ห้องพักมาเป็นบล็อกๆ ละสี่ห้อง หรือบังกะโลเดี่ยวๆ ผสมกลมกลืนเข้ากับภูมิทัศน์ธรรมชาติที่รีสอร์ทนี้ ราวกับตั้งอยู่ในป่าพื้นเมือง ดูบรรยากาศทั้งละเมียดและสงบสุข สวนต่างๆ ถูกดูแลรักษาอย่างดี แต่ไม่ได้ถูกตัดแต่งจนดูแปลกปลอมจากธรรมชาติมากเกินไป พวกนก กบ ค้างคาว กิ้งก่าบิน และแมลงเล็กๆ อื่นอีกมากมาย และแม้แต่งู (ไม่มีพิษ) บางอย่างก็อาศัยอยู่ที่นี่ได้อย่างสงบด้วย! ใช้เวลาชั่วโมงหนึ่งรอบสระบัวทั้งในช่วงกลางวันและหลังมืดค่ำแล้วเพื่อซึมซับธรรมชาติทั้งด้วยการดูและฟัง - โดยเฉพาะ "เสียงประสาน" จากหมู่กบเขียดที่บรรเลงกันขึ้นเกือบทุกค่ำคืน! ที่ตั้งอยู่บนทางลาดเขา ถ้าเดินจากแผนกต้อนรับไปตามบันไดและทางเดินที่ปูไม้กระดาน ก็จะนำไปสู่หน้าหาดอันงามพิสุทธิ์ เพื่อการพักผ่อนคลายให้เสียงคลื่นกระทบฝั่งเห่กล่อมในวันอันเฉื่อยแฉะ

บางที่คนที่พิการหรือไม่สามารถเดินได้เลยจะเห็นว่าการเดินกลับอาจจะยากไปสักนิด แต่การบริการของทางโรงแรมเอาใจใส่มาก เราค่อนข้างแน่ใจว่ามันเป็นไปได้ที่ทางโรงแรมจะจัดหา สิ่งอำนวยความสะดวกไปถึงห้องคุณได้อย่างแน่นอนบริเวณอาหารค่ำอยู่ติดหรือบนชายหาด มันทั้งเงียบและกระทัดรัดในตอนเช้าจะได้ยินเสียงนกร้องเพลง และอากาศสดชื่นมาก อาหารเช้ามีพอรับประทานและมีพนักงานมืออาชีพพร้อมทำไข่ให้ทุกแบบตามที่คุณต้องการ เราไม่ได้ทานอาหารค่ำที่โรงแรมแต่แน่ใจว่าอาหารทุกมื้อจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันที่สุด รายการอาหารเป็นอาหารไทยแบบทั่วไป

ถ้าคุณชื่นชอบการพักผ่อนในสถานที่เงียบสงบ - บริการชั้นหนึ่งประดับด้วยรอยยิ้มและทุกคำขอได้รัีบการตอบรับอย่างดีเยี่ยมและอย่างห่วงใย คุณจะชอบรีสอร์ทแห่งนี้ ในทางกลับกัน ถ้าคุณชอบแช่อ่างที่มีฟองสบู่ - ห้องออกกำลังกายที่มีห้องอบไอน้ำและเสียงดนตรีดังก้อง - โปโลน้ำและห้องสนุ้กเกอร์และกิจกรรมเพื่อครอบครัวหลากหลาย ที่นี่จะไม่ใช่สำหรับคุณ แม้ว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นอยู่ครบหมดก็ตาม ห้องพักกว้างใหญ่และได้รับการทำความสะอาดอย่างไร้ที่ติทุกวัน - เราขอหมอนเพิ่มและผ้าปูที่นอนอีกผืน -ไม่มีปัญหา ผู้จัดการแผนกทำความสะอาดนำมาให้ด้วยตัวเอง ห้องพักของเรามองเห็นสวนที่ไปสู่สระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งยากที่จะมีเพื่อนบ้านมองเห็นเราไม่ว่าตอนไหน

ใช้ชื่อได้อย่างเหมาะสมมากว่า "พาราไดซ์" มันใกล้เคียงมากกับความหมายของสวรรค์จริง แต่ในความคิดเห็นของฉัน พวกเขาก็ไม่จำต้องเปลี่ยนอะไรมากนักหรอกเพื่อจะเอาใจคู่รักอย่างพวกเรา