สถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ก็คือวิหาร Abu Simbel ที่องค์การ Unesco... อ่านเพิ่มเติม
สถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ก็คือวิหาร Abu Simbel ที่องค์การ Unesco... อ่านเพิ่มเติม
มหาวิหารนี้เป็นวิหารของพระเจ้ารามเสสที่ 2 ตั้งอยู่ 4 องค์ตรงทางเข้า... อ่านเพิ่มเติม
ความงดงามอันเป็นนิรันดร์ วิหารอาบูซิมเบล ถ้าท่านเดินทางมาเที่ยวประเทศนี้ต้องบอกเลยห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะวิหารนี้เป็นสถาปัตยกรรมหินทรายขนาดใหญ่ ที่รังสรรออกมาได้ยิ่งใหญ่และทรงคุณค่า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากทางองค์การยูเนสโก พูดได้คำเดียวแรกเห็นข้าพเจ้าตกตะลึงในความอลังการและงดงามเป็นที่สุด วิหารอาบูซิมเบล สร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 มหาราชผู้ยิ่งใหญ่เพราะท่านสามารถรวบรวมอาณาจักรอียิปต์ ทางตอนเหนือและทางตอนใต้ ทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียว ท่านสร้างขึ้นเพื่อ บูชาเทพอามุนรา รู้จักกันในนาม "วิหารแห่งรามเสสอันเป็นที่รักของเทพเจ้าอามุน อีกทั้ง ยังสร้างขึ้นเพื่อเป็นการ ฉลองชัยชนะของอียิปต์ที่มีต่อชาวนูเบีย ซึ่งชาวนูเบียจะมีผิวสีดำเข้ม ปัจจุบันจะพบได้ในประเทศซูดาน ภายในบริเวณจะประกอบไปด้วย วิหารใหญ่ของกษัตริย์ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ด้านหน้าวิหารจะมีรูปหินแกะสลักของพระองค์เอง สวมมงกุฎสัญลักษณ์เป็นรูปงู มีเครายาว ประทับนั่งบนบัลลังก์อยู่ด้านหน้า 4 องค์ หันหน้าไปทางแม่น้ำไนล์ เพื่อแสดงถึงพลังและอำนาจของพระองค์ รูปสลักองค์กษัตริย์ฟาโรห์รามเสสที่2ใหญ่โตสง่างามดูน่าเกรงขามมาก มีความสูงถึง 20 เมตร ตั้งเรียงกันข้างละ 2 องค์ ตรงพระบาทของกษัตริย์ฟาโรห์ จะมีรูปแกะสลัก เป็นรูปพระมารดา พระราชินีและโอรสธิดาอีก 8 องค์ ด้านบนของวิหารมีรูปสลัก ลิงบาบูน 22ตัว ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าวิหารนี้สร้างขึ้นเมื่อพระองค์ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 22 เหนือประตูทางเข้ามีรูปสลักของ เทพอามุนราและรูปสลักกษัตริย์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 กำลังถวายเครื่องราชสักการะอยู่ ด้านในวิหารไม่อนญาตให้ถ่ายภาพนะครับ จะมีรูปปั้นของ กษัตริย์ฟาโรห์รามเสสที่2 และภาพสลักเขียนเป็น ภาษาเฮียโรกลิฟฟิก ที่บอกเล่าประวัติและพระราชกรณียกิจต่างๆของพระองค์ ห้องตรงกลางด้านในสุด มีรูปหินแกะสลักเทพเอมอนรา พื้นที่ถัดไปจะเป็น วิหารเล็กของ พระนางเนเฟอร์ตารี(ชื่อของพระนางแปลว่าเป็นผู้หญิงสวยที่สุดในบรรดาเหล่าอิสตรีด้วยกัน) อันเป็นที่รักยิ่งของพระองค์ ปกติแล้ว วิหารต่างๆ ในสมัยอียิปต์โบราณมักจะเป็นของกษัตริย์สร้างให้ตนเอง
หรือสร้างถวายให้เทพเจ้าเท่านั้น การสร้างให้ราชินีครั้งนี้ จึงเป็นกรณีพิเศษ ที่ไม่เคยมีมาก่อน
จึงแสดงถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ที่องค์รามเสสที่ 2 มีต่อพระนางเนเฟอร์ตารี มเหสีของพระองค์ ด้านหน้าทางเข้าวิหารจะเป็นรูปสลักขนาดใหญ่ของ กษัตริย์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ด้านหน้าวิหารจะมีรูปสลักลอยสูงประมาณ 10 เมตร เป็นรูปของกษัตริย์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ขนาบสลับกันกับรูปพระนางเนเฟอร์ตารีซึ่งสวมมงกุฎราชินีทั้ง 2 รูป ส่วนรูปกษัตริย์ฟาโรส์รามเสสที่2จะสวมมงกุฏไม่เหมือนกัน รูปแรก พระองค์ทรงสวมมงกุฎหางนกมีแผ่นสุริยวงกลม ซึ่งหมายถึงว่า พระองค์ทรงเทียบเท่าสุริยเทพ และรูปสลักอีก 3 รูป พระองค์ทรงสวมหมวกทรงปาปิรัสและดอกบัวตูม ความหมายถึงการขึ้นครองสองอาณาจักรทั้งอียิปต์บนและอียิปต์ล่าง รูปปั้นองค์เล็กในแต่ละช่วงของระหว่างขาของฟาโรห์รามเสสที่ 2 และพระนางเนฟเฟอร์ตารี คือ โอรสและธิดาของพระองค์ เหนือประตูทางเข้าจะเป็นภาพการต่อสู้ของกษัตริย์ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ที่มีชัยชนะเหนือชาวนูเบียน และ ภาพเทพเอมอนรา ที่คอยให้ความช่วยเหลือพระองค์ เมื่อเข้าไปภายในวิหาร ห้ามถ่ายรูปเช่นกันครับ จะมี เสาเป็นรูปใบหน้าของเทวีฮาเธอร์ ที่มีใบหูเป็นวัวประดับหัวเสา เทวีฮาเธอร์ได้ชื่อว่าเป็นพระมารดาแห่งจักรวาล เป็นสัญลักษณ์แห่งความงามและความรัก และ มีภาพพระนางเนเฟอร์ตารี ทรงได้รับการประทานพรให้ได้สวมมงกุฎราชินีจากเทวีฮาเธอร์และเทวีไอซิสครับ
สถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ก็คือวิหาร Abu Simbel ที่องค์การ Unesco ยกย่องให้เป็นมรดกโลกที่สำคัญของประเทศ Egypt
วิหารแห่งนี้แกะสลักหินทรายจากภูเขาทั้งลูก สร้างขึ้นโดยฟาโรห์รามเสสที่ 2 เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะต่อชาวนูเบียนและกระจายอำนาจทั่วอณาจักร
ปัจจุบันที่ตั้งเดิมของวิหารแห่งนี้ได้จมลงหลังจากที่มีการสร้างเขื่อน Aswan วิหารที่เห็นในปัจจุบันเป็นวิหารของดั่งเดิมที่ถูกขนย้ายนำมาไว้ที่นี่ โครงสร้างต่างๆเป็นของเดิมทั้งหมด
มหาวิหารนี้เป็นวิหารของพระเจ้ารามเสสที่ 2 ตั้งอยู่ 4 องค์ตรงทางเข้า สร้างขึ้นเพื่อถวายบูชาเทพเจ้าอามุนรา ฮอรากาติ และสร้างวิหารใกล้เคียงกันเป็นเกียรติ์แก่ราชินีเนเฟอร์ตารี มหารวิหารนี้ ถ่ายรูปได้เฉพาะภายนอก (ซึ่งคนที่แอบถ่ายด้านในจะเจอปัญหามากมาย ทั้งโดนไถเงิน เก็บพาสปอร์ต และอื่นๆ อีกมากมาย )