โรงแรมแห่งนี้ เป็นโรงแรมในเครือ พรีเมียร์กรุ๊ป ซึ่งโรงแรมในเครือ ได้แก่ โรงแรมรายาวดี จังหวัดกระบี่ และโรงแรม แทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่ เป็นต้น ครับ โรงแรมแห่งนี้ มีความงดงามแบบผสมผสาน โดยแนวคิดในการรังสรรต่างๆ เค้าจะออกแบบโดยคำนึงถึง ศิลปะลานนาโบราณและวิถีชุมชนแบบดั้งเดิม สไตล์คลาสสิค มาเป็นคอนเซ็ปต์ หลัก โดยในพื้นที่ต่างๆ ทุกตารางเมตร ล้วนมี เรื่องราวที่สอดประสานกันได้อย่าง มีเสน่ห์และลงตัว ยิ่งข้าพเจ้าได้ทราบ เรื่องราวของ สถานที่ต่าง ๆ ของ โรงแรมแห่งนี้ ยิ่งทึ่ง ใน การออกแบบได้อย่างลงตัวและมองเห็นเรื่องราวในอดีตอันงดงามเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนครับ บรรยากาศของโรงแรมโดยรอบ อยู่ภายใต้โอบกอดของแมกไม้น้อยใหญ่ นานาพันธุ์ ที่เขียวขจี เหมาะสำหรับ วันพักผ่อนสบายๆ ที่ข้าพเจ้าต้องการเป็นอย่างยิ่งครับ โรงแรมแห่งนี้มีห้องพักเพียงแค่ 38ห้องพัก ครับ ดังนั้นจึงมีความเป็นส่วนตัวครับ ช่วยปลดล็อคพันธนาการแห่งความวุ่นวาย ช่วยเติมเต็มวันพักผ่อนอันแสนมีค่า ให้กับข้าพเจ้าเป็นอย่างยิ่งครับ ตัวอาคารของโรงแรม ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากชิ้นงานหัตถศิลป์พื้นบ้านของชาวลานนา นำมาประยุกต์ให้มีความร่วมสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์ของเสน่ห์แบบเดิมไว้อยู่ได้แบบลงตัวครับ โรงแรมแห่งนี้ มี 3 ชั้น โดยห้องพักทุกห้องจะ หันด้านหน้าห้องพักไปยังแม่น้ำปิง ซึ่งห้องพักในแต่ละชั้นจะมี สไตล์การออกแบบที่แตกต่างกัน สวยทุกๆแบบห้องพักครับ โดยห้องพักจะมีพื้นที่กว้างมาก โดยห้องพักที่อยู่ชั้นที่2และชั้นที่3 ทุกๆห้องพักจะมีพื้นที่ 75 ตารางเมตร มีระเบียงนั่งเล่นที่ท่านสามารถชมความงดงามของแม่น้ำปิงยามเช้าอันสุดแสนจะงดงามได้ด้วยครับ ส่วนห้องพักชั้นล่างสุด จะมีพื้นที่มากที่สุด ถึง 100 ตารางเมตร จะไม่มีระเบียงนั่งเล่น แต่จะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวบริเวณด้านหน้าห้องพักครับ และทุกห้องพักจะมีห้องน้ำขนาดมหึมา มีอ่างอาบน้ำ ครับ การตกแต่งภายในห้องพัก จะนำของใช้ในชีวิตประจำวันของคนท้องถิ่นในอดีตเช่นงานไม้แกะสลัก,เครื่องปั้นดินเผา,ผ้าทอและงานจักรสาน รวมถึง นำฉากกระดาษสา มาประดับตกแต่งได้อย่างลงตัว โทนห้องพักและพื้นที่ต่าง ๆจะเป็นโทนสีขาวและสีครีม เป็นหลักครับ สร้างบรรยากาศร่วมสมัยแบบมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ได้อย่างงดงามครับ โรงแรมแห่งนี้ เค้ามีส่วนร่วมในการผลักดัน งานหัตถศิลป์ชุมชน สู่ความยั่งยืน ด้วยการ สอนชาวท้องถิ่นที่ ทำงานจักรสานและทอผ้า ให้มีการยกระดับชิ้นงานให้มีความทันสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ แล้วนำชิ้นงานเหล่านั้นมาประดับตกแต่งตามจุดต่างๆ ของโรงแรม ซึ่งในอนาคต เค้าจะเปิด ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อแบ่งปันและกระจายรายได้กลับคืนสู่ชุมชน เพื่อผลักดัน ให้วิถีแห่งงานศิลป์ลานนาเหล่านี้ ยังคงอยู่สืบต่อไปตราบนานเท่านาน ถือว่าเป็นโรงแรมที่มีจุดยืนชัดเจน ครับ โรงแรมแห่งนี้ มีบริการที่ครบวงจร ครับ ไม่ว่าจะเป็น บริการสปา ชื่อว่า "ไอว่าน สปา"สปาของทางโรงแรม จะโดดเด่นด้วยการนวดปรับธาตุทั้ง4 ในร่างกายโดย เจ้าหน้าที่จะ นำกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยมาให้ท่านดม ก่อนใช้บริการสปา แล้ว ร่างกายของเราจะบอกท่านเองว่า ท่านอยากจะทำการนวด ด้วยน้ำมันหอมระเหยกลิ่นใด ซึ่งน้ำมันหอมระเหยชนิดต่าง ๆ จะมีศักยภาพในการฟื้นฟู ร่างกายในสรีระที่แตกต่างกันครับ โดยในขั้นตอนการนวด เค้าจะ มุ่งเน้นการบำบัดด้วยศาตร์พื้นเมืองดั้งเดิมครับ สำหรับ ท่านที่ชื่นชอบการดื่มชา โรงแรมแห่งนี้ มีพื้นที่ LAAN CHA TEA TERRACE (ห้องลานชา) ท่านสามารถที่จะนั่งดื่มชา พร้อมกับชมวิวแม่น้ำปิง อันสุดแสนจะโรแมนติก ที่ลานชาแห่งนี้ได้ครับ เค้าจะมีชุดชายามบ่ายให้บริการในราคาชุดละ 990บาทยังไม่รวมค่าเซอร์วิสชาร์ท สำหรับ 2 ท่านครับ ซึ่งท่านสามารถเลือก อาหารคาวได้ 3 ชนิดและของหวานได้ 3 ชนิด แต่ละชนิดจะเสิร์ฟอย่างละ 2 ชิ้น ในเซ็ทถาดไม้ไผ่และรองด้วยใบตองอย่างในเซ็ทที่ข้าพเจ้าสั่งนี้ จะมีของคาว อย่าง"บาเยีย" เป็นถั่วก้อนกลมๆราดด้วยซอสมะขาม, ปีกไก่อบซอสเสฉวน ของหวานจะเป็น แพสชั่นฟรุตพานนาคอตตารัม,ช็อกโกแลตพ๊อต มูสมะพร้าวและถั่ว รวมอยู่ในเซ็ทนี้ครับ โดยเค้าจะเสริฟพร้อม ชาหรือกาแฟสำหรับ 2 ท่าน ครับ ข้าพเจ้า อยากแนะนำ"ชา"ที่เป็นตัว ซิกเนเจอร์ของที่นี่ คือ ชาจากดอกพะยอม ท่านสามารถเลือกได้ว่าอยากดื่มชาแบบร้อนหรือแบบเย็น ครับ โดยที่ ชาชนิดนี้ จะมี รสชาติของความหอมหวานละมุน ในตัวของดอกพะยอมที่เป็นเสน่ห์ที่ชวนหลงใหล ในระหว่างที่ท่านดื่มชา จะมี สายลมที่เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ ของ ยามบ่ายที่พัดผ่านเข้ามาบริเวณลานชา ท่านจะสัมผัสได้ถึงความสดชื่นและสุดแสนจะผ่อนคลาย , มีสระว่ายน้ำหลัก ที่อยู่แนบชิดริมแม่น้ำปิงพื้นที่บริเวณด้านข้างของสระว่ายน้ำเค้าจะปลูก " ต้นใบเตย" เมื่อเวลา ท่าน ว่ายน้ำจะได้กลิ่นหอมสดชื่นของ ใบเตย และได้สัมผัสเหมือนกำลังว่ายน้ำอยู่ใน แม่น้ำปิง เลยครับ มีห้องฟิตเนส และมี ห้องอาหาร BAAN TA LOUNGE & LAWN เป็นเลาจน์ที่บรรยากาศสบายๆ แบบส่วนตัวบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มต่างๆ ส่วนห้องอาหารหลัก ชื่อว่า ห้องอาหาร "คุข้าว" ซึ่ง ให้บริการอาหารเช้า รวมถึงอาหารเย็น ที่มีการออกแบบทุกๆเมนูแบบผสมผสาน โดยนำเมนูอาหารลานนา โบราณ จากพื้นที่ต่าง ๆอาทิเช่น อาหารพม่า,อาหารลาว,อาหารสิบสองปันนา และอาหารจีนยูนนาน มาประยุกต์ใหม่ ทำให้ได้รสชาติที่น่าทึ่งอร่อยลงตัวสุดๆครับ ถ้าท่านมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ท่านมั่นใจได้ในเรื่องโภชนาการอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพราะพืชผักส่วนใหญ่ที่นำมาประกอบอาหาร เค้าจะปลูกแบบ เกษตรอินทรีย์ เกือบทั้งหมด โดยท่านสามารถเดินไปชมแปลงผักของทางโรงแรมแห่งนี้ได้บริเวณริมแม่น้ำปิง ครับ นอกเหนือจาก มาตรฐานของห้องพักและบริการที่อำนวยความสะดวกต่างๆ แล้วข้าพเจ้า ยังให้เต็มสิบ ในงานด้านบริการด้วยครับ พนักงานทุกๆตำแหน่งหน้าที่ ตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ดูแลสวน จนถึง พนักงานต้อนรับ และเจ้าหน้าที่ทุกๆฝ่าย ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเองคอยอำนวยความสะดวกให้อย่างเอ็กซ์คลูซีฟ ข้าพเจ้า สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและเป็นกันเอง แต่มีความนอบน้อม ซึ่งงานบริการที่ดีเยี่ยมของพนักงานทุกๆหน้าที่ จะสามารถทำหน้าที่ได้แบบนี้ ย่อมเกิดจากการบริหารจัดการบุคลากรที่มีคุณภาพ จึงทำให้พนักงานทุกๆท่านทำงานด้วยใจรักและใส่ใจในหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม เป็นความประทับใจ ที่ยิ่งทำให้ข้าพเจ้า หลงรัก โรงแรมแห่งนี้ อย่างเต็มเปี่ยม และถ้ามีโอกาสเดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ข้าพเจ้าจะเดินทางมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ อีก อย่างแน่นอนครับ

Luxury Hotel ริมน้ำปิงที่เพิ่งเปิดได้ 3 เดือน ห้องพักตกแต่งอย่างอบอุ่น กว้างขวาง สวยงามทุกรายละเอียด ห้องพักที่นี่จะมี 3 ชั้น ห้องชั้น 1 จะเป็น pool suite มีสระเล็ก ๆ ในห้อง ส่วนชั้น 2-3 จะมีเทอเรสให้ออกมารับอากาศบริสุทธิ์ชมวิวแม่น้ำปิง และรับความสดชื่นของธรรมชาติรอบตัวได้อย่างเต็มที่ การเข้าพักในครั้งนี้ได้ห้องพักบนชั้น 3 ซึ่งมองออกมาจะเห็นสระว่ายน้ำพอดี ทุกอย่างดีมาก บริการสมบูรณ์แบบ มีพนักงานที่เรียกว่าต้นห้องคอยให้บริการ ในส่วนของร้านอาหารก็ตกแต่งสวยงาม อาหารตอนแรกดูเมนูก็เกรง ๆ เพราะชื่อเมนูจะแปลก ๆ หน่อยแต่พอสั่งมาอร่อยล้ำมาก ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมาก ๆ สำหรับคนรักการพักผ่อน