วัดร่องเสือเต้นแห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นวัดร้าง เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน ต่อมา ได้มีปรับปรุงและก่อสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด มีต้นแบบลักษณะของศิลปะและงานสถาปัตยกรรม คล้ายคลึงกับ "วัดร่องขุ่น" ที่ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้สร้างก่อนหน้านี้ โดย รูปหล่อปูนปั้น สัตว์ในตำนานต่างๆ ภายในวัดแห่งนี้ จะได้รับอิทธิพลจาก งานศิลปะของอาจารย์ ถวัลย์ ดัชนี ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ ศาสนสถานและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ จะ เป็นสี น้ำเงิน ตัดกับ สีทอง เป็นหลัก ภายใน พระอุโบสถ จะประดิษฐาน พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ สีขาวมุก ใบหน้าของพระพุทธรูป ช่างเปี่ยมด้วยความเมตตา วัดนี้ ใช้ระยะเวลา การบูรณะขึ้นใหม่ ยาวนานถึง 11 ปี ด้วยฝีมือของ ศิลปินพื้นบ้านชาวเชียงราย ชื่อ นายพุทธา กาบแก้ว หรือที่คนรู้จัดในนาม" สล่านก" วัดแห่งนี้ นอกเหนือจากความโดดเด่น ด้วยการ ทาสี สิ่งปลูกสร้างและ ชิ้นงาน ปฏิมากรรม ด้วย โทนสี น้ำเงิน เป็นหลักแล้ว บริเวณ โดยรอบ พระอุโบสถ ของ วัดแห่งนี้ จะมี "พระเสมา" ล้อม รอบ วิหาร โดย ด้านใน ของ เสมา นั้น จะมี ลูกแก้ว ขนาด ใหญ่ พอประมาณ อยู่ ตรงกลาง ตามหลักความเชื่อ ของชาวลานนา โบราณ เชื่อว่า ลูกแก้ว นี้ สามารถ ขจัดปัดเป่า สิ่งอัปมงคล และสิ่งชั่วร้าย ไม่ให้ เข้ามา กล้ำกราย ภายในอาณาบริเวณ ของเทวสถานแห่งนี้ได้ครับ ซึ่ง ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเดินทางไปยัง วัดต่างๆ มา อย่างมากมาย แต่ ไม่เคย เห็น ที่วัดใด จะมี ลูกแก้ว อยู่ บริเวณ ภายใน "พระเสมา" ล้อมรอบ วัด เยอะ แบบ วัดนี้ มาก่อนครับ เกร็ดความรู้ เพิ่มเติม "พระเสมา " คือ เสาหิน กำหนด เขต บริเวณโดยรอบ ของ พระอุโบสถ เพื่อเวลาประกอบ ศาสกิจของสงฆ์ อาทิเช่น การบวช, การ ปาฏิโมกข์ จะต้องอยู่ภายใน บริเวณ ที่ กำหนด ครับ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เปิดให้ เข้าเที่ยวชมฟรี โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ในการเข้าชม แต่ประการใด ครับ

บอกคำเดียวว่า สวยงดงามมาก อลังการ ไม่รู้คนสร้างถึงรังสรรค์ได้ amazing ขนาดนี้
โดดเด่นตั้งแต่ทางเข้าวัด ใหญ่มาก ถ่ายรูปสวยทุกรูป คนต่างชาติไปเยอะมาก อยากให้ไปเห็นด้วยตาด้วยตนเองค่ะ