เป็นครั้งแรกที่ได้ไปพักที่ La Vela เขาหลัก แม้ว่าช่วงที่ไปอากาศจะไม่ดีมีฝนบางช่วงในแต่ละวัน ทะเลไม่สวย ลงเล่นน้ำไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะเราได้รับการต้อนรับและการดูแลที่ดีจากพนักงานตลอดระยะเวลาการเข้าพัก ไม่ว่าจะส่วนงานต้อนรับ แม้ว่าจะใช้เวลาในการเชคอินเชคเอ้าท์นานไปนิด
ห้องพักกว้างขวาง สะอาด สะดวกสบาย เตียงใหญ่ มี facilities ครบครัน มากๆๆๆๆๆๆๆๆ สำหรับคน 1 คน
โรงแรมออกแบบและตกแต่งอย่างทันสมัย และมีเอกลักษณ์ของตัวเอง
อาหารเช้ามีให้เลือกหลายประเภท ทั้งเอเชียและตะวันตก และขอแนะนำ "หมูย่าง" (+ ข้าวเหนียว) มันดีจริงๆ
พนักงานห้องอาหารและที่บาร์ก็ดูแลดี ถามไถ่ตลอด
ตลอดเวลาที่พัก 3 วัน 2 คืน รู้สึกไม่พอ จนต้องหาเรื่องกลับไปอีกแน่นอน

พนักงานอัธยาศัยดี ยิ้ม ไหว้ ดูใส่ใจ ทุกส่วน เดินไปไหนก็ยิ้มแย้มทักทายประทับใจครับ สถานที่สวย ห้องใหม่สวยสะอาด อาหารเช้าอร่อย มีให้เลือกเยอะ
เตียงใหญ่ สระว่ายน้ำสะอาด อุปกรณ์ในห้องครบ มีบริการรถตุ๊กๆรับส่งในบริเวณใกล้ๆ อันนี้ดีมาก ที่พักติดชายหาด น่าเล่นมาก วิวสวย เหมาะกับการถ่ายรูป

เข้าพักที่โรงแรมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 สำหรับโรงแรมนี้ การเข้าพักที่ครั้งนี้เสียความรุ้สึกไปมาก เลยสรุปแยกมาให้เป็นข้อๆแบบชัดเจนค่ะ

เช็คอิน
เราไปถึงโรงแรมตอนฝนกำลังตกปรอยๆ ณ ตอนนั้นเราจอดรถด้านข้างตู้ atm และใช้บันไดด้านข้างเดินขึ้นมาบน lobby ในขณะที่เดินขึ้นมาเราหิ้วกระเป๋ากันขึ้นมาเอง 2 ใบ โดยไม่มีการช่วยเหลือใดๆ เราเอากระเป่าเข้ามานั่งในล้อบบี้เอง ทั้งๆที่มีพนักงานยกกระเป่าเห็นเรายกขึ้นมา แต่ก็ไม่เสนอความช่วยเหลือ
เข้ามาในล้อบบี้ ณ เวลานั้นที่ล้อบบี้ มีลูกค้าประปรายแต่พนักงาน มีเพียงพอที่จะดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง แต่ไม่มีพนักงานทักทายเราเลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนคุยกัน นั่งดูคอมพิวเตอร์ ซึ่งโดยปกติแล้ว เราคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องพื้นฐานที่สังคมการบริการควรมีและเรา 2 คน ดูไม่ยากเลยค่ะ ว่าเป็นลูกค้าที่เพิ่งมาถึง เรื่องนี้มันยิ่งตอกย้ำหนักไปอีกเมื่อเราเป็น returning

ไปที่ห้อง
- เราเดินไปที่ห้องโดยมีฝนปรอยๆ และถือกระเป๋าเดินทางไปเอง (อีกแล้ว) ไม่มีการเสนอความช่วยเหลือใดๆจากพนักงานยกกระเป๋า ทั้งๆที่โดยปกติแล้ว โรงแรมอื่นๆที่เราไปพัก พนักงานยกกระเป๋าหรือพนักงานที่เช็คอิน จะเสนอความช่วยเหลือเสมอ หลังจากไปถึงห้องพบว่า เตียงเป็นเตียงคู่ ทั้งๆที่ในอีเมลที่ส่งมาแจ้งว่าเป็น anniversary เราเข้าใจดีค่ะ ว่ามันเป็นการขอ และทางโรงแรมยังไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ แต่สิ่งที่เราขอนั้นมันเป็นการขอล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2562 (1 เดือน) เราคิดว่า โรงแรมในระดับนี้ จำนวนห้องขนาดนี้ น่าจะสามารถบริหารจัดการได้ และยิ่งไปกว่านั้นวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ได้โทรเข้ามาคอนเฟิร์มบุ๊คกิ้งอีกครั้ง และเจ้าหน้าที่แจ้งพิกัดของห้องที่จะได้พร้อมแจ้งว่า ห้องที่จัดไว้เป็นเตียงเดี่ยว หลังจากน้องพนักงานพาเราไปส่งที่ห้อง เราได้โทรกลับมาที่ล้อบบี้ เพื่อสอบถามว่ามีห้องอื่นมั้ย หลังจากเจ้าหน้าที่หาห้องเตียงเดี่ยวให้ได้ เจ้าหน้าที่แจ้งด้วยน้ำเสียงห้วนๆว่า ให้ถือกระเป๋าลงมาเลย เราทั้ง 2 คนเสียความรุ้สึกมากๆค่ะ เพราะประสบการณ์ที่เราเคยเจอ หากมีการย้ายห้อง เจ้าหน้าที่จะมารับเราไปดูห้องก่อน ถ้าเราพอใจในห้องใหม่ที่จะย้าย เจ้าหน้าที่จะส่งคนไปเอากระเป่าจากห้องเก่าเพื่อย้ายมาห้องใหม่ด้วยตัวพนักงานเอง ไม่ใช่ให้เราหิ้วไปมาแบบนี้ ตรงส่วนนี้ขอไม่ตำหนิน้องพนักงานที่พามาส่งห้องค่ะ เพราะน้องก็ทำหน้าที่ของน้องแล้วในเรื่องการย้ายห้องเพราะน้องพยายามช่วยเราอย่างเต็มที่แล้ว แต่เรื่องการสลับห้องมันน่าจะอยู่เหนืออำนาจของน้องในตอนนั้น ก็เลยคุยผ่านทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่คนอื่นแทน
เราหิ้วกระเป๋าเดินทางลงมาเอง เดินมาถึงเคาน์เตอร์พนักงานยกกระเป๋าซึ่งมีกันอยู่ 3 คนและไม่ได้ทำอะไร ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่เสนอความช่วยเหลือ ครั้งนี้เป็นการมาพักครั้งที่ 3 เราไม่ทราบว่าที่นี่ทำยังไงกับ returning guest เพราะถ้านี่คือสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดแล้ว โรงแรมนี้ยังล้าหลังโรงแรมอื่นมากค่ะ ที่อื่นเค้าค่อนข้างให้ความสำคัญกับลูกค้าที่กลับไปพักซ้ำๆนะคะ แต่ที่นี่ไม่มีใครทักทายเราเลยแม้แต่คนเดียว

Kokulo Beach Club เย็นวันแรก
- หลังจากเช็คอินเรียบร้อย เราก็ไปใช้บริการที่ห้องอาหาร และเช่นเดิมค่ะ มีพนักงานประมาณ 3 คน ลูกค้า 4 คน เราที่เพิ่งเดินเข้าไปรวมเป็นทั้งหมด 6 คน ไม่มีพนักงานแม้แต่คนเดียวที่ทักทายเรา หรือให้ความสนใจว่ามีคนมายืนรออยู่ พนักงาน 1 คนรับออเดอร์(ซึ่งตรงนี้เราเข้าใจ) แต่อีก 2 คน ยืนคุยกันที่แคชเชียร์ คือจะต้องให้ลูกค้าไปทักพนักงานเพื่อขอกินข้าวรึเปล่าสำหรับที่นี่ในตอนนี้ เราไม่แน่ใจ หลังจากเรายืนอยู่นานหลายนาที ไม่มีใครมาสอบถามอะไร มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายคนนึงซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้า (เสื้อสีขาวแขนยาว ผิวคล้ำ) เดินเข้ามาในห้องอาหารและเห็นเรายืนอยู่ จึงรีบเข้ามาทัก เราถึงได้เริ่มนั่งและสั่งอาหาร

อาหารเช้า
เหมือนเดิมค่ะ ไม่มีใครเข้ามาสอบถามหรือทักทาย เราเดินเข้าไปเอง หาโต๊ะเอง จัดการกันเอง จะเรียกหาพนักงานซักคน ค่อนข้างติดขัด ผักใน station สลัดล้างไม่สะอาด มีหนอนตัวใหญ่สีดำ+ขาว เกินกว่าที่จะพลาดและมองไม่เห็น

Kokulo Beach Club เย็นวันที่สอง
พนักงานในห้องอาหารควรจะจัดโซนดูแลลูกค้าที่ทั่วถึงกว่านี้ เมเนเจอร์คนที่เราได้กล่าวถึงยังคงบริการดีเหมือนเดิม แต่เนื่องจากเค้าคงไม่สามารถดูแลโต๊ะเราได้ตลอดเวลา แต่พอมองไปถึงพนักงานคนอื่น แทบไม่มีพนักงานคนอื่นให้ความสนใจเท่าที่ควร ทั้งๆที่จำนวนลูกค้า ณ ตอนนั้นไม่ได้เยอะมากขนาดดูแลไม่ทั่วถึง ตอนฝนปรอยๆลงมา เรายกโต๊ะเลื่อนกันเอง เวลาจะสั่งอาหารเพิ่ม หรือขออุปกรณ์เพิ่มเติม ยากมากที่จะสบตาพนักงานได้ค่ะ ต้องเดินไปเรียกเพราะพนักงานที่ว่างอยู่ 3-4 คน ยังคงยืนคุยกันเอง

เช็คเอ้าท์
เช่นเดิม จ่ายเงินเสร็จก็จบกัน ไม่มีแม้แต่คำขอบคุณหรือบอกลาที่ลูกค้าจะกลับแล้ว ทั้งๆที่มีพนักงานประมาณ 5 คนและไม่ได้ยุ่ง คุณมีเวลาเยอะมากตรงนั้น ที่จะพูดคุย หรือส่งลูกค้า แม้แต่ถามว่าการเข้าพักเป็นยังไง ยังไม่มีเลย

จากการไปพักครั้งนี้ เราเสียความรุ้สึกมากๆกับการบริการที่แจ้งไปข้างต้น จากที่เราตั้งใจไว้ว่าเราจะกลับมาที่นี่ทุกปี เราไม่เคยคิดว่าจะไปพักที่อื่นเลยถ้าไปพังงา เราคงเปลี่ยนความคิดหลังจากการมาพักครั้งนี้ เราเป็นลูกค้าที่นอน 2 คืนและไม่ออกไปใช้บริการร้านอาหารหรือการบริการอื่นๆข้างนอกเลย เราใช้แต่สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม ตอนมาครั้งที่ 1+2 เราประทับใจค่ะ ถ้าเพื่อนหรือญาติเราไปเที่ยวพังงา เราจะแนะนำเพื่อน+ญาติเสมอให้มาที่นี่ แต่หลังจากการเข้าพักของเราครั้งนี้ ต้องบอกตรงๆว่าคงไม่กล้าแนะนำใครเหมือนที่ผ่านๆมา ที่เราไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ ณ ตอนที่ยังอยู่ในโรงแรมเพราะไม่อยากให้มันเสียความรุ้สึกของเราเองไปมากกว่าเดิม และเราก็ได้แจ้งเรื่องบางส่วนไปแล้ว

แต่ยังไงก็ขอขอบคุณคุณชิตา ที่เข้ามาช่วยดูแล, น้อง มิลค์ พนักงานที่ไปส่งเราที่ห้อง น้องค่อนข้างใจเย็นและสุภาพมากๆ และที่ห้องอาหาร Kokulo น่าจะเป็น เมเนเจอร์ ที่ได้พูดถึงข้างต้นตอน Dinner คืนแรกและเย็นวันที่สองได้รับการดูแลอย่างดีจากพี่คนนี้และเค้าจำเราได้ ฝากขอบคุณไปที่เค้าด้วยนะคะ