คณะเราไปเที่ยวที่พม่า ระหว่างวันที่ -8 มีนาคม 2558 ซึ่งคณะเราราว 30 คนก็ไปถึงในช่วงเวลา เย็นๆ พอดี ณ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง หรือ เจดีย์ทองแห่งเมืองดากองหรือตะเกิง (ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง) แห่งลุ่มน้ำอิระวดี มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่า มีความสูงถึง 326 ฟุต..ไกด์เขากะเวลาได้แดดร่มลมตก เพราะเวลาเดินต้องถอดรองเท้า หากมากลางวันร้อนได้จัยจริงๆ...
เราพอได้อ่านประวัติมาบางในขณะที่เดินรอบพระมหาเจดีย์ชเวดากอง เราก็ตั้งจิตอธิษฐาน (เราแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ไม่พ้นขอให้ครอบและตนเองเป็นสิริมงคล และมีบารมี ....เพราะกำละงจะทำการใหญ่ อิ อิ)
เย็นๆวันนี้พูดได้เลยว่า ฝูงชนหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งคนต่างแดนเองและชาวพม่า ที่สังเกตคู่หนุ่ม-สาว ก็มีมาแยอะนะคะ เมื่ิอเดินครบและเสร็จเรียบร้อย เรานั่งพักก็สังเกตว่าบรรยากาศมีลมพัดเย็นๆ พอให้คลายร้อน ได้บาง ประชาชนของพม่าเองก็นิยมมาพักผ่อนหลังเลิกงานเช่นกันนะคะ และยังคงสวมใส่เสือผ้าที่เป็นลักษณ์ของประเทศเขา บางคนปะแป้งที่โหนก 2 ข้างขาวมาตั้งไกล
ผลักกันถ่ายรูปไป- มา จนซะใจ ขอนั่งพักอีกหน่อย...บอกได้คำเดียวว่าเป็นเจดีย์ที่งดงาม ศิลปะและสถาปัตยกรรมล้วนแต่มีที่มาของประวัติศาสตร์ มีตำนานและภูมิหลัง มองแล้วขลังยิ่งนัก
สิ่งหนุ่งเราไม่ลืมคือ ตีระฆังศักดิ์สิทธิ์ 3 ครั้งแล้วอธิฐานขออะไรก็จะได้ดั่งใจเขาว่างั้น สาธุๆๆๆ

ตื่นตาตื่นใจมาก กับภาพที่เห็น ไปก่อนช่วงตะวันจะตกดิน อากาศไม่ร้อนนัก ได้เห็นพระธาตุทั้งช่วงสว่าง และช่วงที่เปิดไฟ ช่วงค่ำๆนั่งชมเจดีย์เพลินเลยครับ

เป็นสถานที่มาเยือนพม่าแล้วต้องมา มาได้ทุกเวลา เช้าก็สวย
ค่ำๆๆ ก็สวยไปอีกแบบ มี wifi ให้บริการด้วย ดีมาก
ไฮไลท์ควรมาตอนกลางคืน มาส่องเพชรบนยอดเจดีย์จะมีมุม
ที่สามารถมองเห็นแสง เป็นสถานที่รวมความศรัทธาของชาวพม่า
ยิ่งใหญ่และควรมาชม