รีสอร์ทที่ดูน่าเบิกบานใจนี้ สร้างขึ้นอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ มันทอดยาวตลอดระยะ 400 เมตรของหาดทรายสีทอง มีเนินหินรูปร่างดึงดูใจคั่นเป็นระยะๆ และรายรอบด้วยต้นปาล์ม ชายหาดทำทางไปสู่เนินเขาที่ปกคลุมด้วยป่าฝน และต้นไม้ในป่าฝนนี้ก็สูงเกินยอดตึก เป็นการจัดวางที่ช่างสวยงาม ดูเหมือนฉากในหนังฮอลลีวูดยังไงยังงั้น รีสอร์ทมีสระว่ายน้ำทั้งหมด 3 ที่; สระยาวใหญ่ที่นึง, รายล้อมด้วยบังกะโลส่วนตัวและภูมิทัศน์อันสวยงาม; สระข้างห้องอาหารและบาร์; และสระเล็กสำหรับแขกที่พักที่อีกด้านของรีสอร์ท นี่ทำให้หาที่ผ่อนคลายสงบๆ ได้ง่ายมาก, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีเก้าอี้อาบแดดวางไว้ให้รอบๆ สระว่ายน้ำ
ชายหาดเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาจึงไม่อนุญาตให้นอนอาบแดดที่หาด ดังนั้นจึงไม่เสียทัศนียภาพและไม่มีนักท่องเที่ยวนั่งเรือมาเป็นจำนวนมากด้วย และไม่ค่อยมีขยะพัดเข้ามาชายฝั่งด้วย (มีแค่ขวดน้ำเปล่าที่เห็นได้ทั่วไป) เราเลือกเข้าพักในห้องซูพีเรียร์ เป็นห้องขนาดใหญ่ดูน่าพักที่ออกแบบมาดีและมีระเบียงกว้าง ห้องแสตนด์ดาร์ทอยู่ด้านหลังทะเลแต่เรายังคงเห็นทะเลได้จากภายในห้อง ใช้เวลาเดินไปไม่นานถึงสระว่ายน้ำแนวยาวหรือชายหาด ห้องที่นี่อยู่ในชั้น 2 ของราว ๆ 6 ชั้น ซึ่งออกแบบมาได้คล้ายสถาปัตยกรรมของชาวโปรตุเกส (สัมผัสถึงประวัติศาสตร์ของเมืองภูเก็ตในอดีตกาล)
ถ้าคุณไม่ต้องการพักอยู่ใกล้คนอื่น ๆ ก็สามารถเลือกพักที่บังกาโลว์ได้ แต่เราพบว่าแถวห้องพักของเราก็เงียบดี ถ้าคุณเลือกบังกาโลว์ที่อยู่หน้าหาดก็จะมีผู้คนเดินผ่านหน้าห้องไปมา ก็จะไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวนัก (แม้ฉันจะคิดว่าไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ก็ตาม) ห้องพักดูดีด้วยแสงไฟที่พอเหมาะ มีเครื่องปรับอากาศและพัดลมเพดาน (ถ้าเครื่องปรับอากาศเย็นเกินไป) โทรทัศน์แบบธรรมดา (ไม่ใช้จอแบน) แต่มีช่องให้เลือกดูหลายช่องด้วยกัน โซฟาแบบเตียงนอน ฟูกบนเตียงแข็งไปหน่อย มีลิ้นชักให้ใส่เสื้อผ้า ห้องตกแต่งอย่างดี ในห้องน้ำมีฝักบัวและอ่างอาบน้ำ ทั้งยังมีถาดผลไม้มาต้อนรับยามมาถึงด้วย
รีสอร์ทแห่งนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่เดินขึ้นบันไดไม่ได้ (แม้ว่าจะมีรถกอล์ฟให้บริการ) มีการทำงานปรับปรุงสถานที่เล็กน้อยแต่ไม่มีเสียงดังรบกวน มีการกั้นเชือกรอบบริเวณทำงาน ห้องอาหารของโรงแรมเป็นแค่บาร์ขนาดเล็กอยู่ข้างสระว่ายน้ำ ฉันหวังว่าเขาจะเปิดห้องอาหารที่ใหญ่กว่านี้สำหรับให้บริการอาหารเช้าในฤดูท่องเที่ยว อาหารที่พวกเรากินทั้งสดและตกแต่งอย่างดี อาหารไทยมีรสอ่อนแบบรสอาหารตะวันตก (เพราะทำให้ลูกค้าส่วนมากที่เป็นชาวยุโรป) ราคาแพงกว่าร้านในเมืองเล็กน้อย ถือได้ว่าไม่แพงเกินไป
สิ่งหนึ่งที่ดีมากเลยนะในเรื่องราคาสำหรับโรงแรมนี้ก็คือ ราคาที่อยู่บนเมนูนั่นแหละคือราคาที่เราต้องจ่ายรวมทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องมาบวกภาษีมูลค่าเพิ่มหรือเซอร์วิสชาร์จอีกทีก่อนจ่ายซึ่งมักทำกันในหลายๆ โรงแรมในเมืองไทย ทำให้หลายอย่างราคาสูงกว่าที่เราคิด ที่นี่ยังมี "แฮปปี้ อาวร์" ช่วงห้าโมงเย็น-หนึ่งทุ่ม ซึ่งคุณสามารถซื้อค็อกเทลดริ๊งได้ในราคาลดครึ่งหนึ่ง (จำกัดเมนู) พร้อมกับดูพระอาทิตย์ตก (แนะนำอย่างยิ่ง) อาหารเช้าบอกได้เลยว่า "ยอดเยี่ยม" มีขนมปังที่เหมาะกับมื้อเช้า เบคอนที่เป็นเบคอนจริงๆ เมนูไข่ที่สดใหม่ รวมถึงวาฟเฟิลและแพนเค้ก สลัดให้เลือกหลากหลาย ซีเรียล ผลไม้ และโยเกิร์ตต้นตำรับ จะว่าไปที่นี่ไม่ค่อยมีลูกค้าชาวเอเชียนะ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวยุโรป ที่นี่ยังมีพนักงานมากมายคอยมาเติมกาแฟหรือมาเก็บจานให้ด้วย
สปาที่นี่ค่อนข้างเป็นประสบการณ์ที่น่าพอใจสำหรับเรา ไม่หรูเว่อร์แต่กระท่อมสไตล์ธรรมชาติที่คุณสามารถเอนกายยินเสียงคลื่นม้วนตัวที่ชายฝั่งในขณะที่กำลังนวดอยู่นั้นทำให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ขอให้แน่ใจว่าคุณได้จองล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 1 วันเพราะเราเกือบจองไม่ทันมาแล้ว ราคาก็ค่อนข้างเหมาะสมกับบริการที่ได้รับ ในรีสอร์ทยังมีมินิมาร์ทไว้ซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ห้องออกกำลังกายเล็กๆ และบริการจัดทัวร์ ถ้าคุณชอบจะแนะนำให้เดินขึ้นเนินเขาไปประมาณ 10-15 นาที จะเจอร้านอาหารกับร้านค้าต่างๆ ขอแนะนำที่นี่เลยถ้าต้องการมีวันหยุดที่ผ่อนคลาย หรือถ้าอยากจะไปไหนทำอะไรก็สามารถใช้บริการจัดทัวร์ได้ ที่พักกระจายตัวกันอยู่ในรีสอร์ทให้ความรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว
พนักงานเป็นที่น่าพอใจและให้การช่วยเหลือดีและส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้บ้าง (บางคนพูดได้ดีมาก) โดยรวมที่นี่เป็นที่ที่ฉันจะกลับมาอีก
- Wifi ฟรี
- ที่จอดรถฟรี
- เข้าชมเว็บไซต์ของโรงแรม