ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ พบว่าขยะบริเวณป่าชายเลนเยอะมาก มองไปทางไหนก็เจอขยะ ซึ่งป่าชายเลยช่วยดักเก็บขยะไม่ให้ไหลย้อรกลับไปในทะเลอีก มาช่วยกันปลูกป่าชายเลนเยอะๆๆครับ

ดอยผาหมี ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเชียงรายประมาณ 1 ชม. สามารถนำรถไปจอดที่ตีนดอยได้เลย แต่ทางขึ้นค่อนข้างลาดชัน เพื่อความปลอดภัย จึงควรให้คนในพื้นที่ขับพาขึ้นไป อากาศบนดอยบริสุทธิ์สดชื่น เย็นสบายตลอดทั้งปี การเดินทางในครั้งนี้มีโอกาสได้ร่วมทริปกับ Local Alike ซึ่งต้องขอชมทีมงานว่าสามารถจัดเตรียมทุกอย่างได้ดีมาก ทั้งที่พัก อาหารและกิจกรรมที่หลากหลาย ทำให้ได้รับทั้งความรู้ และความสนุกสนานเต็มเปี่ยม ที่สำคัญคือ ได้ย้อนรอยรำลึกถึงเมื่อครั้งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จมายังหมู่บ้านแห่งนี้ และทรงทำให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่น หันมาปลูกพืชไร่แทน ปัจจุบันหมู่บ้านอาข่าซึ่งเคยอยู่ในเขตพื้นที่สีแดง จึงกลายหมู่บ้านที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าไม้สีเขียวชอุ่ม อุดมไปด้วยผลผลิตทางการเกษตรมากมาย ที่มีชื่อโดดเด่นที่สุดคือ กาแฟสมุนไพรรสหอมกลมกล่อม ซึ่งพอลองแล้วติดใจจนต้องซื้อติดมือกลับบ้านด้วย ใครที่ชอบท่องเที่ยวแนวEco แนะนำให้มาให้ได้ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน และควรพักไม่น้อยกว่าสองคืน จะได้เรียนรู้ประเพณี วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวอาข่าอย่างใกล้ชิด และจะได้ร่วมทำกิจกรรมกับชนเผ่าซึ่งน่าสนใจและมีหลากหลาย ทั้งร้อยสร้อยลูกปัด เก็บผลไม้สดๆในสวน โล้ชิงช้าริมผาสูง (A Must !) ฝึกคั่ว บด และ drip กาแฟด้วยตัวเอง ที่พลาดไม่ได้คือ จะได้กินอาหารแบบชนเผ่าอาข่าแท้ๆที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่เท่านั้น

ชุมชนบ้านผาหมี กับวิถีชาวดอยชนเผ่าอาข่า ได้มีโอกาสมาศึกษาและสัมผัสประเพณีอันดีงามทั้งยังได้ตามรอยในหลวงรัชกาลที่9ซึ่งพระองค์ทรงเป็นอันที่รักและผูกพันกับชาวชนเผ่าเป็นอย่างยิ่ง**ด้วยศิลปะวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวชุมชนจึงเป็นเสน่ห์ที่น่าประทับใจและสุขใจอย่างยิ่งที่ได้มาเยือนที่นี่ "บ้านผาหมี"ชุมชนผาหมี