ห้องอาหารสวย บรรยากาศหรูหราแบบโบราณ อาหารในเมนูเป็นอาหารไทย บางอย่างหาทานยาก การบริการดี รสชาติอาหารทำออกมาได้ดี

ของดี ของสด ปูเป็นๆ กุ้งมังกร สเตชั่นเยอะมากค่ะ อลังการมากก อร่อยด้วย

พนักงานดูแลดีมาก เก็บจานตลอด น้องพนักงานที่ชื่อตั้มดูแลอย่างดี

ที่นี่พลาดไม่ได้ค่ะ

เป็นห้องอาหารหรูหรา ในอาคารเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 "บ้านบางยี่ขัน" ของพระยาชลภูมิพานิช ที่รีโนเวทเป็นโรงแรม มีอาหารตำรับไทยโบราณหลายอย่างให้ลิ้มลอง
- หมูผัดส้มเสี้ยว ต้นตำรับสูตรในสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี เป็นหมูผัดกับพริกและใบไม้ที่มีรสเปรี้ยว ต้องไปหาอ่านตำนานหมูผัดหน้าวัดส้มเสี้ยวดูครับ
-ขนมจีนซาวน้ำ กินกับแจงลอนปลากราย รสกลมกล่อมดี หอมกะทิ เครื่องครบทั้งสับปะรด ขิง หอมแดง กุ้งแห้ง
- แสร้งว่ากุ้ง รสชาติดี กุ้งสับชิ้นเล็กๆ ปรุงรสไม่เผ็ดมาก ทานเคียงกับปลาดุกฟู และผักสด
- แกงส้มปลาช่อนกับไหลบัว น้ำแกงส้มรสพอดี โขลกปลาลงไปให้เข้มข้น ไหลบัวสดกรอบ ซดน้ำได้คล่องคอ
- แกงรัญจวน ต้มหมูที่ปรุงรสด้วยน้ำพริกกะปิอย่างดี ซดร้อนๆ ปิดท้าย
-ขนมอินทนิล กับบัวลอยลูกตาล แป้งเหนียวหนึบ กะทิหอมมัน

โดยรวมรสชาติกลมกล่อม ไม่จัดหรือหนักไปทางใดทางหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีการปรุงอาหารไทยที่ถูกต้อง เมนูอาหารที่หาทานยาก บวกกัยบรรยากาศสถานที่ที่มีประวัติงดงาม ให้ 10 คะแนน หักค่าความแพงไป 1 คะแนน เหลือ 9 แต้มก็ไม่ขี้เหร่นะครับ

เหมือนจะหายาก เพราะถนนเข้าไม่ถึง เเต่กลับได้เสน่ห์คืนอย่างมากจากการรับส่งเเขกจากฝั่งท่าพระอาทิตย์ด้วยเรือส่วนตัว

ทันทีที่ถึงท่าพระอาทิตย์ โทรเเจ้งทางพระยาพาลาซโซ่ เเล้วรอไม่ถึง 5 นาทีเรือก็จะมา เราเเหวกกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยืนรออยู่บนโป๊ะด้วยท่าทีสวยเริ่ดเชิดหยิ่งเพราะมีเรือส่วนตัวมารับไปแค่ 2 คน

พอย่างเท้าลงที่ท่าน้ำโรงเเรมก็มีพนักงานมายืนยิ้มรอรับเอี้ยมเฟี๊ยม

อาหารกลางวันที่นี่เป็นเมนูไทยโบราณ มีที่มาที่ไปและกรรมวิธีในการทำที่พิถีพิถันเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเเกงจืดสาคูไส้ไข่เค็มไก่ฉีก มีหัวไชเท้าเเละเเครอทสลักมาด้วย เเบบสุกกำลังดีให้เคี้ยงกรุบกรับ ตามด้วยยำส้มโอส้มซ่า หอม ... ชอบสุดคือขนมจีนซาวน้ำกับเเจงรอนทำเอง กุ้งเผาสะเดาลวกก็เด็ดมาก รสเหมือนคุณยาย คุณเเม่ทำให้ทานที่บ้าน

ขนมไทย เป็นอะไรที่ไม่เคยทานที่อื่น อินทนิล ใบเตยมะพร้าวอ่อน บัวลอยลูกตาล

เขียนๆ อยู่น้ำลายก็สอได้อีก

เป็นมื้อกลางวันที่คุ้มค่า เเละได้คุณค่า ....

อยากไปอีก