ถ้าท่านมีโอกาสเดินทางมาเที่ยว,พักผ่อนหรือต้องการจัดประชุมสัมมนา ซึ่งทางโรงแรมมีห้องประชุมสัมมนา,ห้องบอลรูมในแบบต่างๆมากถึง 14แบบ รวมถึงต้องการกินอาหารอร่อยรวมไปถึงอยากลิ้มลองรสชาติเบียร์สดต้นตำหรับแบบเยอรมัน ข้าพเจ้าแนะนำโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งข้าพเจ้าเลือกเข้าพักสำหรับการเดินทางมาพักผ่อนในครั้งนี้ ท่านจะได้เปิดสัมผัสยลวิถีแห่งวัฒนธรรมของดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือผ่านการออกแบบตกแต่งโรงแรมซึ่งเป็นแรงบันดาลใจหลักรวมถึงภายในโรงแรมยังมีห้องจัดแสดงผลงานศิลปะ,ภาพวาดอันเป็นเอกลักษณ์ของขอนแก่นให้ท่านได้ชมด้วย
ทำเลที่ตั้งของโรงแรมดีเยี่ยม เพราะตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองขอนแก่นเลย สะดวกสบายในทุกการเดินทาง จากสนามบินเดินทางมาโรงแรมแห่งนี้ ใช้ระยะเวลาในการเดินทางเพียงแค่ 17 นาที เท่านั้น บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงแรมจะเป็นสำนักงานเทศบาลขอนแก่นท่านสามารถติดต่อประสานงานต่างๆได้อย่างสะดวกและรวดเร็วประหยัดเวลาในการเดินทาง อีกทั้งไม่ห่างกันนักจะเป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายสินค้าคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่สุด
สถานที่เที่ยวซึ่งสามารถเดินเท้าจากโรงแรมไปชมและกราบสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของขอนแก่นได้ไม่ไกลเพียงแค่5นาทีก็ถึงคือศาลหลักเมืองประจำจังหวัด และถ้าท่านอยากไปเที่ยววัดหนองแวง(พระอารามหลวง) ก็ใช้เวลาในการขับรถเดินทางไปแค่ 8นาที ก็ถึงแล้ว เบื้องต้น ดังนั้นจึงสุดแสนจะประหยัดเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆเนื่องด้วยเขตตัวจังหวัดขอนแก่นในช่วงเช้าหรือหลังเลิกงานการเดินทางจราจรจะติดขัดค่อนข้างมาก
ความโดดเด่นสะดุดตาสิ่งแรกของโรงแรมนี้ท่านสามารถมองเห็นสถาปัตยกรรมการก่อสร้างอาคารที่มีเอกลักษณ์ได้จากระยะไกลเพราะเป็นอาคารสูงถึง 25 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน 3 ชั้น) ได้รับการออกแบบให้เป็นอาคารทันสมัยที่ประยุกต์ศิลปะเอกลักษณ์พื้นเมืองอย่างกลมกลืน โดยอาคารมีลักษณะคล้ายกับ “แคน” ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองเอกลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่นสองเต้าตั้งคู่กัน ลายทางขวางของอาคารใช้เป็นแบบของลอนหมอนขิดซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงมานาน
โดยทุกๆการจัดวางและออกแบบตัวอาคารและการตกแต่งภายในจะมีความสอดคล้องกันซึ่งได้มีการถ่ายทอดมาจากงานศิลปะอีสานผ่านลวดลายสามเหลี่ยมที่เรียกว่า “ขิด” นับพันรูปแบบที่ตกแต่งบนผนังไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องพัก นอกจากนี้บริเวณหน้าห้องบอลรูม,และห้องประชุม ท่านจะเห็นโคมระย้ารูปทรง “ตะกร้อ” รวมถึงผลงานศิลปะชิ้นเอกอันโดดเด่นอีกอย่างคือ “พานบายศรี" ขนาดยักษ์ ที่วัสดุของแต่ละชั้นของบายศรีจะใช้โลหะทำตั้งแต่ชั้น 1 เป็นนาค ชั้น 2 เป็นทอง ชั้น 3 เป็นเงิน และ ชั้น 4 คือคริสตัล นับว่าเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของมิตรภาพตามความเชื่อของคนท้องถิ่นและชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ แสดงถึงวัฒนธรรมอีสานที่มีความสำคัญอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โรงแรมนี้ถูกออกแบบเพื่อผสมผสานกันระหว่างศิลปวัฒนธรรมและความเป็นสากลซึ่งสามารถพบศิลปกรรมต่าง ๆ ทั่วทั้งอาณาบริเวณทั้งด้านนอกและภายในตัวอาคาร
โดยผู้ออกแบบคือศิลปินที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดในประเทศไทยดังนี้
อ. ธนะ เลาหกัยกุล , อ. อิทธิพล ตั้งโฉลก , อ. ปรีชา เถาทอง , อ. พิษณุ ศุภนิมิตร , อ. นพพงษ์ สัจจวิโส นับเป็นการผลึกกำลังกันรังสรรค์ออกแบบและจัดวางพื้นที่ต่างๆของโรงแรมได้อย่างลงตัว ซึ่งโรงแรมสามารถรองรับแขกผู้เข้าพักได้จำนวนมากเพราะมีห้องพักในแบบต่างๆมากถึง 293ห้องในทุกห้องพักจะมีอ่างอาบน้ำระบบน้ำไหลแรงดีปรับระดับความร้อนได้รวดเร็วและเสถียร,มีฟรีwifiและสิ่งอานวยความสะดวกครบถ้วนตามมาตรฐานสากล
อาหารเช้าที่ห้องอาหาร พาวิเลี่ยน คาเฟ่ ที่ให้บริการสำหรับแขกผู้เข้าพักอาหารอร่อยมากๆมีเมนูต่างๆพร้อมให้บริการมากมาย ภายในบริเวณโรงแรมยังมีห้องอาหารรสเลิศหลากสไตล์ให้บริการอาทิเช่น ถ้าท่านอยากกินอาหารจีนก็จะมีห้องอาหารจีนลองหยุน ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองของโรงแรม ให้บริการอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง ท่านจะได้ลิ้มลองติ่มซำเลิศรสทั้งในมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่คุณจะประทับใจในบรรยากาศตามแบบฉบับอาหารจีนตำรับ อีกทั้งยังมีให้บริการบุฟเฟ่ต์ติ่มซำให้บริการเฉพาะมื้อกลางวันของวันพฤหัส, ศุกร์และวันจันทร์ ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์ จะเป็นบุฟเฟต์หยำฉา ให้บริการบุฟเฟ่ต์ติ่มซำเพิ่มเมนูพิเศษประจาสัปดาห์อีกกว่า 10 รายการ อาทิ เป็ดปักกิ่ง, หมูหัน ,ไก่แช่เหล้า ขาหมูเย็น, หูหมูแก้ว และซุปประจำวัน ห้องอาหารนี้ยังมีให้บริการ Dim Sum Premium อาทิ ฮะเก๋าจักรพรรดิ คือฮะเก๋าไส้กุ้งและเป๋าฮื้อ เป็นต้น
ห้องอาหารโครเนน บราวเฮ้าส์ Kronen Brauhaus ตั้งอยู่บริเวณชั้นใต้ดิน LG นี่คืออีกหนึ่งห้องอาหารที่โดดเด่นและโด่งดังอันดับต้นของขอนแก่นที่มีการบอกต่อกันให้มาลิ้มลองรสชาติของเบียร์สดคุณภาพเยี่ยมสไตล์เยอรมัน เพราะนี่คือโรงเบียร์แห่งแรกของประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในโรงแรม ออกแบบและติดตั้งโดยบริษัท SCHULZ จากประเทศเยอรมนีที่มีชื่อเสียงของการสร้างโรงเบียร์ในหลายประเทศทั่วโลก พร้อมว่าจ้าง บริว มาสเตอร์ (Brew Master) คุณ “𝐍𝐢𝐞𝐥𝐬-𝐀𝐫𝐧𝐞 𝐊𝐮𝐞𝐧𝐳𝐥𝐞𝐫” ผู้เชี่ยวชาญในการปรุงเบียร์จากประเทศเยอรมนีเข้ามาควบคุมคุณภาพของเบียร์อย่างใกล้ชิด
สาหรับเบียร์สดที่นี่จะผลิตมี 2 ชนิด คือ ดุงเคิล (Dunkel)หรือ เบียร์ดำ ซึ่งมีรสชาติออกหวานเหมาะสาหรับสุภาพสตรี และผู้ที่เริ่มทดลองดื่มเบียร์ และ เบียร์เฮล (Hell) ซึ่งออกรสชาติที่ขมกว่า เบียร์ทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีความแรงของแอลกอฮอล์เท่ากัน เปิดให้บริการทุกวันอังคาร ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 18.00-01.00 น ปิดให้บริการทุกวันอาทิตย์ และจันทร์
สำหรับท่านที่รักสุขภาพและชื่นชอบการออกกำลังกายรวมถึงปรนนิบัติผิวกายแบบครบวงจร ต้องบอกว่าที่นี่คือโอเอซีสครบวงจรเพราะมีฟิต เลาจน์ Fit Lounge จะมีเครื่องออกกาลังกายจำนวนมากมายหลากหลายชนิดและออกกำลังกายได้ครบทุกส่วน อุปกรณ์ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย ตามมาตรฐาน All Safe และ SHA Plus+ พร้อมทั้งมีสิ่งอานวยความสะดวกอย่างครบครัน มีความทันสมัย พร้อมทั้งมีเทรนเนอร์ที่ใส่ใจการบริการคอยดูแลโดย ฟิตเลาจน์ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00 - 22.00 น.
เลอ สปา Le Spa สปามาตรฐานฝรั่งเศส ที่ท่านได้สัมผัสประสบการณ์ การปรนนิบัติร่างกาย จากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ในห้องสปาแบบส่วนตัวแสนเงียบสงบเป็นส่วนตัว กับรายการสปาที่หลากหลาย เช่น นวดแผนไทย ,นวดตัวอโรมา, นวดด้วยหินร้อน(Hot Stone) ,ทรีทเม้นท์หน้าและผิวกาย นวดศีรษะ มีห้องรับรองให้กับลูกค้าหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นห้องเดี่ยวหรือห้องคู่ เลอ สปา ตั้งอยู่ชั้น 3ชั้น เค้าเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00-22:00 น.
ต้องบอกว่าเป็นความประทับใจที่เหนือความคาดหมายของข้าพเจ้าจริงๆ ทั้งงานบริการพนักงานจากเจ้าหน้าที่ทุกตำแหน่งยิ้มแย้มอัธยาศัยดีเป็นกันเองตั้งแต่เจ้าหน้าที่เปิดประตูด้านหน้าโรงแรมและพนักงานทุกฝ่ายที่ทำให้ข้าพเจ้ารับรู้และสัมผัสได้ว่าทุกๆคนรักและใส่ใจในงานบริการทำหน้าที่อย่างมีความสุขจึงได้มีแต่รอยยิ้มแห่งมิตรไมตรีและการดูแลพร้อมอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และโรงแรมนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอันหลากหลายได้อย่างครบถ้วน ถ้ามีโอกาสเดินทางมาจังหวัดขอนแก่นอีกในครั้งหน้าจะต้องเดินทางกลับมาพักที่โรงแรมแห่งนี้อย่างแน่นอนครับ