิ่งอำนวยความดวกครบ
มีสระว่ายน้ำ ติดแอร์มี wifi แต่ส่วนใหญ่เต็มยาวไปถึงสิ้นปี
แต่ด้วยความที่ยังไงก็อยากไปนอนแพให้ได้ เลยตัดสินใจจองที่นี่
แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย
ทางเข้าไปท่าเรือรีโซเทลค่อนข้างลำบากนิดนึง จอดรถทิ้งไว้ที่ท่าเรือได้ฟรี
นั่งเรือประมาณ 20 นาทีก็จะถึงรีสอร์ท ดูกลมกลืนกับธรรมชาติมากๆ
ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีไฟฟ้าทุกประเภท ขอย้ำ ! สัญญาณโทรศัพท์ก็ติดๆขาดๆ
ทำให้ 1 วัน 1 คืนที่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เหมือนได้ไปพักผ่อนจริงๆ ตัดขาดจากโลกภายนอก
ใช้ชีวิตแบบสโลลลลว์ไลฟ์มากๆ นอนฟังเสียงน้ำไหล เสียงธรรมชาติ แล้วก็เสียงคนกระโดดน้ำ
ตูมๆๆๆ มันทำให้อดใจไม่ไหว ต้องเปลี่ยนชุด สวมชูชีพ ไปกระโดดลงน้ำบ้าง น้ำเย็นชื่นใจ
กระแสน้ำค่อนข้างแรงอยู่ ใครว่ายน้ำไม่แข็ง ไม่ควรลงจริงๆ ไม่งั้นก็เกาะๆอยู่แถวแพหน้าห้องดีกว่า
แต่เราเดินไปต้นแพ กระโดดตู้ม ปล่อยตัวลอยลิ่วๆไปกับสายน้ำ
ซักพักลอยไปอยู่กลางแม่น้ำ ว้ายๆๆๆ รีบว่ายกลับทันตอนถูกกระแสน้ำพัดเรื่อยๆไปท้ายแพ
เหนื่อยมากค่ะ ขอบอก 2 - 3 รอบก็หมดแรง
ก่อนพระอาทิตย์ตกเค้าก็จะเริ่มจุดตะเกียง มีให้ 2 อัน ต่อห้อง พอมืดปุ๊ปจะโรแมนติกมากก
เราได้อาหาร 2 มื้อจากแพคเกจ โดยจะถูกจัดเป็นชุดเสิร์ฟตามจำนวนคนที่จองไว้
สามารถเติมได้หากไม่อิ่ม อาหารเย็นมี 5 อย่างนะ ถ้าจำไม่ผิด กินกันสองคน อิ่มมากกก
เดินเล่นให้อาหารย่อย นั่งคุยนู่นนี่สารพัด เวลาเดินช้ามาก แค่ 2 ทุ่มก็ไม่มีอะไรจะทำแล้ว
หัวค่ำ อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว มี พัดให้2อัน ก็นอนพัดกันไป เดี๋ยวก็เคลิ้มหลับ
อากาศเริ่มเย็นตอนดึกๆ ฝนตกปรอยๆ ตื่นเช้ามาอากาศจะสดชื่นเย็นสบาย
อาหารเช้าอร่อยทุกอย่างเลย หรือเพราะหิวก็ไม่รู้ แหะๆ
ก็เป็นแบบอเมริกันทั่วไป เติมได้จนกว่าจะอิ่ม
ด้านหลังรีสอร์ทจะเป็นหมู่บ้านมอญ ก่อน checkout กลับ ก็แวะไปเดินเล่นชมวิถีชาวบ้านได้
มีของขายเล็กน้อย มีให้ขี่ช้างด้วย
ถ้าได้ไปหน้าหนาวคงฟินนน ไว้จะกลับไปอีก