ฉันได้มาถึงโรงแรมในคืนวันพุธ และได้ขอห้องพัก เขาให้ห้องหมายเลข 630 กับฉันสำหรับ 3 คืน ในราคา 1000 บาทต่อคืน และปัญหาเกิดขึ้นเมื่อฉันไปจ่ายเงิน พวกเขาขอราคา 1400 ต่อคืน ซึ่งแพงกว่าเดิม 40% และบอกว่า เขาไม่เคยบอกเลยว่าราคา 1000 บาท ฉันก็เลยต้องจ่ายเพราะฉันไม่มีหลักฐานมาแสดงราคาที่แท้จริง ดังนั้นควรขอให้เขาเขียนราคาแรกใส่กระดาษมาให้เลย พวกเขาเป็นโจร !!!
พวกเรา คือ ฉัน ภรรยา และลูกสาว ได้พักอยู่ที่ปทุมวันเกสท์เฮาส์รวมเป็นเวลา 10 วันในช่วง ม.ค.- ก.พ. 2011 เราได้พบว่าโรงแรม สะอาด สะดวกสบาย และกว้างขวาง โรงแรมก็ยังเงียบสงบและไม่พลุกพล่าน แม้จะอยู่ใกล้กับศูนย์การค้าใหญ่ๆ เช่น สยาม และมาบุญครอง เรายังสามารถทิ้งกระเป๋าเดินทางของเราไว้ในห้องเก็บของของพวกเขาเมื่อเราไปเที่ยวที่ประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ อีกด้วย
จำเป็นต้องมีการปรับปรุงของการเชื่อมต่อ WiFi ในห้องพัก ร้านอาหารควรได้รับการปรับปรุง
ฉันยินดีที่ได้รู้ว่ามีการเริ่มแพคเกจรวมอาหารเช้าแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือ ควรมีเครื่องใช้ทำชาหรือกาแฟให้ใช้ในห้องพัก ซึ่งจะสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก
เราจะกลับมาพักที่ ปทุมวันเฮาส์ อีกในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
ฉันพักที่ปทุมวันเฮาส์เมื่อเดือนที่ผ่านมาในทริปที่ฉันไปทำธุระที่กรุงเทพ ปทุมวันเฮาส์เป็นเซอวิสอพาร์ทเมนท์สำหรับคนที่จะพักระยะยาว อย่างไรก็ตามเค้าก็รับแขกรายวันและรายอาทิตย์ด้วย โรงแรมอยู่ท้ายซอยเกษมสาร 1 เป็นซอยวันเวย์ที่มีโรงแรมเล็กๆและเกสเฮาส์อยู่เยอะและอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสนามกีฬาและอยู่ตรงกันข้ามกับมาบุญครอง สยามสแคว์ก็เดินไปไม่ไกล ฉันเคยพักที่อื่นบนซอยนี้มาก่อนเวลาที่มากรุงเทพและพบว่าปทุมวันเฮาส์จะอยู่ในทำเลที่เงียบที่สุดบนถนนเส้นนี้
ห้องภายในโรงแรมนี้สามารถมองออกไปยังห้องกลางของโรงแรม ที่ออกจะมืดอยู่สักหน่อย ถ้ามีแขกเดินผ่านที่ห้องนี้ พวกเขาจะมองมาเห็นภายในห้องพักได้ง่ายในเวลากลางคืนถ้าในห้องไม่ได้ปิดม่านและเปิดไฟไว้ ในด้านบวกห้องพักไม่ได้หันเข้าทางแสงอาทิตย์ส่องโดยตรง ดังนั้นห้องมักจะเย็นในช่วงกลางวัน ถึงแม้จะไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศก็ตาม และมีสิ่งที่ดีอีกอย่างคือ คูณสามารถเปิดเครื่องปรับอากาศในห้องทิ้งไว้ได้ระยะสั้นๆเมื่อคุณออกไปจากห้อง ไม่เหมือนโรงแรมทั่วๆไปที่คุณต้องเอาลูกกุญแจเสียบลงในช่องเพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศ ปทุมวันเฮ้าส์มีห้องด้านนอกซึ่งแพงกว่านิดหน่อย (อาจมากกว่าประมาณ 200 บาท)
ห้องบางห้องอาจมองเห็นคลองที่อยู่ด้านหลังของตัวตึก แต่ฉันไม่ได้ขอดูห้องเหล่านั้น ราคาห้องคือ 1,000 บาท ต่อคืน สำหรับห้องด้านใน แต่ได้ขึ้นราคาเป็น 1,200 บาทต่อคืน ในเวลาต่อมา ราคาห้องไม่รวมอาหารเช้า แต่รวมตู้เย็นขนาดกลางในห้อง ห้องกว้างดีไม่คับแคบ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่สะอาดมาก ที่โรงแรมมีห้องอาหารที่ดี และมีอาหารเช้าให้เลือกด้วยราคา 50-80 บาท บริการซักผ้าที่โรงแรมราคากิโลละ 50 บาทและเสร็จในวันรุ่งขึ้น ปรกติฉันจะพักที่โรงแรมรีโน่ ที่เลยขึ้นไปจากถนนนี้ แต่มาเจอโรงแรมนี้ที่ราคาถูกกว่านิดหน่อย แต่ได้ห้องที่เห็นได้ชัดว่ากว้างกว่า และดีกว่า
โรงแรมรีโน่ ราคา 1,280 บาทต่อคืนรวมอาหารเช้า แต่ไม่มีตู้เย็นในห้อง ถ้ามีราคาจะเป็น 1,420 บาทต่อคืน สิ่งที่ไม่เหมือนโรงแรมรีโน่คือ ปทุมวันเฮ้าส์ไม่มีสระว่ายน้ำ และไม่มีตู้เซฟเล็กๆสำหรับเก็บของสำคัญอย่างเช่นหนังสือเดินทาง ฯลฯ แต่ในห้องเย็นกว่าในตอนกลางวัน และมีเสียงยวดยานน้อยกว่าในตอนเช้า มีสัญญาณวายฟายซึ่งทำงานได้ดีให้ใช้ฟรี ในขณะที่ที่โรงแรมรีโน่ (อย่างน้อยในช่วงฤดูร้อนปี 2554) คุณต้องจ่ายค่าใช้วายฟาย ประมาณชั่วโมงละ 50 บาท สุดท้าย ปทุมวันเฮ้าส์ มีจำนวนช่องทีวีที่น้อยกว่า แต่บางช่องก็ดีกว่า
ยกตัวอย่าง เช่น ปทุมวันเฮ้าส์มีช่อง เอชบีโอ สองช่อง และมี ช่องข่าวซีเอ็นเอ็น ซึ่งโรงแรมรีโน่ไม่มีในปี 2554 แต่รีโน่มีช่องข่าวภาษาอังกฤษหลายช่องจากประเทศต่างๆในเอเชีย และหนึ่งช่องจากออสเตรเลีย ไม่เหมือนโรงแรมรีโน่ ปทุมวันเฮ้าส์ไม่รับบัตรเครดิต ถึงแม้จะเป็นของธนาคารไทยก็ตาม แต่ฉันจะพักที่นั่นอีกเมื่อฉันเดินทางมาในครั้งต่อไป
สำหรับราคา ขนาดของห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่แจ้งไว้ ปทุมวัน เป็นที่ที่มีราคาดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่พูดได้ว่าพักสองครั้งแต่ไม่เหมือนกัน ในบางห้อง เตียงนอนสบายในขณะที่บางห้องไม่ ในบางห้อง เครื่องรับอากาศทำงานดีในขณะที่บางห้องแทบไม่ทำงานเลย มันไม่เคยเหมือนกันเลยในการพักครั้งที่สอง และการพักที่พิเศษจากครั้งอื่นอาจเกิดขึ้นในอาทิตย์ต่อมาที่จะทำให้คุณตัดสินใจว่าจะไม่มาพักที่นี่อีก มันไม่ใช่ว่าฉันจะโกรธหรือผิดหวังกับปทุมวัน แต่เมื่อครั้งใดที่รู้สึกสบาย มันก็ทำให้ฉันคิดว่ามันคุ้มเกินราคา แต่เมื่อมันไม่ใช่ ฉันก็แค่อยากจะจ่ายเพิ่มเพื่อส่งที่ดีกว่า และเพื่อให้สอดคล้องกับประสบการณ์ที่เคยมีมาก่อน
ฉันตั้งใจจะเป็นแฟนประจำของปทุมวัน บางทีอาจเป็นเพราะนิสัยพวกแบ๊คแพ๊คของฉัน (ถึงแม้โรงแรมนี้จะไม่ใช่โรงแรมสำหรับพวกแบ๊คแพ๊คก็ตาม) ฉันสามารถปรับตัวได้ พูดได้ว่า เมื่อฉันอายุมากขึ้น ฉันต้องการการพักผ่อนมากขึ้น และควรเป็นการพักผ่อนในที่ที่ดีและวางใจได้ แต่นี่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป มีห้องจำนวนไม่น้อย - บางทีอาจเป็นส่วนใหญ่ - ที่มีผู้พักระยะยาว ดังนั้นห้องที่ให้พักรายวันจึงมีหลากหลายมาก ฉันไม่เคยมีปัญหากับการจองห้อง แต่ก็อีกนั่นแหละ ฉันจองล่วงหน้า การเข้ามาโดยไม่ได้จองอาจได้หรือไม่ได้ห้อง --และฉันอยากเตือนผู้อ่านไว้ว่า-- บางครั้งโรงแรมก็จัดการกับเรื่องจองห้องผิดพลาด โดยเอาการจองออกและลืมหรือล้มเหลวที่จะทำใหม่ให้เรียบร้อย
เรื่องนี้เกิดกับฉันมากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว แต่โชคดีที่ฉันเจอข้อผิดพลาดล่วงหน้า -- ฉันมักจะแวะมาดูด้วยตัวเองก่อนก่อนที่จะมาพักในวันต่อไป --เพื่อให้แน่ใจว่าการจองทางอีเมล หรือโทรศัพท์ของฉันเรียบร้อยแล้ว ฟ้าได้ผ่าลงมามากกว่าสองครั้งในที่เดิมนี้ มันมีโอกาสที่ดีมากกว่าโอกาสที่จะเพียงผ่านมาในความผิดพลาดของการจองห้องพัก มันไม่ใช่ 50/50 และไม่ใช่เรื่อง 1 ใน 100 ด้วย ฉันอยากจะพูดว่า มันจะเกิดขึ้นที่ประมาณ 20-25% ในแต่ละครั้งเลย ครั้งหนึ่งฉันได้แวะเข้าไปเมื่อฉันอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบการจองให้เพื่อนสองคน ซึ่งทั้งสองคนจองในเวลาเดียวกัน และพบว่ามีการจองเพียงคนเดียว อีกคนหนึ่งไม่มี
ให้เอาเก็บไปคิดไว้ในใจ ไว้เพราะว่าที่ปทุมวันนั้นเหมาะสำหรับลุกค้าผุ้ที่พักอยู่เป็นระยะเวลานานๆ มันไม่ใช่ที่ที่จะให้คำแนะนำสำหรับการไปเที่ยวชม สถานที่ต่างๆ พวกเขาโดยปกติแล้วจะไม่ค่อยมีข้อมูลสำหรับพวกทัวร์ (และฉันก็ไม่ได้ไปทัวร์ที่ไหนทั้งนั้น) และก็ไม่ค่อยจะมีคำแนะนำดีๆ ให้สำหรับที่เที่ยวต่างๆ (บาร์,ร้านอาหาร, ฯลฯ) ซึ่งบางทีอาจจะดึงดูดความสนใจ พวกชาวต่างชาติ
ครั้งหนึ่งฉันได้ทำเซอร์ไพร์ซให้แฟนสาวชองฉันด้วยการจองห้องในโรงแรมหรูชื่อดังห้าดาวสำหรับในวันเกิดของเธอ ซึงเพื่อที่จะทำให้แฟนสาวชาวอเมริกันของฉันจะได้ไม่เอะใจว่าใครก็ตามที่ทำงานอยู๋ในการธุรกิจการบริการจะรู้ว่า พวกเขานั้นไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย
มันเป็นเหมือนกับคนเฝ้าประตูที่โรงแรมเล็กๆ ในนิวยอร์ก ที่ไม่ค่อยรอบรู้เกี่ยวกับ แมริออทใน ไทม์สแควร์ หรือ โรงแรม w ใกล้ๆ กับ วอลล์สตรีท (จินตนาการยากหน่อยนะ) พวกเขามากกว่ายินดีที่จะช่วย แต่เมื่อช่วยแล้วส่วนใหญ่ ในกรณีนี้ ก็ไร้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามคือการแกล้งให้เราถูก "โยนออก" จากโรงแรมในระหว่างการแกล้งจองห้อง เพื่อที่ฉันจะได้ ทำเซอร์ไพร้ซ ให้แฟนของฉัน กับห้องหรูหราระดับ ห้าดาวโรงแรมริมแม่น้ำ มันเป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่่ของฉันเลย และมันก็ไม่สามารถที่จะทำได้ถ้าไม่ได้รับความกรุณาจากพวกเขา กับการจองห้องทั้งหมดของฉันที่ปทุมวัน ทำไมฉันถึงให้สี่ดาวนะหรือ? ก็เพราะกับสิ่งที่มันเป็นนะสิ มันเยี่ยมมาก
มันคุ้มค่าเงินมากสำหรับคนที่ทำงานหน้าโต๊ะที่น่ารัก (พี่ชายแก หน้าตาไม่พอใจอยู่ตลอดเวลา) แต่คุณจะต้องสามารถคาดการณ์ ข้อบกพร่องที่มันจะมีมาและไปเรื่อยๆ ได้ นั้นคือพูดถึงว่าฉันจะไม่ค่อยมาพักที่ปทุมวันนี้เมื่อฉันมาพักที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะเวลาที่ฉันเดินทางมาถึงในตอนดึก และฉันก็ไม่อยากจะให้พวกเขาจะมากวดขันฉันในเรื่องของการจองห้องพักด้วย
ฉันอาจจะจองที่พักในระหว่างที่ฉันพักอยู่ที่่กรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว เพื่อการเดินทางในครั้งต่อไป ตอนที่ฉันจะกลับมากรุงเทพฯ
จริงๆแล้ว ถึงแม้ว่าแฟนฉันและตัวฉันเองได้ผ่านทางกรุงเทพฯมาครั้งสองครั้งในระหว่างการมาเยือนประเทศไทย พวกเราได้เลือกที่อยู่ที่จะรับรองความสบาย
นั่นเป็นข้อดีของกรุงเทพ: คุณสามารถหาโรงแรมคุณภาพ หรือบางครั้งโรงแรมหรูหราในราคาไม่แพง มันไม่ใช่ 1000-1500 บาทที่ปทุมวันเสนอ แต่มันอาจจะเป็น 2000-3500 บาท แต่ตามมาตรฐานตะวันตกของเรา นั่นเป็นราคาที่ไม่แพง
