คนขับรถแท็กซี่ที่สนามบินรู้จักโรงแรมแห่งนี้และเราไปถึงในเวลาประมาณ 30 นาที เพราะการจราจรบางเบาตามมาตรฐานของกรุงเทพฯ และเขาเป็นคนขับรถเร็ว ! แท็กซี่คันนั้นคิดราคา 500 บาท (ประมาณ $15) รวมค่าทิป

เราจองห้องสองห้องติดกันสำหรับสองคืนโดยใช้บัตรเวาเชอร์ของลิฟวิ่งโซเชียล ห้องหนึ่งสำหรับบรรดาญาติโยมจากการแต่งงานของฉัน และห้องหนึ่งสำหรับครอบครัว 4 คนของเรา (แม่กับพ่อและลูกเล็กๆ สองคนในวัยต่ำกว่า 5 ขวบ) ญาติของฉันเช็คอินตอนบ่าย 2 โมง และเราไปถึงทีหลังตอน 3 ทุ่ม

เมื่อเราเช็คอินก็ค้นพบว่าห้องพักของญาติอยู่ในอีกตึกหนึ่งที่แยกต่างหากจากตึกของเราโดยสิ้นเชิง (ชาเทรียมมีตึกทั้งหมดประมาณหกหลังเรียงรายล้อมรอบสระน้ำที่สวยงามแห่งหนึ่งและสวน) เคาน์เตอร์ส่วนหน้าใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจึงจัดห้องพักติดกันในตึกที่ 6 ได้และย้ายเรากับญาติของเรา ดังนั้นนี่ไม่ใช่การเช็คอินที่ราบรื่นและเราดีใจที่เราเพียงแต่บินมาในระยะสั้นๆ จากสิงคโปร์ (ผู้ที่เดินทางกับเด็กเล็กรู้ว่าการเช็คอินที่รวดเร็วราบรื่นนั้นสำคัญอย่างไร)

แม้กล่าวเช่นนั้นแล้วก็ตาม แต่ห้องพักดีมากและฉันแน่ใจว่าหากเมื่อก่อนเราไม่ได้พักค้างคืนในห้องพักอันกว้างขวางของแกรนด์ ไฮแอท เราก็น่าจะประทับใจมากกว่านี้เสียอีก ห้องพักของเราในชาเทรียมมีห้องนั่งเล่นที่ใหญ่โตและตกแต่งอย่างสวยงาม ประกอบด้วยโต๊ะทานอาหารสำหรับ 6 คน ครัวขนาดเล็กที่แยกออกต่างหาก ห้องนอนใหญ่หนึ่งห้องที่มีห้องน้ำกับห้องอาบน้ำฝักบัวที่แยกจากกันอยู่ภายในห้อง ห้องพักทั้งสองห้องมีทัศนียภาพที่สวยงามของตัวเมือง

แรงดันน้ำในห้องน้ำดีมาก มีน้ำร้อนมากมาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ดีมาก และมีการจัดหาผ้าเช็ดตัวให้อย่างดี

ชาเทรียมคุ้มค่าเงินจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีพื้นที่เพิ่มเติมในบริเวณนั่งเล่นสำหรับให้เด็กๆ ชมรายการโทรทัศน์ช่องของพวกเขา หรือไม่ก็เล่นระหว่างที่คุณอยู่หลังประตูที่ปิดสนิทและชมรายการโทรทัศน์ช่องของคุณเอง หรือไม่ก็นอนหรืออ่านหนังสือ ช่างหาค่ามิได้ !

นอกจากการโต้เถียงขณะเช็คอินเรายังมีเรื่องจุกจิกอีกสองเรื่องในชาเทรียม:

* ต้องเรียกหาแผนกแม่บ้านสองครั้งภายในระยะเวลา 30 นาทีในคืนแรกของเรา เพื่อให้หาผ้าห่มมาให้ลูกๆ ของเราเข้านอนในคืนนั้นบนเก้าอี้นอนตัวโตที่น่านอนในห้องนั่งเล่น

* พวกเขาต่อต้านและออกจะเอะอะตอนที่เราขอน้ำดื่มฟรี 4 ขวดต่อวัน (แทนที่จะเป็น 2 ขวด)

* ลิฟท์ตัวหนึ่งในตึกของเราไม่ทำงาน ประตูปิดได้ แต่ตัวลิฟท์ไม่ขยับ ซึ่งน่าเสียอารมณ์นิดหน่อย

* สาธรเป็นย่านที่เงียบกว่าในกรุงเทพฯ เราใช้รถตู้รับส่งฟรีของชาเทรียมเพราะไม่มีอะไรให้เรามากนักในบริเวณที่อยู่ในระยะเดินได้ ขอให้รับทราบด้วยว่ารถตู้มีแต่ขาออกเท่านั้น ไม่มีขากลับไปยังโรงแรม

นอกจากเรื่องจุกจิกเหล่านี้แล้วห้องพักกว้างขวางจริงๆ มีการปรับอากาศอย่างดี และเหนือสิ่งอื่นใดคือคุ้มค่าเงิน อาหารเช้าแบบบุฟเฟท์หลากหลายมากพอที่จะสนองความต้องการ (พวกเขารู้ว่าไข่ทอดน้ำคืออะไรและทำได้ดี !) และสระน้ำกับสวนที่ล้อมรอบก็สวยงามอีกด้วย มีสนามเด็กเล่นแห่งหนึ่งที่มีกระดานลื่น และสโมสรเด็กเล็กที่มีเครื่องปรับอากาศกับของเล่นและกระดานดำที่คุณสามารถดูแลลูกๆ ของคุณเองได้

พนักงานมีไมตรีอีกด้วยและโดยทั่วไปแล้วกระตือรือร้นมากที่จะเอาใจ

หากคุณอยากอยู่ใกล้ช้อปปิ้งมอลล์และทุกอย่างที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ มากกว่าล่ะก็ ให้มองหาที่ไหนสักแห่งในสุขุมวิทแทน ชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ อาจจะใกล้กับรถไฟลอยฟ้ามากกว่าด้วย

หากคุณมองหาความคุ้มค่าเงินกับเนื้อที่กว้างขวางและไม่รังเกียจที่จะใช้รถตู้รับส่งฟรี หรือจ่ายค่ารถตุ๊กตุ๊กหรือแท็กซี่เพื่อเดินทางรอบกรุงเทพฯ ถ้าอย่างนั้นคุณก็สามารถมีความสุขในการพักที่นี่เหมือนกันกับเรา

ฉันได้พักที่นี่เมื่อวันที่ 23-26 พฤษภาคมปีนี้โดยลำพัง ฉันเป็นคนประเภทขี้หวาดระแวงยามที่ต้องเดินทางตามลำพัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาจะเข้านอน แต่ที่โรงแรมแห่งนี้ ฉันไม่เคยรู้สึกปลอดภัยอะไรไปกว่านี้เลยจากที่เคยเดินทางคนเดียวมาทั้งหมด ตอนที่ฉันเดินทางไปถึง ฉันก็ได้รับเครื่องดื่มช่วยเรียกความสดชื่นเป็นการต้อนรับและที่ห้องก็มีจานใส่ผลไม้เพื่อให้ลิ้มลองรสผลไม้ไทย ผู้คนที่นี่ก็น่ารัก ช่วยแนะนำให้ฉันใช้บริการศูนย์บริการธุรกิจของโรงแรมเพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ตและสั่งพิมพ์บัตรขึ้นเครื่องได้โดยไม่เสียค่าบริการ ห้องพักสะอาด กว้าง และวิวสวย แล้วที่พิเศษคือการนั่งรับประทานอาหารที่ริมสระน้ำ ทางโรงแรมจะจัดสำรับอาหารมื้อค่ำไปวางเรียงรายไว้ที่ริมสระน้ำ โดยมีทั้งคบไฟและเทียนประดับไว้เพื่อสร้างบรรยากาศชาวเกาะอย่างแท้จริง! แล้วที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือ ค่่าห้องพักก็คิดแค่ครึ่งราคาด้วยโปรโมชั่นจากเอเชียเว็บไดเร็กต์ ขอบคุณ Chatrium ที่ช่วยให้การไปพักของฉันมีคุณค่าน่าจดจำ