เราเป็นครอบครัวที่มีห้าคน โดยมีฉัน ลูกสาว ลูกเขย และลูกๆ ของพวกเขาอีกสองคน อายุ 6 ขวบคนนึง และ 3 ขวบ 8 เดือนอีกคนนึง เราพักที่นี่เป็นเวลาสองสัปดาห์ตลอดช่วงวันหยุดโรงเรียนและหยุดคริสมาสต์เมื่อปี 2012 ฉันจองห้องที่อยู่ติดกันที่มีวิวของทะเลด้วย หลังจากที่เกิดความผิดพลาดนิดหน่อยตอนที่เรามาถึงแล้วพบว่าเราได้ห้องริมสวนแทน แต่ทุกอย่างก็โอเค น่าพอใจ เพราะเขาจัดการแก้ไขให้เราได้อย่างรวดเร็ว สำหรับห้องด้านฝั่งทะเลนั้นยังมีวิวของสระบัวหลายสระให้เราดูอีกด้วย มีทั้งปลาสวยงาม อีกัวน่า เป็ด และนกชนิดต่างๆ อยู่รวมกันอย่างดูมีความสุข และแน่นอนว่ามีวิวของทะเลให้ดูด้วย พวกเด็กๆ ชอบออกไปให้อาหารปลา แล้วก็นั่งดูชีวิตสัตว์และพืชแถวนั้นไปตามประสาของเขาเรื่อยเปื่อย ซึ่งห้องที่เปิดถึงกันได้ก็ทำให้พวกเขาสะดวกสบายมาก และในห้องพักของเรา เราได้จัดที่นอนสำหรับให้นอนเล่นในตอนกลางวันเอาด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้เราในการจัดการเรื่องการนอนของเด็กๆ ได้ดีพอสมควร จริงๆ แล้วพื้นที่ตรงนั้นมันเป็นเพียงที่ว่างๆ เฉยๆ เท่านั้น
ห้องของเราอยู่ในมุมที่ดี ห้อง 3233 และ 3234 อยู่ในวิลเลจทางด้านใต้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ลิฟต์ และไม่จำเป็นต้องขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างห้องพักกับเมนล็อบบี้ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของโรงแรม แต่เราก็อาจจะต้องเดินจากจุดนึงไปอีกจุดนึงไกลอยู่บ้าง แต่รถเข็นเด็กที่มีน้ำหนักเบาของเราก็ช่วยเราได้มากทีเดียว ทำให้เราสามารถดูแลเด็กและเข้าร่วมกับกิจกรรมต่างๆ ได้โดยไม่ลำบากนัก โดยเฉพาะในตอนเย็นๆ หรือค่ำๆ ที่ทุกคนรู้สึกเหนื่อยๆ กันแล้ว
สำหรับอาหารเช้าจะเสิร์ฟให้ในภัตตาคารที่มีอยู่หลายแห่งในรีสอร์ท แต่เราก็มักมาติดอยู่ที่ Garden Café ใกล้ๆ ล็อบบี้เสียทุกทีไป ที่นี่มีอาหารอย่างหลากหลายที่เตรียมให้เราในแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งมักจะถูกปากทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาวยุโรปหรือเอเชียก็ตาม แต่อาหารที่มาจากดินแดนอื่นนั้นมักจะสร้างปัญหาให้กับเด็กส่วนมากเสมอ เพราะบางทีหน้าตาและรสชาติของมันก็ไม่ได้เกี่ยวกันเลยด เจ้าหลานชายของฉันก็ไม่ค่อยจะชอบลองอะไรใหม่ๆ เสียด้วย ส่วนหลานสาวก็ลองกินของที่ไม่เคยกินไปไม่กี่อย่างเอง แต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของทางโรงแรมแต่อย่างใด
ทั่วทั้งรีสอร์ทมีสระและหนองน้ำที่เชื่อมถึงกันได้อยู่หลายแห่ง มีต้นไม้จำพวกลีลาวดีและชวนชื่นออกดอกสวยงามเต็มไปหมด ดอกของมันที่ตกลงมาแล้วลอยอยู่ในหนองน้ำทำให้ดูสวยงามสบายตามาก นอกจากนี้มีอยู่บริเวณหนึ่งที่มีที่นั่งริมน้ำค่อนข้างเป็นระยะทางยาว แถวๆ นั้นก็เลยมีทั้งคนหนุ่มสาวและไม่หนุ่มสาวอยู่เต็มไปหมดเลย สำหรับสระว่ายน้ำที่นี่ลึกประมาณ 1.30 เมตร ก็เลยต้องมีคนคอยดูแลเด็กๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็นอยู่แถวๆ นั้นด้วยเสมอ
อาหารที่นี่จะมีเตรียมให้เอาไว้ในภัตตาคารหลากหลายแห่ง แต่ค่อนข้างจะชัดเจนว่าราคาในระดับโรงแรมนานาชาติทั้งนั้น บางทีเราก็เลยสั่งอาหารสำหรับเด็กๆ แถวๆ ริมน้ำในช่วงเวลาที่เด็กอยากกินกันนั่นเอง ซึ่งก็มักจะไม่ค่อยแพงจนเกินไปนัก แต่สำหรับเรา เรามักจะไปทานอาหารที่ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ที่เรียกว่า Bali Collections เสียมากกว่า ซึ่งอยู่ตรงข้ามทางเข้าโรงแรมนี่เอง ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขนาดเล็ก ซูเปอร์มาเก็ต และภัตตาคารต่างๆ ที่ให้บริการในระดับนานาชาติอีกหลายแห่ง รวมไปถึงตู้เอทีเอ็ม สปา และสถานที่อื่นๆ อีกด้วย ซึ่งราคาของอาหารแถวนี้จะถูกว่าที่โรงแรมมากเลย และรสชาติก็คุ้มค่าเงินมาก ในย่านนี้มีโรงแรมหรูอยู่อีกหลายแห่ง ดังนั้น Bali Collections ก็เลยเป็นที่เดินดูของและที่กินของแขกในโรงแรมเหล่านี้ไปด้วยเหมือนกัน ส่วนรอบนอกบริเวณนี้ออกไป และเดินออกมาไกลหน่อย จะมีวิลเลจเล็กๆ อยู่สองแห่ง ซึ่งมีร้านค้าและภัตตาคารหลายแห่งที่ขายราคาถูกมาก น่าจะลองไปดู เพราะคุณสามารถเรียกแท็กซี่ไปได้โดยที่ราคาไม่แพงนัก ในขณะที่ภัตตาคารบางแห่งจะมีบริการส่งคุณกลับโรงแรมให้ฟรีด้วย ที่นี่มีบริการซักอบรีด ซึ่งจะซักเสื้อผ้า อบ และรีดให้คุณอย่างเรียบร้อยในราคาไม่แพงด้วย
จะว่าไปแล้วทุกๆ อย่างในบริเวณที่ปลอดภัยและได้รับการปกป้องดูแลเป็นอย่างดีของนูซาดัวแห่งนี้ เป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก พนักงานทุกๆ คนก็ยิ้มแย้มแจ่มใสและเอาใจใส่ในบริการดี จนฉันไม่สามารถไปจับผิดอะไรเกี่ยวกับประสบการณ์ที่พบเจอในโรงแรมแห่งนี้ได้เลย
อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าการจราจรของที่นี่เป็นอะไรที่แย่มาก เป็นปัญหาจริงๆ และมันก็ทำให้เราอดไปเยี่ยมที่บางแห่งเลย เพราะรถมันติดจนเสียเวลาไปหมด สำหรับการจราจรระหว่างทางจากโรงแรมไปสนามบินนั้นก็ยิ่งแย่ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 4 โมงเย็นไปจนถึง 3 ทุ่ม เนื่องจาก Kuta นั้นเป็นเขตที่มีคนค่อนข้างมาก และมันก็อยู่ไม่ไกลจากสนามบินมากนัก ดังนั้นก็เลยดูเหมือนทุกคนต่างจะต้องการใช้ถนนทั้งนั้น ฉันนับไม่ถูกจริงๆ ว่ามีรถมอเตอร์ไซด์คันเล็กๆ วิ่งแซงหน้าเราไปกี่คัน พวกเขาวิ่งกันตามช่องว่างๆ ระหว่างเลนกันเต็มไปหมด วิ่งมากันไม่ขาดสายเลยทีเดียว และสำหรับการเดินทางของเราจากโรงแรมไปสนามบินในวันสุดท้าย ซึ่งก็คือวันที่ 3 มกราคมนั้น เราออกจากโรงแรมในตอน 17.00 น. และมาเข้าเช็คอินเที่ยวบินเที่ยวสองทุ่มเอาก็ตอน 19.20 น. แล้ว โชคค่อนข้างดีที่มาถึงได้ทันเวลา เพราะเราเองก็ต้องผ่านอีกหลายจุด ทั้งเช็คอิน ตรวจความปลอดภัย และแน่นอน เสียภาษีขาออกที่โต๊ะจ่ายภาษีขาออก มันเป็นช่วงเวลาทื่ตื่นเต้นพอสมควร แต่ว่าเราก็สามารถทำได้สำเร็จ เพราะว่าถ้าหากเราพลาดเที่ยวบินเที่ยวนี้ก็คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเที่ยวบินทุกเที่ยวเต็มหมดอย่างน้อยสองสัปดาห์เลยทีเดียว
โดยรวมแล้วขอแนะนำโรงแรมแห่งนี้ก็แล้วกัน ขอแนะนำมากๆ เลย