ฉันพักที่นี่เป็นครั้งแรกในปี 2011 ปัญหาเดียวที่ฉันเจอก็คือไม่มีใครช่วยฉันแก้ปัญหาภาษาของเรา สอง ฉันซื้ออินเทอร์เน็ต (เพราะมันไม่ฟรี) พอฉันกลับไปที่ห้องของฉันบนชั้นที่ 13 อินเทอร์เน็ตไม่ทำงาน ฉะนั้นฉันจึงโทรศัพท์ถึงแผนกต้อนรับ พวกเขาพูดว่าจะตรวจสอบระบบให้ หลังจากหนึ่งชั่วโมงพวกเขาก็โทรศัพท์กลับมาบอกว่าใช้ได้แล้วแต่ไม่ใช่ในห้องของฉัน ฉันต้องอยู่ในล็อบบี้เพื่อเชื่อมกับไวไฟของพวกเขา อินเทอร์เน็ตมาเรื่อยๆ ดังนั้นฉันจึงเสียเวลาใช้อินเทอร์เน็ตของฉันเกือบ 1 ชั่วโมง อาหารเช้าเหมือนเดิมเสมอ และมีจิ้งจกตัวหนึ่งตายอยู่ในมุมข้างประตูเชื่อมห้องที่อยู่ติดกัน ห้องเก่ามากจริงๆ เราพักนาน 3 สัปดาห์ ฉันมาถึงที่นี่ในวันที่ 26 ธันวาคม 2012 ฉันเข้าพักอีก ตอนแรกฉันประทับใจเพราะห้องเพิ่งถูกปรับปรุงใหม่ๆ ในวันที่ 3 ของการพักของฉันๆ ตื่นนอนตอนประมาณ 8 น. เพราะเสียงที่ดังมาก ฉันจำได้ง่ายๆ ว่าเสียงอะไร แต่ฉันแค่ทำเฉยกับมัน.. (มีคนทำงานบนชั้นที่ 15 และฉันพักบนชั้นที่ 16) ฉันได้ยินเสียงนั้นทั้งวัน หลังจากทำงานนานหนึ่งสัปดาห์ ในที่สุดฉันก็ได้วันหยุดพักของฉัน แต่โชคร้ายที่ฉันได้ยินเสียงนั้นอีก ดังนั้นฉันจึงโทรศัพท์ไปถึงแผนกต้อนรับและขอร้องให้พวกเขาห้ามคนงานที่ทำงานเพื่อฉัน อย่างน้อย 1 วันเพื่อพักผ่อนให้หนำใจเพราะมันเป็นวันหยุดของฉัน พนักงานต้อนรับส่งฉันไปหาผู้จัดการ ผู้จัดการบอกฉันว่าพวกเขาจะ “พยายาม” หยุด พวกเขาแค่พูดว่า “ขออภัยด้วยมาดาม แต่เรากำลังปรับปรุงชั้นที่ 15” ฉันยังอดทน... เสียงอึกทึกไม่เคยหยุดเลย ฉะนั้นฉันจึงตัดสินใจตื่นนอนแล้วไปหาเพื่อนชาวสิงคโปร์และนอนในบ้านของเธอ หลายวันผ่านไป ฉันชักจะชินกับเสียงที่ปลุกฉันทุกเช้า คีย์การ์ดไม่ทำงาน 11 ครั้ง ฉันไต่ถามสุภาพสตรีในแผนกต้อนรับอีกว่าทำไมจึงเป็นอย่างนั้นเสมอ ฉันไม่ได้เก็บคีย์การ์ดไว้กับเงินเหรียญหรือโทรศัพท์ของฉัน คืนหนึ่งฉันต้องลงไปข้างล่าง 3 ครั้งและพยายามให้กุญแจของฉันทำงาน จนกระทั่งผู้จัดการเข้าไปในห้องของฉัน เธอมีกุญแจอื่น เธอใช้กุญแจของเธอและมันทำงาน เธอพูดว่า “ใช้ได้อยู่นี่นา” ฉันตอบว่าของฉันใช้ไม่ได้ ฉันต้องเปลี่ยนเป็นครั้งที่ 3 เดี๋ยวนั้น “คุณใช้ของฉันก็ได้” เธอพูด เธอไม่พูดว่าขอโทษด้วยซ้ำไป เธอจากไปราวกับฉันไม่ใช่แขก และฉันเป็นฝ่ายพูดว่า “ขอบคุณ”... มันเกิดขึ้น 11 ครั้งที่กุญแจไม่ทำงาน ตู้นิรภัยก็ไม่ทำงาน แสงจากห้องน้ำแย่ลงจนถึงที่สุดและไม่ทำงานเลย ฉะนั้นฉันจึงต้องโทรศัพท์บอกแผนกแม่บ้านให้มาเปลี่ยน ผ้าเช็ดตัวไม่เคยเปลี่ยน หรือบางครั้งพวกเขาก็ไม่ให้ครบชุด ไม่มีผ้าเช็ดตัวเลย 1 ครั้ง.. จานชามก็เหมือนช้อนกับส้อมที่ไม่ได้ล้างนาน 1 สัปดาห์เหมือนกัน (ฉันใส่ไว้ในอ่างล้างจาน พวกเขาจะได้เห็นว่าต้องล้าง แต่พวกเขาขี้เกียจเกินไปจริงๆ) อาหารเช้าเดิมๆ เกือบ 3 อาทิตย์!! แก้วบางใบไม่ได้ทำความสะอาดอย่างดี ดังนั้นนี่คือสิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นฝันร้ายดีๆ นี่เอง.. ฉันเช็คเอาท์ในวันที่ 18 ธันวาคม 2012 พนักงานต้อนรับไม่ยอมให้เราไป เธอพูดว่าผู้จัดการอยากคุยกับเรา เราสงสัยว่าทำไม ฉันคิดว่า โอ้ พวกเขาคงจะพูดว่าขอโทษสำหรับความไม่สะดวกทั้งหมดและเสียง แต่พิลึกพิลั่นเพราะพวกเขาขอให้ฉันจ่ายเงิน $150 สำหรับปลอกผ้าห่ม เพื่อนของฉันทำว็อดก้าราสป์เบอร์รี่จากเรือท่องเที่ยวหกใส่ผ้าผืนนั้น.. ฉันบอกพวกเขาว่าเพียงแต่ฟอกผ้าพวกเขาก็จะเอารอยเปื้อนออกได้ พวกเขาไม่ต้องการ อันที่จริงพวกเขาเซ้าซี้เราให้จ่ายเงินจำนวนนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วก็ลดลงจาก $150 เป็น $120 แต่ก็ยังแพงอยู่ดี ฉันบอกผู้จัดการแล้วทุกอย่างเกี่ยวกับความเสียหายที่พวกเขาทำกับฉัน เช้าตรู่ที่อึกทึก เสียงค้อนทุบผนัง ผนังห้องสั่นสะเทือน กระเบื้องแตก ฯลฯ.. มันเป็นอย่างไรเมื่อกุญแจไม่ทำงานและคุณไม่พูดว่าขอโทษด้วยซ้ำ มันเป็นความล้มเหลวในระบบของคุณจริงๆ หลายครั้งพวกเขาให้ผ้าเช็ดตัวไม่ครบชุด ความไม่สะดวกที่พวกเขาทำให้ฉันไม่ได้พักผ่อนเต็มอิ่ม เธอพูดว่าขอโทษเท่านั้นก็ได้ และก็จบแค่นั้นเอง ดังนั้นฉันจึงบอกเธอว่าฉันเสียใจที่เพื่อนของฉันทำว็อดด้าหกใส่ผ้าผืนนั้น โชคร้ายที่แขก/ลูกค้าไม่เคยชนะและไม่สำคัญเลย ฉันลงเอยด้วยการจ่ายเงินจำนวนนั้น ไม่งั้นเราจะไปขึ้นเครื่องบินไม่ทัน ฉันต้องพูดว่าโรงแรมนี้คือนรก!!! สิ่งเดียวที่ฉันชอบก็คือพนักงานอาหารเช้าที่เป็นมิตร แค่นี้เอง นอกจากนั้นแล้วโรงแรมนี้ร้ายกาจ ฉันเดินทางและพักในโรงแรมหลากหลายแห่งมาโดยตลอด และจากประสบการณ์ของฉันแล้วนี่เป็นโรงแรมชั้นต่ำที่สุดเท่าที่ฉันเคยพัก.. ฉันโชคร้ายแค่นั้นเอง เพราะบริษัทเลือกโรงแรมนี้ และก็ โอ้ อยู่ให้ห่างจากชั้นที่ 2... เรื่องลึกลับเกิดขึ้นมากมายบนชั้นนั้น
21
53
45
23
22