เป็นสถานที่ให้ความรุ้ได้ดีเลยทีเดียวโดยเฉพาะชาวไทยที่ไม่เคยได้ไผสัมผัาแนะนำได้เลนว่าเหมาะแย่างยิ่งส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบเดินทางไปไหนไกลๆ แต่ได้ไปมาก้พบความแปลกขแงบ้นหลังนี้ที่ต้องน่าไปพิสูจน่ด้วยตัวคุณเองเลยทีเดียว

ตอนไปนั่งเรือไปลงที่สะพานหัวช้างค่ะ เดินต่อสองร้อยกว่าเมตรก็ถึงเลย แดดแรงร้อนเหมือนกันค่ะ พอเข้าไปในบ้านก็ค่อยยังชั่ว ร่มรื่นอากาศสบาย ด้วยพัดลมหลายสิบตัว รวมทั้งแอร์ ต้องเสียค่าเข้าชมทั้งคนไทยและต่างชาติ ผู้ใหญ่ 150 บาทค่ะ หลังจากนั้นต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่พาทัวร์ มีหลายภาษาค่ะ ได้เวลา 4.15 เลยต้องไปเดินเล่น และนั่งดื่มน้ำในร้านอาหารรอก่อน น้ำตะไคร้แยกน้ำเชื่อมมาให้ ดีจังค่ะ ชอบหวานแค่ไหนใส่ได้เองเลยค่ะ พอได้เวลาเจ้าหน้าที่พาไปฝากกระเป๋า ถอดรองเท้า พาชมบ้าน
บนบ้านห้ามถ่ายรูปค่ะ มีทั้งพระ วัตถุโบราณจากนานาชาติ ไทย จีน พม่า การตอกเสาสังเกตุว่าจะให้ฐานแน่น ด้านบนแคบ มองขึ้นไปเหมือนสี่เหลี่ยมคางหมู เจ้าหน้าที่พาชมห้องต่างๆ อธิบายอย่างละเอียด ก่อนลงมาชมข้างล่างต่อ หลังจากนั้นก็เดินได้เอง เอากระเป๋า มือถือถ่ายรูปด้านล่างได้ ชมเรือนใหญ่แล้วก็เดินไปดูเรือนของคนสวน คนใช้ และยุ้งฉางเก่าซึ่งปัจจุบันใช้เก็บภาพจากพม่า เรือนคนสวนมีเรื่องราวของโหราศาสตร์ เรือนคนใช้เล็กหน่อย มีพระพุทธรูป แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดไว้ค่ะ
ขากลับเดินออกถนนใหญ่ มาทางรถไฟฟ้าหน้าสนามกีฬาแห่งชาติค่ะ