เดินตามฝูงชนมาเรื่อยๆก็จะเจอคลองโอตารุ อยู่ใกล้สี่แยกกลางเมือง หาไม่ยาก มีเรือบริการให้นั่งชมคลอง... อ่านเพิ่มเติม
เดินตามฝูงชนมาเรื่อยๆก็จะเจอคลองโอตารุ อยู่ใกล้สี่แยกกลางเมือง หาไม่ยาก มีเรือบริการให้นั่งชมคลอง... อ่านเพิ่มเติม
นั่งรถไฟเจอาร์ โอตารุไลน์ จากซัปโปโร ประมาณ 40 นาที โดยส่วนตไปโอตารุ กี่รอบ ไม่ได้สนใจ ตรงคลองเลย... อ่านเพิ่มเติม
คลองโอตารุ ถือว่าเป็นที่ๆทุกคนต้องมาชม เป็น signature ของเมือง ใครไม่มาถ่ายรูปถือว่ามาไม่ถึงโอตารุ วิวสวยมาก ช่วง winter จะมีการประดับไฟรอบคลองและกิจกรรมแสงไฟ
ถ้าเคยดูหนังญี่ปุ่นเรื่องlove letter จะรู้ว่าหนังเรื่องนี้ถ่ายทำที่เมืองโอทารุ เมืองท่าที่มีคลองสุดแสนโรแมนติก แต่หนังไม่มีฉากที่ถ่ายทำแถวคลองเลย ส่วนใหญ่เป็นในเมืองและหุบเขาท่ามกลางหิมะตก ช่วงที่ไปน้ำในคลองไม่ได้เปลี่ยนเป็นน้ำแข็งเลยไม่ได้เห็นคนเล่นสเก็ตน้ำแข็งในคลองแต่บรรยากาศ2ข้างคลองก็มีผู้คนเดินเล่นบนหิมะอย่างไม่กลัวความหนาวเย
คลองสายนี้แต่เดิมเป็นคลองที่ใช้ในการลำเลียงสินค้าจากทะเลเข้ามาเก็บในโกดัง หลังจากที่เลิกใช้งานไป คลองแห่งนี้ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะแก่การมาถ่ายรูป บริเวณโดยรอบมีร้านอาหาร ร้านค้าและพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมาย สามารถเดินเท้ามาได้จากสถานีรไฟโอตารุหรือสถานี Minami Otaru
มีโอกาสไปในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีหิมะบ้างแล้ว แต่ตอนไปถึง ยืนมองดูคลองแล้วรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แม้ตอนนั้นอุณหภูมิจะอยู่ช่วง 1-4 องศาก็ตาม เป็นคลองที่มีกลิ่นอายของความโรแมนติกอยู่มากเลยทีเดียว ยังไงก็ห้ามพลาดนะคะ ถ้ามีโอกาสได้ไปฮอกไกโด
ไม่ว่าจะเช้า บ่าย เย็น ค่ำ ที่คลองโอะตะรุ ไม่เคยขาดนักท่องเที่ยวเลย ส่วนตัวตอนบ่ายได้มา 1 รอบพร้อมเดินดูสิ่งน่าสนใจรอบบริเวณใกล้เคียงไม่ว่าจะเป็นเครื่องแก้ว อาหาร ขนน หรือนาฬิกาแล้ว ตอนค่ำก็อดใจไม่ได้ที่จะมาสัมผัสอีกบรรยกาศ บอกได้ว่าไม่เบื่อเลย
ได้มีโอกาสไปถึง "คลองโอตารุ" อันโด่งดัง ที่มีทั้งอาหารทะเลสดจี๋, พิพิธภัณพ์เครื่องแก้วร้อยปี ประดับแสงไฟระยับ, ร้านขายของที่ระลึกต่างๆมากมาย, พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ที่มีเสียงเพลงขับกล่อมชาวเมือง และเป็นโชดีของทริปนี้ คือมาแล้วได้ร่วมเทศกาลฤดูร้อนของเมืองนี้ อีกอย่างที่ห้ามลืมลิ้มลองเด็กขาด คือ ของหวาน ทั้งขนมเค้ก ไอติม