หนึ่งในบททดสอบสำคัญที่สุดของกรุงเทพคือเรื่องการเดินทาง ถนนในเมืองแต่ละเส้นส่วนใหญ่แล้วเต็มด้วยรถติดเสียจนไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเห็นรถมอเตอร์ไซค์วิ่งขึ้นบนทางเท้า ดังนั้นการมีที่พักอยู่ใกล้สถานีขนส่งสาธาณะใดๆ ก็ตามจึงกลายเป็นจุดขายสำคัญ W อยู่ห่างจากสถานีบีทีเอสช่องนนทรีบนสายสีลมหนึ่งช่วงตึก บีทีเอสคือรถไฟฟ้าลอยฟ้าของกรุงเทพ

เหมือนที่ผู้อื่นได้กล่าวถึงมาแล้ว ที่นี่เป็นโรงแรมที่มีสไตล์เป็นโมเดิร์นมากๆ ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจคนที่มองหาโรงแรมที่ให้ประสบการณ์แบบดั้งเดิมหรือคลาสสิค ทันทีที่คุณเดินเข้าไป คุณจะรู้สึกเหมือนอยู่ในไนต์คลับเก๋ๆ อันที่จริง บาร์ที่อยู่ทางซ้ายมือของล็อบบี้ก็มีดีเจเปิดแผ่นเช่นกันในช่วงวันทำงาน ห้องพักค่อนข้างโมเดิร์นไม่แพ้กัน การจัดแสง เครื่องปรับอากาศ ป้ายห้ามรบกวน ทุกอย่างควบคุมผ่านแท็บเล็ต และการตกแต่งภายในก็เหมาะสำหรับคู่รักมากกว่าผู้ใดอื่น หากพิจารณาจากห้องพักฉันแล้ว ไม่คิดว่าที่นี่เป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับเด็กเล็กเท่าไรนัก พนักงานสุภาพมาก และพยายามเต็มที่ที่จะช่วยเหลือ ยกตัวอย่าง ฉันบอกทางแท็กซี่ไม่ได้ พนักงานเปิดประตูก็จะถามเพื่อความแน่ใจว่าคนขับแท็กซี่รู้ทาง แถมยังรีบไปพิมพ์แผนที่สถานที่หมายให้อีกด้วย

ขณะที่อยู่โรงแรม ฉันไปเข้าสปาเพื่อนวด ปกติฉันจะเข้าเฉพาะสปาที่มีชื่อเสียงและไว้ใจได้ที่อยู่ไม่ไกลจากที่นั่นเท่านั้น แต่พอดีทางโรงแรมมีโปรโมชั่นพิเศษ สปาส่วนใหญ่ที่เคยไปจะเปิดเพลงนิวเอจแนวอิงธรรมชาติระหว่างการบำบัด ในห้องสีเอิร์ทโทนซึ่งทำให้นึกถึงป่าไผ่ แต่ W ใช้วิธีที่ต่างออกไป ซึ่งฉันพบว่ามันน่าสนใจและผ่อนคลายดีไม่แพ้กัน ห้องพักจะสว่างไปด้วยสีที่เลือก (ฉันเลือกสีม่วง คิดว่าตัวเลือกที่มีคือน้ำเงิน เขียว หรือชมพู) ดนตรีที่เปิดเป็นแนวเทคโนสบายๆ เบาๆ (ต้องขอโทษด้วยเพราะไม่รู้วิธีอธิบายมันจริงๆ แต่ขอบอกเลยว่า การนวดเส้นที่ฉันทำที่ W นั้นเป็นหนึ่งในครั้งที่ดีที่สุดเท่าที่เคยได้รับมาในประเทศไทย เป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างแตกต่าง แต่ก็มีความสุข

W จะเป็นสถานที่ที่ฉันจะนำมาพิจารณาว่าจะกลับไปอีกในครั้งหน้า หากมีโอกาสกลับไปกรุงเทพอีก