พวกเราพักที่โรงแรมนี้สองคืนหลังจากเที่ยวบินข้ามคืนจากสิงคโปร์ถึงสนามบินนาโงย่า นั่งรถโนฮิบัส มาทากายาม่าที่เมเท็ทสึบัสเซ็นเตอร์ในนาโงย่า
เช็คอินในวันพุธ มันเป็นช่วงโลวซีซั่นตอนที่พวกเรามาและโรงแรมดูค่อนข้างว่างเปล่า
พวกเราเช็คอินเวลา 1.30 pm ในตอนบ่ายเมื่อเดินทางมาถึงซึ่งพอจะผ่อนคลายจากเที่ยวบินข้ามคืนและการนั่งรถบัสที่ยาวนาน ฉันค่อนช้างแปลกใจเพราะโรงแรมญี่ปุ่นเข้มงวดกับเวลาเช็คอิน ปกติคือเวลา 3 pm
ระยะการเดินจาก สถานีรถบัส ทากายาม่า มาที่โรงแรมควรจะเป็น 5 นาที แต่พวกเราใช้ไป 10-15 นาที ลากกระเป๋าบนทางเดินที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง มันเปียกและลื่นและพวกเราต้องยกกระเป๋าข้ามหลุมบ่อหิมะละลายที่ขยายออกไป
ฉันคาดว่า ระยะการเดิน 5 นาทีนั้นคงจะใช้ในช่วงวันที่อากาศแจ่มใส ไม่ใช่สภาพที่มีหิมะ
พวกเราได้ห้องพักเตียงคู่ในตึกด้านตะวันออก, คาดว่าปรับปรุงใหม่ในปี 2010
ห้องที่ได้มีขนาดใหญ่ 23 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่กว้างขวางพอที่จะวางกระเป๋าใบใหญ่ขนาด 28 นิ้ว สองใบของพวกเรา
สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานในห้องน้ำได้แก่ แชมพู, ครีมนวดผม และ โฟมอาบน้ำ แปรงสีฟัน หวี และแม้แต่แผ่นทำความสะอาดเครื่องสำอางค์ได้ถูกจัดเตรียมไว้ให้
เชื่อมต่ออินเตอร์เนตด้วยสาย LAN แต่พวกเรามี airport express ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสัญญาณ wifi สำหรับอุปกรณ์ apple ของพวกเรา
แผนของพวกเรามีอาหารเช้าและอาหารค่ำของทั้งสองวัน
อาหารเช้าถูกจัดที่ร้านอาหาร French Bonjour มีทั้ง อาหารเช้าแบบญี่ปุ่นและแบบตะวันตกให้เลือก
ในเย็นวันแรก พวกเราเลือกทานอาหารค่ำที่ภัตราคารอาหารญี่ปุ่น พวกเราทานอาหารจานเล็กๆที่หลากหลายกับอาหารจานหลักนั่นคือ สุกี้ยากี้เนื้อวัวฮิดะ
ในเย็นวันที่สองพวกเราเลือกทานอาหารค่ำที่ภัตราคารอาหารฝรั่งเศส และนี่ประกอบด้วย จานเรียกน้ำย่อย, ซุป, สลัดและอาหารจานหลักคือ เนื้อวัวฮิดะ ปรุงสุกในสองวิธี, สเต็ค และ สตูวเนื้อวัว
พวกเราจบมื้ออาหารด้วยของหวานและกาแฟหรือชา
พวกเราชอบอาหารค่ำฝรั่งเศสมากกว่า โดยเฉพาะ สตูวเนื้อวัวฮิดะ
รสชาติดีมากและนุ่มมากจนคุณไม่ต้องใช้มีดตัด
พวกเขามีบ่อน้ำร้อนออนเซ็นสองบ่อที่โรงแรมแห่งนี้ แห่งนึงอยู่ที่ชั้น 9 และอีกแห่งอยู่ที่ชั้นใต้ดิน
บ่อบนชั้น 9 มีที่อาบน้ำให้เลือกมากว่าเมื่อเทียบกับบ่อที่ชั้นใต้ดิน
คงไม่ต้องบอกหรอกว่า พวกเราใช้ออนเซ็นชั้นเก้าบ่อยกว่าออนเซ็นชั้นใต้ดินในเวลาสองวันที่เราพักที่นี่
การบริการดีมากจากพนักงานโรงแรม, เป็นมิตร และสุภาพ และพนักงานส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย อาจจะมาพักอีกครั้งแต่ไม่ใช่ในฤดูหนาวแน่นอน ไม่ชอบการลากกระเป๋าบนทางเดินที่เต็มไปด้วยหิมะอีก