กรุงเทพในช่วงฤดูไหน ก็ร้อนได้เสมอ แม้จะฝน จะหนาว ก็ยังร้อนได้ไม่มีวันจบ บรรยากาศแบบนี้คงหนีไม่พ้นการนั่งพักในสถานที่ร่มรื่น โปร่งสบาย ได้ชิมอาหารแสนอร่อย และเครื่องดื่มสดชื่น
จากถนนเจริญนครมุ่งหน้าไปทางท่าเรือคลองสาน ติดกับรพ.ตากสินจะมีทางเข้าที่ซับซ้อนเล็กน้อย ขับเข้าไปวนขวาจะพบกับทางเข้าพื้นที่ส่วนบุคคลที่เรียกว่า Jam Factory พื้นที่โกดังที่นำมาดัดแปลงเป็นร้านชิคๆ ที่ให้อารมณ์ดิบของแผ่นไม้ โครงสร้างของโกดังติดแอร์ ด้านในสุดของโกดังจะพบร้านอาหารที่คุณด้วง ดวงฤทธิ์ บุนนาค นำเมนูอร่อยที่ทำกินที่บ้านมานำเสนอให้นักชิมได้สัมผัส
เปิดเมนูแล้วชวนหิว ทั้งน้ำพริกมะขาม น้ำพริกลงเรือ รสเข้มข้นหอมกะปิที่ไม่เค็มเกินไป เสิร์ฟพร้อมผักสดสารพัดอย่าง / ห่อหมกปลาที่ร้านแนะนำให้จองไว้ก่อน ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับความนุ่มเนียนของกะทิ และเครื่องแกงที่แทรกซึมทั่วชิ้น เนื้อปลายังคงเป็นชิ้นให้เคี้ยวเพลินกับข้าวสวย / พะโล้สูตรสไตล์โฮมเมดที่น้ำพะโล้ไม่ยัดเยียดใส่โป๊ยกั้ก หรือซิอิ๊วแบบหมดโรงงาน แต่เน้นการเคี่ยวหมูให้เปื่อยเคี้ยวง่าย และการต้มไข้ค้างคืนให้หอมกลมกล่อมถึงเนื้อใน
กินข้าวกินปลาแล้วติดคอ ที่มีก็มีเครื่องดื่มสดชื่นอย่างทับทิมโซดา และ อัญชัญโซดาที่ช่วยให้อารมณ์ดีตลอดยามบ่าย แน่นอนว่าอาหารจะครบคอร์สไม่ได้ ถ้าขาดของหวาน ไอศกรีมกะทิสดที่คลาสสิคด้วยรส และสัมผัสของเส้นลอดช่องที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีม หรือของหวานกะทิน้ำแข็งไสที่ใช้กะทิอบควันเทียนหอมทำให้รสละมุนดับคาวปากจากอาหารได้เป็นอย่างดี
ราคาก็ไม่โหดร้าย รวมแล้วประมาณ 1,5xx บาท ถือว่าได้เสพบรรยากาศ และรสอาหารที่ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมร้านอาหารสไตล์ Old school หรือ สไตล์บ้านๆ ที่เราเรียกไพเราะว่า "Homemade" ถึงอยู่ยงคงกระพัน แนะนำให้พาเพื่อน หรือคนรู้ใจไปชิม รับรองติดใจครับ
ปล. เพื่อความสบาย ได้ที่นั่งทันทีที่ไปถึง ควรโทรไปจองก่อนนะครับ
คุณเป็นเจ้าของหรือผู้บริหารสถานที่ให้บริการแห่งนี้ใช่ไหม อ้างสิทธิ์รายชื่อธุรกิจของคุณเพื่อตอบรีวิว อัปเดตโปรไฟล์ และอื่นๆ อีกมากมายได้ฟรี