ตึกเก่า เครื่องใช้ไฟฟ้าก็จะเป็นของเก่าทั้งหมด แอร์ไม่เย็น บางทีแอร์มีกลิ่มเหม็นเน่า หลอดไฟมีติดบ้าง เสียบ้าง บอกว่าจะซ่อมให้ ก็ไม่ได้ซ่อม แล้วสุดท้ายก็ปล่อยเบลอ เคยพูดปัญหานี้กับพนักงานที่ดูแลตึก พนักงานก็ดูรับฟัง ดูเหมือนพยายามช่วยแก้ แต่ก็ไม่ได้แก้ไขอะไร เรื่องน้ำในห้องน้ำ ตอนกลางวันน้ำจะร้อนมากก ร้อนเกินระดับน้ำอุ่น ถ้ากลับเข้าห้องตอนกลางวันอากาศร้อนๆ จะอาบน้ำก็คือทำไม่ได้

ห้องไม่ได้เก็บเสียง ถ้าช่วงมีคนก็จะเจี้ยวจ้าวหน่อย และเคยมีข้างห้องมาพัก เขาดูดบุหรี่ แล้วกลิ่นบุหรี่มันเข้ามาถึงห้องที่เราพัก กลิ่นอบอวลทั้งคืน แอร์รีเฟรชก็เอาไม่อยู่ คือไม่รู้ว่ามันลอยเข้ามาได้ไงเหมือนกัน

ช่วงหลังๆ มิเตอร์ไฟโดด ที่พีคสุดคือโดดไป 600 กว่าหน่วย
โทรคุยกับเจ้าของตึก เจ้าของตึกบอกว่าเขาทำเต็มที่แล้ว
“ส่งช่างมา 3 คนน้องก็ไม่พอใจ” แต่สิ่งที่ช่างทำคือเดินไปดูมิเตอร์หมุน บอกว่าไฟไม่รั่ว และเดินไปดูหน้าแอร์แล้วบอกกับเราว่าแอร์ขนาดกี่ btu แค่นี้ ซึ่งเราเคยอยู่หอพักกับเมทค่าไฟ 8 บาทต่อหน่วยเหมือนกัน ชาร์จโทรศัพท์2เครื่อง ชาร์จโน้ตบุต2เครื่อง ตู้เย็น ทีวีใช้หมดยังไม่เท่านี้ common sense มันไม่ได้ คือเราอยากได้ข้อมูลที่มันชัดเจน ชี้ถึงต้นเหตุจริงๆ
เราก็เลยบอกพี่เขาว่าอยากให้เช็คเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าเสื่อมสภาพไหมเครื่องใช้ไฟฟ้ามันอาจรั่วก็ได้
ถ้ามั่นใจมากว่าช่างของเขาเช็คดีแล้วก็ควรบอกเรามาเลยว่า ค่า capacitor ของเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ที่เท่าไหร่ เราใช้ไฟไปตอนไหน ช่วงไหนที่มิเตอร์หมุนเร็ว ถ้าหมุนเร็วประมาณนี้เทียบเท่ากับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอะไร

สุดท้ายเจ้าของตึกบอกประมาณว่าตึกของเขามันเก่า ของบางอย่างมันก็เสื่อมสภาพเป็นธรรมดา ถ้าน้องอยากได้มิเตอร์ใหม่น้องก็ต้องซื้อมาติดเอง น้องจะออกวันนี้ใช่ไหม แล้วพี่เจ้าของก็แนะนำว่า ถ้าจะหาหอใหม่ต้องดูนู้นนั้นนี่นะ ในใจเราก็แบบ อ้าวแบบนี้ก็ยอมรับแล้วหนิว่าโรงแรมตัวเองก็ไม่ได้คุณภาพอะ