พักที่นี่ 1 คืนเพราะจะบินไปนิวซีแลนด์ในวันถัดมา และมันก็ใกล้กับรถไฟฟ้าไปสนามบิน ห้องพักและห้องน้ำดีมาก อาจจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดของโฮสเทลในประเทศไทยก็ได้ อินเตอร์เน็ตไร้สายที่ดีตลอด มีร้านอาหาร และพื้นที่ส่วนกลางด้วย แต่ก็มีแผงขายอาหารริมทางใกล้ๆ เยอะแยะ ดูเหมือนว่าบรรยากาศเข้าท่าที่นี่ แต่อยู่แค่ 1 คืน เลยฉันเลยทำอะไรนักไม่ได้

รีวิว Bed Station Hostel สดๆ ร้อนๆ หนีไปลองพักมาเมื่อคืน

คำแรกที่นึกถึงคือ "#หลับสบายมากกกก"

ที่นี่ตกแต่งแนว industrial design ใช้ปูนเปลือย เหล็กสีดำ และไม้เป็นหลัก แล้วก็ใช้ประตูยืดสำหรับห้องแถวที่เราเห็นได้ทั่วไปมาพ่นดำ ทำเป็น ornament ตกแต่งได้สวยงามดูดีลงตัว Graphic และ Font ต่างๆ ที่ใช้ดูทันสมัยเรียบง่ายลงตัว

เริ่มจากไป check-in เมื่อคืนราวสามทุ่มครึ่ง น้องที่ Front ก็อธิบายรายละเอียดค่อนข้างดี แต่ไม่ค่อยครบเท่าไหร่ ได้ห้องแบบ Dorm 4 เตียง นอนเตียงบน น้องอธิบาย Facility หลักๆ ว่าห้องน้ำมีทุกชั้นนะคะ ส่วนห้องอาบน้ำรวมอยู่ชั้น 4 ค่ะ อาหารเช้า 0600-1000 นะคะ พร้อมเก็บค่าเข้าพัก 600บาท + ค่ามัดจำคีย์การ์ด 200บาท

กดลิฟต์ไปที่ห้องพักอยู่ชั้น 3 รอบแรก แตะคีย์การ์ดไม่ผ่าน เข้าไม่ได้ ลงมาใหม่ คราวนี้เข้าได้ละ ในห้องมีทั้งหมด 4 เตียง 2 เตียงล่าง 2 เตียงบน วางทำมุมกันเป็นรูปตัว L มีตู้ล๊อกเกอร์ 4ตู้สำหรับแต่ละเตียง ส่วนล๊อกต้องเตรียมมาเอง

เข้าห้องมาปุ๊บ ไม่มีใครอยู่ แต่เห็นของวางทุกเตียง เพื่อนร่วมห้องเต็มเบยคืนนี้ พอวางของที่เตียงได้ เริ่มรู้สึกร้อนละ จะเปิดแอร์ตรงไหนวะ เหลือบไปเห็น pocket ใส่ remote air ติดผนังอยู่ ก็ อ่อววว เปิดตรงนี้แน่เบย แต่รีโมทอยู่ไหน น๊าาาา ใครหยิบไป พยายามมองหา แต่ไม่ได้ไปรื้อของใคร หาจนเหงื่อโชก ก็ไม่เจอ เอาวะ เดินลงไปถามดีกว่า ขอรีโมทมาเปิดแอร์หน่อย

ลงไป Front รอบที่ 2 น้องบอกว่า อ่อววว ไม่ต้องใช้รีโมทค่ะ แต่ละเตียงมีที่เสียบคีย์การ์ดค่ะ ปีนขึ้นเตียงแล้วเสียบคีย์การ์ด แอร์ถึงจะเปิดนะคะ
.....ง๊อววว เหงื่อแตกฟรี ก็เห็น pocket ใส่ remote ติดไว้นินะ ก็นึกว่าใช้รีโมท หลอกกันจนหลงเบย นี่แค่วางของเลยยังไม่ได้ปีนเตียงขึ้นไปเลยไม่ได้เห็น แอบโง่วเล็กน้อย แต่บอกกันตั้งแต่เช็คอิน ก็เคลียร์แล้วป่ะ

โอเครอบ 3 จบละเคลียร์ละ เข้าห้องเตรียมอุปกรณ์ไปอาบน้ำ ห้องอาบน้ำแยกชาย-หญิงเป็นสัดส่วน ห้องผู้ชาย มีห้องอาบน้ำ 6 ห้อง เปิดตลอดคืน no curfew time มีกระจกยาวและอ่างล้างหน้าสำหรับแต่งหล่อ มีไดร์ (1 อัน) ห้องสุขาอีก 2 ห้อง

ปัญหาที่เจอคือ ไม่มีพื้นที่แต่งตัวและเก็บของ คือด้วยความที่พื้นที่จากห้องมาห้องน้ำ มันยังเป็น public ไง ทุกคนก็ต้องแต่งชุดเก่ามาเต็มก่อนงี้ พร้อมถือเสื้อผ้ามาเปลี่ยน คนนึงก็มีอย่างน้อยสองชุดละ แต่ไม่มีที่วางเก็บไง ในห้องอาบก็มีที่แขวนจำกัด แค่แขวนผ้าชุดเก่านี่ก็เต็มละ เพราะงั้นแทบทุกคนวางเสื้อผ้าไว้บนพื้นหน้าห้องน้ำ ดูไม่เป็นที่เป็นทางมั่กๆ

ส่วนเปียกส่วนแห้งแยกไม่ชัดเจน น่าจะแยกพื้นที่เปียกว่า ตรงนี้นะ no-sandal มีที่วางรองเท้าแตะเก็บก่อนเข้าโซนเปียก น่าจะดี ส่วนเรื่องที่เก็บของถ้าไม่มีที่ก็ควรเพิ่มที่แขวนในห้องอาบน้ำเพิ่มนะ ตะขอเดียวไม่พอหรอก จริงๆๆๆ แล้วก็ตำแหน่งตะขอนี่ European size มากๆๆ ติดอีกอันเตี้ยลงมานิด ให้ Asian reach น่าจะดี

อ่อว มีส่วน Laundry สำหรับซักเสื้อตากเสื้อ มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญให้ 2 เครื่อง มีราวตากผ้าให้ด้วย อยู่บนชั้น 4 เช่นเดียวกัน พื้นที่ตากดูพอเพียงนะ แดดเข้า ลมเข้า ถูกหลักอนามัยดี

กลับมาที่ห้อง ก็ปีนขึ้นเตียง พร้อมนอนละ แต่ละเตียงจะมีที่เสียบคีย์การ์ด สวิตช์ไฟส่วนตัว ปลั๊กไฟ 2 จุด สำหรับชาร์จอุปกรณ์ต่างๆได้ แต่ละเตียงมีผ้าม่านกั้น เพื่อความเป็นส่วนตัว ฟูกที่นอนแข็งกำลังดี นอนสบายไม่ปวดหลัง หมอนก็ไม่ยวบ ใบใหญ่กำลังเหมาะ แถมมีหมอนเพิ่มให้อีกอันไว้กอดได้อีก นี่ love มาก ส่วนสัญญาณ WIFI มีกระจายทุกชั้น สัญญาณแรงดี แต่ Password ไม่ได้ให้มาตอน check-in นะ ต้องสังเกตที่เขาติดไว้ตรงหน้าลิฟต์ชั้น 1 เอง ซึ่งก็จำไม่ได้อีก เลยต้องโทรลงไปถาม front อีกรอบ ดีที่มีโทรศัพท์ ไม่งั้นต้องปีนเตียงลงไปอีกรอบละ ง๊อววว

ส่วนเตียงบนที่นอนนี่ Head room โอเคเลย ไม่เตี้ยไป แต่ก็ไม่ได้เคลียร์โล่งตลอด มี Drop ฝ้าลงมาแถวส่วนปลายเท้า น่าจะหลบท่อหรืออะไรซักอย่าง แต่แอบเห็นได้ว่าน่าจะมีคนเคยหัวโขกตรงนี้แน่นอน ฝ้าแอบบิ่น ยิ่งถ้าแบบงัวเงียแล้วลุกปุ๊บ นี่ฟาดมุมฝ้าได้ปั๊บทันที

ห้าทุ่มกว่าๆ ได้เวลานอน พอปิดม่าน ปิดไฟ แล้วนี่ก็ private ทีเดียวนะ เพื่อนร่วมห้องมาทีหลัง 3 เตียงเมื่อคืน เพิ่งป๊ะกันตอนเช้า เป็นฝรั่งหมด หญิง 2 มาด้วยกัน ชาย 1 มาคนเดียว ทุกคนมีมารยาทกันยอดเยี่ยม ไม่คุยดัง ทำทุกอย่างเบาเท่าแมวย่อง ถามว่าได้ยินเสียงมั๊ยก็ได้ยิน แต่ไม่ถือว่า annoy เลย หลับได้สบายต่อเนื่องมากกกกกก

แต่ห้องนี้มีเสียงรบกวนนิดนึงที่ดังกว่าเพื่อนร่วมห้อง คือเสียงท่อน้ำ เพราะว่าอยู่ใต้ห้องอาบน้ำด้านบนพอดี๊ ได้ยินสายน้ำไหลเอื่อยเป็นจังหวะ ราวกับนอนอยู่ริม Waterfront 555

นี่ก็นอนสลบไสลมากก ไม่ตั้งนาฬิกาปลุกแต่อย่างใด ห้องก็มืดดี เงียบดี ดู timeless มาก ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมห้องตื่นมากุกกัก ก็ เอ๊ววว ตื่นอาไรกันเร็ว ตีห้าเองมั๊งเนี่ย ที่ไหนได้ หยิบนาฬิกามาดู แปดโมงแล้วววว แต่ก็ชอบ setting ห้องแบบนี้นะ คือไม่มีหน้าต่าง ไม่มีแสงธรรมชาติมารบกวนการนอนดี ข้อเสียก็อาจจะทำให้หลับยาว ย๊าววววยาว จนหมดเวลาอาหารเช้าได้

ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน ลงมากินอาหารเช้าก่อน มีชาร้อน กาแฟร้อน ขนมปังปิ้ง พร้อมแยม เนย Nutella แล้วก็มี Cornflake นม น้ำส้ม ให้เลือกทาน พร้อมกับ กล้วยหอมที่ใหญ่มากกกก อันนี้ฝรั่งคนนึงบ่นด้วยความ amazing ว่าใหญ่งี้จะกินคนเดียวไงหมดคะนี่ หาเพื่อนแบ่งกล้วยกันสุดริด ทุกอย่างดู sufficient แล้วสำหรับอาหารเช้าระดับนี้ ถ้าจะเพิ่มอีกก็แค่ Variety ของขนมปังกับ Flake/Muesli นี่ก็จะดีงาม

ระหว่างทานก็คุยกับแหม่มที่นั่งข้างๆ นางมาจาก Calgary Canada เพิ่งมากรุงเทพครั้งแรก มีเวลา 2 วัน ก็แนะนำสถานที่เที่ยวให้นาง นางก็ว่าจะไปพระบรมมหาราชวังอยู่ละล่ะ เลยแนะนำว่านั่ง BTS ไปตากสิน แล้วนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาไป จะชิลดีมาก ตกเย็นก็ให้ไปชิลต่อแถวตรงข้ามวัดอรุณ แล้วนั่งเรือกลับมาตากสินดู Light up ริมน้ำ นางก็ว่าดีเลย นางไม่อยากนั่ง Taxi นางกลัว(โดนโขก 5555) Taxi ไทยชื่อเสียงขจรไกลมากมายจีจี แนะนำเสร็จก็ขึ้นไปอาบน้ำ เก็บของ ลงมา Check out

คืนคีย์การ์ดรับเงินคืน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ปล.ลืมบอกว่า Location ที่นี่ถือว่าดีมาก ใกล้รถไฟฟ้าราชเทวีมาก ไม่ติดถนน เสียงไม่ดัง ไม่พลุกพล่านดี