ถ้ามาเชียงใหม่ ไม่ควรพลาดวัดอุโมงค์ คนที่ชอบความมีเสน่ห์ของสถานที่ ไฮไลต์จะเป็นถ้ำที่บรรพบุรุษล้านนาสร้างขึ้นเพื่อแสวงหาความสงบทางธรรม เดินในถ้ำอย่างสำรวมได้และอย่าลืมมองหาภาพเขียนศิลปะบนผนังถ้ำซึ่งมีอายุกว่าห้าร้อยปี ข้อสำคัญคือห้ามสัมผัสภาพแม้ไม่มีป้ายห้าม เพราะน้ำมันจากมือจะทำให้ภาพเลือนหาย ต้องช่วยกันบอกและรักษาให้ภาพสามารถอยู่ได้นานมากที่สุด ส่วนด้านบนถ้ำยังมีเจดีย์ที่น่าสนใจศิลปะลังกาผสมพม่า มีรูปทรงแตกต่างจากวัดโดยทั่วไปในเชียงใหม่ซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีสวนธรรมของท่านพุทธทาสภิกขุ ถ้าสนใจแสวงหาสติและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในธรรมะที่ช่วยให้จิตใจหายฟุ้งซ่านได้มาก ควรเผื่อเวลาเดินอ่านป้ายหรือเข้าไปในอาคารแสดงภาพปริศนาธรรม ฝึกจิตฝึกใจให้สงบ นอกจากนี้แล้วหากติดใจอยากอยู่ปฏิบัติธรรมนานๆ ก็มีส่วนของศูนย์ปฏิบัติธรรม ควรอยู่อย่างน้อย 3 คืน จะพอดีๆ ที่จะช่วยให้จิตใจมีความสงบและมีสติมากขึ้น และชอบที่สุดของวัดนี้คือ ไก่แจ้ และหมู่หมา ที่เป็นมิตรทั้งหมด โดยเฉพาะเจ้าหมาที่ชื่อ เสือ และ ตัวสีขาวอีกตัว เราชอบมาก คอยดูแลตลอดปฏิบัติธรรมที่นี่ ถ้านั่งสมาธิก็มานอนข้างๆ ตอนกลางคืนก็เลยไม่ค่อยกลัวที่จะเดินจงกลมหรือนั่งสมาธิใต้แสงเทียน : )

บรรยากาศประมาณวัดป่า มีพื้นที่มากมาย แต่จุดไฮไลท์คือส่วนที่เป็นอุโมงค์เก่าแก่ มีความยาวไม่มากนักและมีร่องรอยหลงเหลือว่าเคยมีจิตรกรรมเพดานที่สวยมากๆ แต่ตอนนี้ลบเลือนเกือบหมดไม่หลงเหลือความสวย ถ้าไปช่วงคนเยอะจะค่อนข้างอึดอัดในอุโมงค์

จบจากวัดอุโมงค์แล้วก็สามารถท่องเที่ยวตามเส้นแม่รำเปิง และโครงการบ้านข้างวัดต่อได้ใกล้ๆกัน

เป็นวัดที่เหมาะแก่การมาพัก รวบรวมสติ สามารถมาได้ทั้งไหว้พระ หรือพักผ่อนหย่อนใจด้วยการให้อาหารปลาและนก เนื่องจากทางวัดมีบ่อขนาดใหญ่อยู่ภายในวัด หรือหากมาตอนช่วงเย็น ประมาณ 4-5 โมงเย็นให้ลองขับรถจากประตูวัดเลียบกำแพงขึ้นไปตรงทางขึ้นดอย จะเห็นฝูงกวางและวัวเดินลงจากภูเขามาทานผักที่ชาวบ้านและพระนำมาให้ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก สามารถนำผักผลไม้มาร่วมให้อาหารได้แต่ควรล้างและตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีสารเคมีที่อันตรายต่อสัตว์