ยังคงคิดอยู่ว่าจะจัดอันดับอะไรให้กับโยชิอิเกะดี สำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังใหม่กับวัฒนธรรมเรียวกัง ที่ต้องการจะเพลิดเพลินกับมันร่วมกับคนท้องถิ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้น้อย และมีความเข้าใจแบบตะวันตกที่จะช่วยสร้างสมดุลในประสบการณ์ที่ได้รับ ใช่ ที่นี่จะเป็นสิ่งที่ 'ยอดเยี่ยม' สำหรับนักท่องเที่ยวที่เคยได้รับประสบการณ์แบบเรียวกังและออนเซ็นมาก่อน เคยได้รับบริการของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและถูกต้องตามจารีตประเพณีมาแล้ว อย่างนั้นแล้ว โยชิอิเกะ จะถูกจัดอยู่แค่ในระดับ 'ดี หรือ ดีมาก' กระบวนการจอง: เราจองห้องเมาน์เทน วิว ทาทามิ จากเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่นของโยชิอิเกะโดยตรง ภาษาอื่นจะถูกส่งลิงค์ไปที่ JAPANiCAN แต่เราพบว่าราคาในเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่นนั้นถูกกว่า สำหรับห้องพักของเราถูกกว่าประมาณ 12% ในเว็บไซต์ยังมีแพ็คเกจมากมายให้เลือก (เช่น seasonal package, day-only onsen+meal) รวมถึงรายละเอียดข้อมูลอื่น ๆ เช่นราคาห้องพักสำหรับวันต่าง ๆ ของสัปดาห์ และแผนภาพเส้นทางเดินที่ชัดเจน (www.yoshiike.org/access/) อาจเป็นเรื่องยากที่จะจองโดยตรงจากเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่น ถ้าคุณไม่รู้จักตัวอักษรญี่ปุ่นหรือคันจิ หรือแม้แต่หลังจากที่ใช้ Google หรือ Bing แปลให้แล้วก็ตาม มันมีขั้นตอน 3 ขั้นตอนในการจองซึ่งขั้นตอนที่ 2 จะส่งมาทางอีเมล์อัตโนมัติ (เป็นภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน) จากนั้นคุณต้องทำการคลิ๊กลิงค์ที่มากับอีเมล์นั้นเพื่อสร้างรหัสการจอง และรออย่างอดทนสำหรับอีเมล์ยืนยันการจองขั้นสุดท้ายที่จะส่งมา หากคุณคลิ๊กที่ลิงค์นั้นสองครั้ง มันจะสร้างรหัสการจอง 2 รหัส และคุณจะต้องจ่ายเงินสำหรับมันด้วย! หากคุณไม่คลิ๊กที่ลิงค์นั้น การจองก็จะไม่เสร็จสมบูรณ์ และคุณอาจจะมาถึงโดยที่ไม่มีห้องที่จองเอาไว้ ในกรณีของเรา ไม่ต้องทำการจ่ายเงินจนกว่าเราจะเช็คเอาท์ แต่แพ็คเกจอื่น ๆ บางแพ็คเกจอาจจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าซึ่งอาจจะมีขั้นตอนออนไลน์มากขึ้น เราได้ส่งอีเมล์ไปถามคำถามบางอย่างกับโยชิอิเกะและพวกเขาก็ตอบกลับมาอย่างดีเป็นภาษาอังกฤษในวันทำการถัดไป ห้องพัก: เราจองห้องพักสำหรับ 1 คืนในเืดือนมกราคม ปรากฎว่าใบไม้นั้นร่วงหมดแล้วและดอกไม้ตูมเหล่านั้นก็รอที่จะเบ่งบานในฤดูหนาว นั่นจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องมองดูสวนที่ว่างเปล่านั้น เราได้ห้องพักที่อยู่บนชั้นบนสุด คือชั้น 6 ที่มีวิวภูเขาที่ไม่เลวเลย ห้องกว้างขวางและสะอาดที่มีหน้าต่างบานใหญ่ โคมไฟสไตล์ยุคปี 60-70 นั้นทำให้ห้องดูโทรมลง เรามักจะโน้มน้าวใจตัวเองว่าที่นี่มันเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์แบบชนบทและจารีตประเพณีดั้งเดิม เก้าอี้เท้าแขนทำจากผ้า 2 ตัวของพวกเขาที่วางอยู่ใกล้หน้าต่างนั้น มันเป็นเก้าอี้ที่นั่งสบายที่สุดที่เราเคยนั่งมาเลย! มันให้ความรู้สึกเหมือนเตียงนอนกลางวันที่ทำจากฟูตงและโอบกอดคุณอย่างสบาย เรางีบหลับบนเก้าอี้นั้นหลังจากที่เรากลับมาจากแช่ออนเซ็น ที่นั่นมีตู้เซฟที่ใหญ่พอที่จะเก็บโน้ตบุ๊คขนาด 11" และกล้อง SLR ได้ ตู้เย็นเต็มไปด้วยเครื่องดื่มและเบียร์ (ต้องเสียเงิน) น้ำร้อนและน้ำชามีไว้ให้ฟรี เราได้เดินเล่นในสวนที่สวยงามที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีระหว่างที่เรารอเช็คอินตอนบ่าย 2 ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ต้องการพักที่นี่ต้องจองห้องแบบการ์เดน วิว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงแน่ ๆ แต่เรารู้สึกมีความสุขมากกับห้องแบบเมาน์เทน วิว ในฤดูหนาว ออนเซ็น: สมบัติล้ำค่าที่สุดของโยชิอิเกะ คือ ออนเซ็นทั้ง 5 แห่ง - ออนเซ็นในร่ม 1 สระ + ออนเซ็นกลางแจ้ง 1 สระสำหรับผู้ชาย; ออนเซ็นในร่ม 1 สระ + ออนเซ็นกลางแจ้ง 1 สระสำหรับผู้หญิง; ออนเซ็นส่วนตัวในร่ม 1 สระ เนื่องจากออนเซ็นกลางแจ้งที่มีให้บริการนั้นแยกกันระหว่างหญิงชาย นั่นหมายความว่าทุก ๆ คนที่มากับคุณสามารถเพลิดเพลินอย่างเต็มที่ในออนเซ็นของพวกเขาในช่วงเวลาเดียวกันได้ เรียวกังบางแห่งจะใช้ออนเซ็นกลางแจ้ง 1 สระสลับสับเปลี่ยนระหว่างชายและหญิงในวันหรือเวลาที่ต่างกัน ออนเซ็นในร่มและกลางแจ้งนั้นแยกออกจากกัน นั่นหมายความว่าคุณต้องไปที่ออนเซ็นในร่มก่อนเพื่อที่จะอาบน้ำและไปยังออนเซ็นกลางแจ้งหลังจาก เราได้แช่ออนเซ็น 3 ครั้งระหว่างการพัก 1 คืนของเรา: หลังเช็คอิน หลังอาหารค่ำ และหลังอาหารเช้าก่อนเช็คเอาท์ เราไม่ได้ใช้อ่างอาบน้ำในห้องของเรา (ใช่ ไม่มีที่บังแสงหรือม่านในห้องอาบน้ำ แต่มันเป็นการหันเข้าหาภูเขาจริง ๆ) ในออนเซ็นกลางแจ้ง ก็จะมีบริเวณอาบน้ำที่มีเครื่องใช้ในห้องน้ำเอาไว้ให้ (แชมพู ครีมนวด เจลอาบน้ำ ครีมล้างหน้า ครีมโกนหนวด เป็นต้น) เอาไว้ให้ตลอดเวลา ทุก ๆ คนจะต้องทำความสะอาดตัวเองก่อนที่จะก้าวลงไปในสระออนเซ็น หลังจากแช่ในสระออนเซ็นแล้ว เมื่อคุณกลับไปยังบริเวณที่ใช้แต่งตัว ที่นั่นก็จะมีครีมทาหน้า โลชั่นทาผิว ไดร์เป่าผม และของใช้อื่น ๆ ไว้ให้เพื่อให้คุณเสริมความงามให้กับตัวเอง สำหรับคู่รักหรือครอบครัว มันเป็นการดีที่จะลองแช่ออนเซ็นส่วนตัวในร่มร่วมกัน หรือแช่ในสระนี้หากว่าคุณรู้สึกอาย ที่โยชิอิเกะยังมีคำแนะนำเป็นภาษาอังกฤษหากคุณต้องการจะทราบว่าจะต้องทำอย่างไร ที่ทางออก (และทางเข้า) ของออนเซ็นทั้ง 5 สระ จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่คุณสามารถนั่ง ดื่มชา และรอเพื่อนของคุณได้ ที่นั่นยังมีล็อกเกอร์เล็ก ๆ ที่คุณสามารถเก็บสิ่งของมีค่าของคุณ (เช่น กุญแจห้อง โทรศัพท์) ก่อนที่จะเข้าไปใช้ออนเซ็นด้วย ไม่เหมือนกับเรียวกังอื่น ๆ ที่เราเคยไปใช้บริการ ที่นี่คุณต้องถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กและใหญ่จากห้องของคุณไปที่ออนเซ็นและนำกลับมาที่ห้องอีกครั้ง หากคุณวางแผนที่จะใช้ออนเซ็นบ่อย ๆ ให้ขอห้องที่อยู่ใกล้กับออนเซ็นที่สุด ห้องอื่นอาจจะต้องเดินไกล (ในชุดยูกาตะและรองเท้าสลิปเปอร์พร้อมทั้งผ้าเช็ดตัวในมือ!) ในทางกลับกัน ห้องนั้นอาจจะเป็นห้องที่ไกลจากล็อบบี้ที่สุด โปรดทราบว่าเวลาเช็คเอาท์คือ 10 โมงเช้า หลังจากนั้นจะต้องจ่ายเงิน 5000 เยน สำหรับ 1 ชั่วโมง! วางแผนเวลาให้ดีหากคุณต้องการทานอาหารเช้าและแช่ออนเซ็นในเวลาอันน้อยนิดในตอนเช้า หรือคุณสามารถเพิ่มแพ็คเกจ day-only onsen+meal ได้ซึ่งจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 4000-6000 เยนต่อคน ขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณเลือก อาหาร: หลายคนอาจจะพูดถึงอาหารไคเซกิรสชาติเยี่ยมใน TA แค่อยากจะเพิ่มเติมว่าอาหารนั้นจะมาตรงเวลา ซึ่งหมายความว่า หากคุณจะเปลี่ยนเวลาในนาทีสุดท้ายนั้น ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วขึ้น มันอาจจะทำให้เกิดปัญหากับกระบวนการของพวกเขาได้แต่พวกเขาก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถ ผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่งพยายามจะบอกชื่อของส่วนผสมแก่เราและคอยให้ข้อมูลกับเราว่าขั้นต่อไปคืออะไร เช่น อะไรที่กำลังจะเสิร์ฟถัดไป ทำอย่างไรจานถึงจะถูกเก็บไป เมื่อไรที่จะส่งคนเข้ามาปูฟูตงหรือเก็บฟูตงในตอนเช้า ทำเลที่ตั้ง: เราเลือกที่จะอยู่ที่ ฮาโกเนะ-ยูโมโตะตั้งแต่แรกก่อนที่เราจะเลือกพักที่โยชิอิเกะ เพราะมันใช้เวลาน้อยที่สุด (และเป็นเส้นทางที่ถูก) จากโตเกียวเืืพื่อที่จะไปใช้บริการเรียวกังและออนเซ็นที่ดีเยี่ยม ขึ้นรถไฟเอ็กซ์เพรสจากชินจูกุ โอดะคิวตอน 8.43...ยังคงคิดอยู่ว่าจะจัดอันดับอะไรให้กับโยชิอิเกะดี สำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังใหม่กับวัฒนธรรมเรียวกัง ที่ต้องการจะเพลิดเพลินกับมันร่วมกับคนท้องถิ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้น้อย และมีความเข้าใจแบบตะวันตกที่จะช่วยสร้างสมดุลในประสบการณ์ที่ได้รับ ใช่ ที่นี่จะเป็นสิ่งที่ 'ยอดเยี่ยม' สำหรับนักท่องเที่ยวที่เคยได้รับประสบการณ์แบบเรียวกังและออนเซ็นมาก่อน เคยได้รับบริการของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและถูกต้องตามจารีตประเพณีมาแล้ว อย่างนั้นแล้ว โยชิอิเกะ จะถูกจัดอยู่แค่ในระดับ 'ดี หรือ ดีมาก'

กระบวนการจอง: เราจองห้องเมาน์เทน วิว ทาทามิ จากเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่นของโยชิอิเกะโดยตรง ภาษาอื่นจะถูกส่งลิงค์ไปที่ JAPANiCAN แต่เราพบว่าราคาในเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่นนั้นถูกกว่า สำหรับห้องพักของเราถูกกว่าประมาณ 12% ในเว็บไซต์ยังมีแพ็คเกจมากมายให้เลือก (เช่น seasonal package, day-only onsen+meal) รวมถึงรายละเอียดข้อมูลอื่น ๆ เช่นราคาห้องพักสำหรับวันต่าง ๆ ของสัปดาห์ และแผนภาพเส้นทางเดินที่ชัดเจน (www.yoshiike.org/access/) อาจเป็นเรื่องยากที่จะจองโดยตรงจากเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่น ถ้าคุณไม่รู้จักตัวอักษรญี่ปุ่นหรือคันจิ หรือแม้แต่หลังจากที่ใช้ Google หรือ Bing แปลให้แล้วก็ตาม มันมีขั้นตอน 3 ขั้นตอนในการจองซึ่งขั้นตอนที่ 2 จะส่งมาทางอีเมล์อัตโนมัติ (เป็นภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน) จากนั้นคุณต้องทำการคลิ๊กลิงค์ที่มากับอีเมล์นั้นเพื่อสร้างรหัสการจอง และรออย่างอดทนสำหรับอีเมล์ยืนยันการจองขั้นสุดท้ายที่จะส่งมา หากคุณคลิ๊กที่ลิงค์นั้นสองครั้ง มันจะสร้างรหัสการจอง 2 รหัส และคุณจะต้องจ่ายเงินสำหรับมันด้วย! หากคุณไม่คลิ๊กที่ลิงค์นั้น การจองก็จะไม่เสร็จสมบูรณ์ และคุณอาจจะมาถึงโดยที่ไม่มีห้องที่จองเอาไว้ ในกรณีของเรา ไม่ต้องทำการจ่ายเงินจนกว่าเราจะเช็คเอาท์ แต่แพ็คเกจอื่น ๆ บางแพ็คเกจอาจจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าซึ่งอาจจะมีขั้นตอนออนไลน์มากขึ้น เราได้ส่งอีเมล์ไปถามคำถามบางอย่างกับโยชิอิเกะและพวกเขาก็ตอบกลับมาอย่างดีเป็นภาษาอังกฤษในวันทำการถัดไป

ห้องพัก: เราจองห้องพักสำหรับ 1 คืนในเืดือนมกราคม ปรากฎว่าใบไม้นั้นร่วงหมดแล้วและดอกไม้ตูมเหล่านั้นก็รอที่จะเบ่งบานในฤดูหนาว นั่นจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องมองดูสวนที่ว่างเปล่านั้น เราได้ห้องพักที่อยู่บนชั้นบนสุด คือชั้น 6 ที่มีวิวภูเขาที่ไม่เลวเลย ห้องกว้างขวางและสะอาดที่มีหน้าต่างบานใหญ่ โคมไฟสไตล์ยุคปี 60-70 นั้นทำให้ห้องดูโทรมลง เรามักจะโน้มน้าวใจตัวเองว่าที่นี่มันเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์แบบชนบทและจารีตประเพณีดั้งเดิม เก้าอี้เท้าแขนทำจากผ้า 2 ตัวของพวกเขาที่วางอยู่ใกล้หน้าต่างนั้น มันเป็นเก้าอี้ที่นั่งสบายที่สุดที่เราเคยนั่งมาเลย! มันให้ความรู้สึกเหมือนเตียงนอนกลางวันที่ทำจากฟูตงและโอบกอดคุณอย่างสบาย เรางีบหลับบนเก้าอี้นั้นหลังจากที่เรากลับมาจากแช่ออนเซ็น ที่นั่นมีตู้เซฟที่ใหญ่พอที่จะเก็บโน้ตบุ๊คขนาด 11" และกล้อง SLR ได้ ตู้เย็นเต็มไปด้วยเครื่องดื่มและเบียร์ (ต้องเสียเงิน) น้ำร้อนและน้ำชามีไว้ให้ฟรี เราได้เดินเล่นในสวนที่สวยงามที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีระหว่างที่เรารอเช็คอินตอนบ่าย 2 ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ต้องการพักที่นี่ต้องจองห้องแบบการ์เดน วิว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงแน่ ๆ แต่เรารู้สึกมีความสุขมากกับห้องแบบเมาน์เทน วิว ในฤดูหนาว

ออนเซ็น: สมบัติล้ำค่าที่สุดของโยชิอิเกะ คือ ออนเซ็นทั้ง 5 แห่ง - ออนเซ็นในร่ม 1 สระ + ออนเซ็นกลางแจ้ง 1 สระสำหรับผู้ชาย; ออนเซ็นในร่ม 1 สระ + ออนเซ็นกลางแจ้ง 1 สระสำหรับผู้หญิง; ออนเซ็นส่วนตัวในร่ม 1 สระ เนื่องจากออนเซ็นกลางแจ้งที่มีให้บริการนั้นแยกกันระหว่างหญิงชาย นั่นหมายความว่าทุก ๆ คนที่มากับคุณสามารถเพลิดเพลินอย่างเต็มที่ในออนเซ็นของพวกเขาในช่วงเวลาเดียวกันได้ เรียวกังบางแห่งจะใช้ออนเซ็นกลางแจ้ง 1 สระสลับสับเปลี่ยนระหว่างชายและหญิงในวันหรือเวลาที่ต่างกัน ออนเซ็นในร่มและกลางแจ้งนั้นแยกออกจากกัน นั่นหมายความว่าคุณต้องไปที่ออนเซ็นในร่มก่อนเพื่อที่จะอาบน้ำและไปยังออนเซ็นกลางแจ้งหลังจาก เราได้แช่ออนเซ็น 3 ครั้งระหว่างการพัก 1 คืนของเรา: หลังเช็คอิน หลังอาหารค่ำ และหลังอาหารเช้าก่อนเช็คเอาท์ เราไม่ได้ใช้อ่างอาบน้ำในห้องของเรา (ใช่ ไม่มีที่บังแสงหรือม่านในห้องอาบน้ำ แต่มันเป็นการหันเข้าหาภูเขาจริง ๆ) ในออนเซ็นกลางแจ้ง ก็จะมีบริเวณอาบน้ำที่มีเครื่องใช้ในห้องน้ำเอาไว้ให้ (แชมพู ครีมนวด เจลอาบน้ำ ครีมล้างหน้า ครีมโกนหนวด เป็นต้น) เอาไว้ให้ตลอดเวลา ทุก ๆ คนจะต้องทำความสะอาดตัวเองก่อนที่จะก้าวลงไปในสระออนเซ็น หลังจากแช่ในสระออนเซ็นแล้ว เมื่อคุณกลับไปยังบริเวณที่ใช้แต่งตัว ที่นั่นก็จะมีครีมทาหน้า โลชั่นทาผิว ไดร์เป่าผม และของใช้อื่น ๆ ไว้ให้เพื่อให้คุณเสริมความงามให้กับตัวเอง สำหรับคู่รักหรือครอบครัว มันเป็นการดีที่จะลองแช่ออนเซ็นส่วนตัวในร่มร่วมกัน หรือแช่ในสระนี้หากว่าคุณรู้สึกอาย ที่โยชิอิเกะยังมีคำแนะนำเป็นภาษาอังกฤษหากคุณต้องการจะทราบว่าจะต้องทำอย่างไร ที่ทางออก (และทางเข้า) ของออนเซ็นทั้ง 5 สระ จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่คุณสามารถนั่ง ดื่มชา และรอเพื่อนของคุณได้ ที่นั่นยังมีล็อกเกอร์เล็ก ๆ ที่คุณสามารถเก็บสิ่งของมีค่าของคุณ (เช่น กุญแจห้อง โทรศัพท์) ก่อนที่จะเข้าไปใช้ออนเซ็นด้วย ไม่เหมือนกับเรียวกังอื่น ๆ ที่เราเคยไปใช้บริการ ที่นี่คุณต้องถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กและใหญ่จากห้องของคุณไปที่ออนเซ็นและนำกลับมาที่ห้องอีกครั้ง หากคุณวางแผนที่จะใช้ออนเซ็นบ่อย ๆ ให้ขอห้องที่อยู่ใกล้กับออนเซ็นที่สุด ห้องอื่นอาจจะต้องเดินไกล (ในชุดยูกาตะและรองเท้าสลิปเปอร์พร้อมทั้งผ้าเช็ดตัวในมือ!) ในทางกลับกัน ห้องนั้นอาจจะเป็นห้องที่ไกลจากล็อบบี้ที่สุด โปรดทราบว่าเวลาเช็คเอาท์คือ 10 โมงเช้า หลังจากนั้นจะต้องจ่ายเงิน 5000 เยน สำหรับ 1 ชั่วโมง! วางแผนเวลาให้ดีหากคุณต้องการทานอาหารเช้าและแช่ออนเซ็นในเวลาอันน้อยนิดในตอนเช้า หรือคุณสามารถเพิ่มแพ็คเกจ day-only onsen+meal ได้ซึ่งจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 4000-6000 เยนต่อคน ขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณเลือก

อาหาร: หลายคนอาจจะพูดถึงอาหารไคเซกิรสชาติเยี่ยมใน TA แค่อยากจะเพิ่มเติมว่าอาหารนั้นจะมาตรงเวลา ซึ่งหมายความว่า หากคุณจะเปลี่ยนเวลาในนาทีสุดท้ายนั้น ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วขึ้น มันอาจจะทำให้เกิดปัญหากับกระบวนการของพวกเขาได้แต่พวกเขาก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถ ผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่งพยายามจะบอกชื่อของส่วนผสมแก่เราและคอยให้ข้อมูลกับเราว่าขั้นต่อไปคืออะไร เช่น อะไรที่กำลังจะเสิร์ฟถัดไป ทำอย่างไรจานถึงจะถูกเก็บไป เมื่อไรที่จะส่งคนเข้ามาปูฟูตงหรือเก็บฟูตงในตอนเช้า

ทำเลที่ตั้ง: เราเลือกที่จะอยู่ที่ ฮาโกเนะ-ยูโมโตะตั้งแต่แรกก่อนที่เราจะเลือกพักที่โยชิอิเกะ เพราะมันใช้เวลาน้อยที่สุด (และเป็นเส้นทางที่ถูก) จากโตเกียวเืืพื่อที่จะไปใช้บริการเรียวกังและออนเซ็นที่ดีเยี่ยม ขึ้นรถไฟเอ็กซ์เพรสจากชินจูกุ โอดะคิวตอน 8.43 น.และมาถึงเวลาประมาณ 10.30 น. ใช้เงินทั้งหมด 1150 เยนต่อคน ขึ้นรถสายโอดาวาระไปที่สถานีโอดาวาระ แล้วเปลี่ยนเส้นทางไปที่สายฮาโกเนะ-โตซานไปที่สถานีฮาโกเนะ-ยูโมโตะ ที่นั่นจะมีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอยู่ตรงข้ามกับสถานีถัดจากป้ายรถเมล์ ในกรณีที่คุณต้องการความช่วยเหลือเรื่องเส้นทางและแผนที่ ไปเดินช้อปปิ้งเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วเดินเล่นรอบ ๆ ประมาณ 1.5 ชั่วโมง แถวนั้นส่วนใหญ่เป็นอาหารท้ิองถิ่นและสินค้าพิเศษ แล้วไปทานอาหารกลางวันจากนั้นก็ไปเช็คอินตอน 1.30 น. โยชิอิเกะนั้นอยู่ตรงสุดทางถนนร้านค้า สามารถเดินไปถึงได้ใน 7 นาทีโดยไม่ซื้อของ เดินผ่านร้านค้าที่น่าสนใจที่ทำให้คุณอยากจับจ่าย ที่นั้นมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 อยู่ใกล้กับสุดทางถนน จริง ๆ แล้วถนนนั้นยังคงมีทางให้รถยนต์วิ่งต่อไปอีก เพียงแค่ไม่มีร้านค้าให้เลือกซื้อของ แล้วเลี้ยวซ้ายไปยังฝั่งที่เป็นถนนที่มีเสน่ห์ที่จะนำคุณไปยังสะพานสั้น ๆ สีแดง คุณจะเห็นโยชิอิเกะแทบจะในทันทีไม่กี่ก้าวหลังจากข้ามสะพานนั้นไปแล้ว ที่นั้นยังมีร้านอาหารของแท้ตั้งอยู่ด้านซ้ายหลังจากข้ามสะพานนั้นแล้ว มันมีชื่อเสียงในหมู่คนท้องถิ่นและก็เป็นการดีที่จะได้ลองทานอาหารกลางวันที่นั่น แม่น้ำนั้นมหัศจรรย์มากและมีทัศนียภาพที่มีมนต์เสน่ห์ที่คุ้มค่าแก่การเดินขึ้นไปบนเขายิ่งนัก

บริการ: ทุกคนมีความเป็นมืออาชีพ ให้ความช่วยเหลือเมื่อเราเข้าหาและยิ้มแย้มเสมอ - ตั้งแต่ผู้ชายที่เช็คอินให้เรา ผู้หญิงที่พาเราไปที่ห้องพัก อธิบายสถานที่ของเรียวกังและออนเซ็น แนะนำขนาดต่าง ๆ ของยูกาตะให้แก่เรา ผู้หญิงอีกคนที่จัดเตรียมโต๊ะอาหารสำหรับระหว่างอาหารค่ำและอาหารเช้าให้กับเรา ผู้ชายที่เชี่ยวชาญการปูและการเก็บฟูตง คนดูแลออนเซ็นที่มอบ o-cha เย็นให้เราดื่ม ไปจนถึงเด็กหนุ่มที่วิ่งมาจากประตูด้วยตนเองเพื่อจะมาถ่ายรูปให้เราตอนที่เราออกมา (น่าประทับใจในตอนจบ!)

เนื่องจากเวลาที่จำกัด เราไม่ได้เดินทางไกลกว่านี้ไปที่ฮาโกเนะสำหรับเรียวกังและออนเซ็นที่ดีกว่า แต่เราก็ไม่เสียใจที่เราเลือกโยชิอิเกะ เป็นช่วงเวลาที่มหัศจรรย์ที่เราได้เพลิดเพลินกับอาหารค่ำที่หรูหราและผ่อนคลายอยู่ในออนเซ็นกลางแจ้งที่สวยงาม สิ่งที่โยชิอิเกะมีไม่เพียงพอคือความน่าหลงใหลที่เป็นเอกลักษณ์ในตัวเองและยังห่างอีกไกลโขกับสิ่งที่จะพบในเรียวกังระดับดีเยี่ยม สำหรับคนที่มองห้องพักทีุ่สดใสและทันสมัยอาจจะต้องผิดหวังเช่นกัน ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะพิจารณาห้องพักแบบตะวันตกของพวกเขา (อาจจะไม่รวมถึงประสบการณ์การทานอาหารในที่พัก) สวนอาจจะเป็นปัจจัยที่ ว้าว ในฤดูกาลของมัน ขอแนะนำโยชิอิเกะให้กับนัำกท่ิองเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องการจะลองประสบการณ์เรียวกังและออนเซ็น โปรดอ่านเกี่ยวกับวัฒนธรรมเรียวกังและการใช้งานออนเซ็นก่อน มันอาจจะไม่ง่ายที่จะเจอเรียวกังแบบดั้งเดิมที่มีคนใช้ภาษาอังกฤษและโดยรวมแล้วโยชิอิเกะก็ให้ประสบการณ์ที่สมดุลดีมากในสถานที่ที่เดินทางมาถึงได้ง่ายอย่างฮาโกเนะ-ยูโมโตะเพิ่มเติม