พวกเราไปพักที่นี่หนแรกในเดือนสิงหาคมและชอบใจที่นี่มากเสียจนเราได้เปลี่ยนแปลงเที่ยวบินในการเดินทางของเราทั้งหมด เพื่อที่ว่าเราจะได้หวนกลับมาและใช้เวลาให้มากขึ้นในการสำรวจกรุงเทพฯ และได้พักในสถานที่อันน่าอยู่เช่นที่นี่ โชคไม่ดีเลย เราสองคนเกิดติดเชื้อในทรวงอกในช่วงที่บินย้อนกลับมาเมืองไทยและป่วยหนักเมื่อมาถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามีของฉันที่มีอาการหนักกว่า โอ ช่างเป็นผู้คนที่วิเศษอะไรเช่นนั้น เมื่อล่วงเข้าวันที่ 2 ที่เดอะไลแล็ค คุณอ้อย เจ้าของและผู้จัดการของที่นั่นได้เข้ามาดูแลพวกเราและเป็นธุระพาเราไปยังโรงพยาบาลมีระดับอย่่างโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ที่ซึ่งเธอได้แนะนำให้เราไปพบแพทย์ฝีมือดี เชี่ยวชาญในโรคที่เราเป็น แถมยังสามารถพูดภาษาอังกฤษกับเราได้ด้วย การรักษาเป็นไปอย่างดีเลิศ ยาที่เราได้รับก็ได้ผลในการรักษาดี และทั้งหมดที่ว่ามานี้เราจ่ายไปไม่ถึง 85 เหรียญ จากนั้นเธอยังพาเราไปซื้อของกินของใช้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอีกด้วย เรายังไม่แข็งแรงพอที่จะออกจากโรงแรมได้แต่เราก็ได้รับการดูแลตลอดเวลา 5 วันที่นั่น โดยมีพวกพนักงานนำผลไม้แช่เย็นและอาหารค่ำแบบอ่อนๆ มาให้เราจนกระทั่งเรารู้สึกว่าดีขึ้นจนพอจะกลับบ้านได้แล้ว เราออกจากที่นั่นเร็วกว่าที่กำหนดไว้ 4 วัน และอ้อยต้องการจะคืนเงินที่เราจ่ายไปล่วงหน้าไว้ให้เรา คงไม่จำเป็นต้องพูดว่าเราจะไม่ผิดสัญญาที่ทำไว้ในการจองที่พัก ในเมื่อเราปฏิเสธที่จะรับเงินคืน ฝ่ายอ้อยเองก็ปฏิเสธที่จะคิดเงินค่าอาหารทั้งหมดที่เธอจ่ายไปเพื่อเรารวมทั้งค่าซักรีดต่างๆ กับพวกเราด้วย โรงแรมที่ไหนในโลกจะแสนวิเศษได้เท่านี้หนอ? พวกเขาช่างเป็นมนุษย์ที่มีความเอื้ออารีอย่างยิ่ง และทั้งหมดนี้ยังไม่นับว่าที่นี่เป็นโรงแรมที่พิเศษสุดอีกด้วย เราสองคนคงไม่สามารถจะแนะนำโรงแรมนี้ได้สมกับความวิเศษของที่นี่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นีี่ล้วนไร้ที่ติ เราขอขอบคุณทุกคนอย่างมากที่ดูแลเราสองคนเป็นอย่างดี