เป็นร้านแนะนำเลยค่ะ ใครไปปราณบุรี หรือผ่านแถวนั้น แนะนำว่าต้องแวะให้ได้เลยค่ะ ที่นั่นเป็นทั้งร้านอาหารและที่พัก ถ้าไม่ได้พักก็แค่แวะทานอาหาร หรือแม้แต่ขนมหรือเครื่องดื่มก็ยังดี สถานที่ตกแต่งสวยงามคลาสสิค มีระดับมาก ดูเป็นธรรมชาติ ลมโกรกเย็นสบาย นั่งชิลสุดๆ มุมถ่ายรูปเยอะมากค่ะ อาหาร ขนม เครื่องดื่ม เค้ก ชุดอาฟเตอร์นูนทีอร่อยมากๆๆๆ เลยค่ะ ราคาก็ไม่ได้แรงมาก รับรองประทับใจแน่นอนค่ะ
BookingCom
Booking.com
Hotels.com
พักผ่อนริมทะเลปราณบุรี นอนฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ ลิ้มลองความอร่อยของเค้กมะพร้าว ของดีที่ la a natu bed & bakery
เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ต้องกลับมาพักเกือบทุกปี
เพราะติดใจในบรรยากาศ ความเป็นทุ่งนา โดดเด่นของดีไซน์การออกแบบ และความอร่อยของอาหารและเบเกอรี่นั่นเอง ใกล้ซัมเมอร์แบบนี้ ใครกำลังมองหาที่พักไว้คลายร้อน นั่งมองทะเลเพลินๆ สงบ นอนพักผ่อนสบายๆ ขอแนะนำที่นี่เลย ตอบโจทย์ทุกอย่าง
รอบนี้เราพักห้องข้าวเม่า เป็นห้องใหญ่สำหรับครอบครัว
มีห้องนอนทั้งด้านบนและด้านล่าง เตียงนอนยังนุ่มดูดวิญญาณเหมือนเดิม ห้องน้ำโล่ง โปร่ง ได้เข้าถึงธรรมชาติที่แท้ทรู
นั่งจิบชายามบ่ายกับเซ็ต afternoon tea สามารถเลือกนั่งริมทะเล หรือจะให้ส่งที่ห้องพักก็ได้เช่นกัน อย่สลืมที่จะสั่งเค้กมะพร้าวมาลองชิมกันด้วยนะ
เดินทางสะดวก ขับรถเพียง 3 ชั่วโมงก็ได้พักผ่อนริมทะเลปราณแบบนี้ รีบจองรอซัมเมอร์นี้กันเลย
ต้องขอชมตามตรงว่าเจ้าของที่นี่มีรสนิยมที่ดีมากๆ รีสอร์ทนี้ได้รับการออกแบบอย่างดีเยี่ยม ธรรมชาติ เป็นส่วนตัว และกิ๊บเก๋ทุกอนู ข้าวของที่ใช้ในห้องพักและในห้องอาหารก็ล้วนแล้วเป็นของที่มีคุณภาพ ดิฉันไปพักรีสอร์ทนี้เป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้ต่างจากที่เคยไปพักเมื่อหลายปีที่แล้วค่อนข้างมาก รีสอร์ทได้รับการปรับปรุงตกแต่งใหม่ให้ไฉไลและสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิม เสน่ห์ของรีสอร์ทแห่งนี้คือความเป็นธรรมชาติ และส่วนตัว มีห้องพักเพียงแค่ 12 ยูนิต โดยเป็นบ้านหลังเดี่ยวหรือวิลล่าริมทะเลพร้อมสระน้ำอุ่นออนเซ็นส่วนตัว 3 หลัง พูลวิลล่าริมทะเล 1 หลัง ซึ่งเป็นแบบ 2 ชั้น มีสระว่ายน้ำส่วนตัว มีวิลล่าไม้สไตล์โรแมนติค 2 ชั้นกลางทุ่งนาอีก 4 หลัง และห้องพักแบบซีวิว หน้าหาดอีกเพียงแค่ 4 ห้อง รีสอร์ทอยู่ติดทะเล ไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น มีหาดทรายยาว เดินเล่นได้ ลงเล่นน้ำได้ และมีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ เพียบจริงๆ ค่ะ ถ่ายได้สวยทุกมุมเลย ด้วยความที่มีห้องพักแค่ 12 ยูนิต จึงมีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องไปเบียดเสียดหรือยื้อแย่งอะไรกับใคร สามารถสูดโอโซนได้เต็มปอดอย่างมั่นใจ ห้องอาหารที่นั่นก็เป็นแบบเปิดโล่ง ทั้งในส่วนที่มีหลังคา และกลางแจ้งใต้ร่มไม้ เห็นวิวทะเล รับลมได้เต็มๆ อากาศปลอดโปร่ง ถ่ายเทได้สะดวกสบายทุกมุม มีสระว่ายน้ำระบบโอโซนกลางแจ้ง เตียงนอนเล่นริมสระ มุมนั่งเล่นรับลมชมทะเลหลายจุด ทั้งเก้าอี้โยก เก้าอี้เอนหลังได้ ชิงช้า ม้านั่งริมหาดมากมาย อาหารที่รีสอร์ทแห่งนี้ก็อร่อยมากๆ ทั้งคาวและหวาน เบเกอรี่และกาแฟ รวมถึงชุดน้ำชายามบ่ายต้องให้ 5 ดาวไปเลยจริงๆ ค่ะ พิถีพิถันทั้งคุณภาพและรสชาติ พนักงานก็น่ารักบริการดีทุกคนเลยค่ะ ที่ประทับใจเป็นพิเศษคือหัวหน้าห้องอาหารและคุณจ๋อม แผนกสำรองห้องพัก ที่ดูแลลูกค้าดีมากๆ ครั้งนี้ดิฉันไปพัก 4 คืน ได้พักวิลล่าริมหาด 2 คืน อีกสองคืนย้ายมาพักวิลล่ากลางทุ่งนาเนื่องจากวิลล่าริมหาดถูกจองเต็มหมด แต่ก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ จุดเด่นของวิลล่าริมหาดคือซีวิว 100% จากโซฟาในห้องสามารถมองเห็นทะเลได้เต็มๆ เดินออกมาเพียงไม่กี่ก้าวก็เจอชายหาดและลงทะเลได้เลย มีมุมให้นั่งเล่นถ่ายรูปหน้าหาดตรึม ร่มรื่นไปด้วยสนามหญ้าและต้นไม้ แถมมีห้องอาบน้ำแบบเห็นท้องฟ้า และมีสระน้ำอุ่นออนเซ็นส่วนตัวหลังบ้านให้แช่แก้อ่อนล้าด้วย บนเตียงนอนจะมีตุ๊กตาน้องควายน่ารักนิ่มๆ ให้นอนกอดหรือนำออกไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ในรีสอร์ทได้ ส่วนวิลล่ากลางทุ่งนาที่ย้ายไปพักคืนที่สามก็น่าประทับใจไม่แพ้วิลล่าริมทะเล ความชิลอยู่ที่มีห้องนั่งเล่นดูทีวีแบบห้องแอร์และลานนั่งชมทุ่งนาแบบเปิดโล่งชั้นล่าง พร้อมห้องน้ำและอ่างอาบน้ำคลาสสิค พอเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองก็จะเจอห้องน้ำอีกห้อง และห้องนอน ห้องน้ำเป็นแบบฝักบัว ออกแบบกลมกลืนกับธรรมชาติ ห้องนอนกิ๊บเก๋ด้วยเตียงไม้ไผ่สไตล์อีสาน มีเก้าอี้ให้นั่งเล่น มีทีวี และเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน น้ำดื่มมีให้ฟรีในห้องพักถึงห้องละ 8 ขวดต่อคืน รับรองว่าใจกว้างสุดในประเทศไทยและในสามโลกเลยค่ะ เตียงนอน หมอน และผ้าห่มนุ่มสบายอย่าบอกใคร นอนแล้วแทบไม่อยากลุกเลยค่ะ 4 คืนที่นั่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ประทับใจจนแทบไม่อยากเช็คเอ้าท์ค่ะ อ้อ ที่นั่นมีที่จอดรถสะดวกสบายนะคะ มีรถกอล์ฟขับเข้าไปส่งจากลานจอดรถถึงตัวรึสอร์ท หากใครไปประจวบฯ แนะนำให้ไปพักที่ลาเอนาตูเลยค่ะ ห้องแบบไหนๆ ก็สวยงามค่ะ เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้พักห้องพูลวิลล่าและห้องริมหาดแบบอื่นๆ ครั้งหน้าจะต้องหาโอกาสไปพักให้ได้ค่ะ ถ้าใครไม่มีโอกาสไปพัก อย่างน้อยได้แวะทานอาหาร เค้ก หรือกาแฟ ก็ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ คุณภาพเต็มร้อยจริงๆ ค่ะ แถมยังได้ดื่มด่ำบรรยากาศ กินลมชมวิว และเก็บภาพสวยๆ กลับบ้านด้วย มีคนที่แวะเวียนไปทานอาหารและขนมเยอะตลอดวันและทุกวันเลยค่ะ
บูติครีสอร์ตสุชิค สไตล์บาหลี ที่ถ้าไม่มาก็จะคุยกับใครไม่รู้เรื่องนะจ๊ะ
รีสอร์ทเก๋ ติดชายหาด สถานที่ดี บรรยากาศดี มีทุ่งนาข้าวอยู่กลางรีสอร์ท รีสอร์ทติดทะเล ห้องพักมีจำนวนไม่มากแค่ 12 ห้องเองจึงเงียบสงบมาก ที่พักเสมือนเป็นหาดส่วนตัว บรรยากาศ สงบและเป็นส่วนตัวมากๆ
มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะมาก
อาหารที่นี้อร่อยมาก พนักงานทุกคนให้บริการดีมากๆ ประทับใจมากกับบริการ
เงียบสงบ เหมาะกับการไปเที่ยวพักผ่อนมาก ห้องพักหน้าชายหาด มีความเป็นธรรมชาติ พนักงานยิ้มแย้มบริการดี ห้องพักสะอาด เหมาะกับคู่รัก หรือครอบครัวที่ต้องการการพักผ่อน ระยะทางไม่ไกลจากกทม.มากนัก หวังว่าจะได้กลับไปพักอีก
ยังคงวงเวียนอยู่กับทะเล ก็นี่มัน Summer นี่นา สถานที่ที่โหยหาอยากจะไปพักผ่อนนอนเล่นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น แสงแดดจ้า ท้องฟ้าใส น้ำทะเลสวย ถึงแดดเมืองไทยจะร้อนไปบ้าง แต่ใครๆ ก็อยากมาใช่มั้ยล่ะ...
ที่พักอีกสถานที่หนึ่งที่พอเราเดินผ่านประตูเข้าไปยังล็อบบี้ เสมือนเดินหายเข้าไปยังชนบท ท้องนา ทุ่งข้าวเขียวขจี แต่มีชายหาด... เอ๊ะ!! ยังไง la a natu bed & bakery รีสอร์ทระดับ 5 ดาวที่เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมไทย-ลาว ผสมผสานศิลปะร่วมสมัยเพื่อดึงเสน่ห์ทั้ง 2 วัฒนธรรมออกมาได้อย่างชัดเจน สัมผัสได้ถึงกลิ่นท้องทุ่ง ไอดิน และลมทะเล โครงสร้างส่วนใหญ่ทำด้วยไม้จากธรรมชาติผสมผสานปูนเปลือยอย่างกลมกลืน ภายในล็อบบี้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ดูไปดูมาเหมือนยุ้งฉางข้าวหลังเก็บเกี่ยว มีชุดเก้าอี้รับแขกตามมุมต่างๆ ที่ถูกออกแบบให้เป็นกระสอบใส่ข้าวสาร เครื่องประดับประดาตกแต่งทั่วรีสอร์ทให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ชนบทที่เงียบสงบ แต่คงความสะดวกสบาย ห้องพักแบบ “ทรอปิคอลวิลเลจ” อยู่ท่ามกลางผืนนาข้าว มีใต้ถุนสูง ด้านบนเป็นห้องนอนและห้องน้ำพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใต้ถุนจะมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ตัวท่ามกลางท้องทุ่ง ส่วนโซนติดทะเลพร้อมให้คุณเดินลงชายหาดสัมผัสเม็ดทรายสีขาวละเอียด สำหรับห้องแบบ “ลอฟท์สวีท” เป็นอาคารสไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น ด้านล่างมีอ่างจากุชชี่กับสระว่ายน้ำส่วนตัวติดกับห้องนั่งเล่น ด้านบนเป็นห้องนอน ส่วนแบบ “ทรอปิคอลคอทเทจ” เป็นห้องเดี่ยวที่ออกแบบสไตล์บ้านชาวประมง ประตูและหน้าต่างเป็นกระจกใสเต็มบานหันหน้าออกทะเลรับลมอุ่นๆ และฟังเสียงคลื่นยามค่ำคืน... อากาศดีๆ ของวันใหม่เริ่มต้นด้วยอาหารเช้าแบบอราคาสบนชั้น 2 ของล็อบบี้ ทุกเมนูทำสดใหม่ และที่พลาดไม่ได้เลยคือ เบเกอรี่โฮมเมดของที่นี่ขึ้นชื่อเป็นต้องลอง ยามบ่ายจิบชาร้อนๆ กับ Afternoon tea ที่พร้อมเสิร์ฟทุกสถานที่ที่คุณต้องการ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำส่วนกลางลอยฟ้าแบบ roof-top ให้คุณเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติแบบ 360 องศาอีกด้วย และนี่คือวันพักผ่อนที่ดีที่สุดของคุณอยู่ที่นี่แล้ว...
