พวกเราเป็นครอบครัว 4 คน (ฉันซึ่งอายุ 29 ปี สามีที่อายุ 34 ปี ลูกสาวที่อายุ 5 ขวบและ 1 ขวบ)
พวกเรามาถึงโรงแรม Holiday Inn บนเกาะพีพีในวันที่ 17 กันยายน และได้ค้างที่นี่ 7 คืน (ฉันหวังเหลือเกินว่าพวกเราค้างน้อยกว่านี้... ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงแรม Sheraton ที่กระบี่ โอ้พระเจ้า ช่างแตกต่างอะไรเช่นนี้) ประสบการณ์ของพวกเรากับโรงแรมได้ทิ้งให้พวกเรารู้สึกสับสน ในด้านหนึ่งทำเลที่ตั้งและชายหาดส่วนตัวนั้นน่าประทับใจ แต่อีกด้านหนึ่งก็มีบังกาโลหน้าชายหาดแบบ "King" ที่ดูเก่า เล็ก และดูน่าสลดที่ราคา 7,500 บาทต่อคืน

ทำเลที่ตั้ง
โรงแรม อยู่แยกห่างมาจากท่าเรือพีพีหลัก และสามารถไปถึงได้โดยเรือหางยาวเท่านั้น และไม่มีอะไรอย่างอื่นรอบๆเลย เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังมองหาบาร์ การเต้น ถนนที่คึกคักและร้านสะดวกซื้อ 7/11 ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคุณ
สำหรับคนที่มองหาความสงบและความเงียบ และโรงแรมสำหรับครอบครัว ที่นี่จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ดี
ยังมีรีสอร์ทและร้านอาหารอื่นๆที่อยู่ตามชายหาดติดกับ Holiday Inn ที่ให้ทางเลือกสำหรับประสบการณ์การรับประทานอาหาร

สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องพักบังกาโลหน้าชายหาด เลข 101 แบบ "King" นั้นตัวห้องพักดูเก่าและทรุดโทรมมาก:
เตียงนั้นประหลาดมากและที่นอนนั้นไม่สบาย (คุณเหมือนกับจะกลิ้งลงมาถ้าคุณอยู่ริมขอบมากเกินไป)
โคมไฟในแต่ละด้านนั้นสกปรก (มีเชื้อราที่มองเห็นได้)
เฟอร์นิเจอร์มีรอยขีดข่วน
ตู้นิรภัยใหญ่ไม่พอที่จะใส่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุคเข้าไปได้
ไม่มีตาข่ายบนหน้าต่าง เพราะฉะนั้นถึงคุณจะอยู่บนชายหาด แต่ก็ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา พูดถึงเครื่องปรับอากาศแล้ว มันเสียงดังมากๆๆๆ
รีโมทควบคุมเครื่องปรับอากาศอยู่บนผนังของทางเดินตรงตู้เสื้อผ้า (ถ้าคุณรู้สึกหนาวหรือร้อนตอนกลางคืน คุณต้องลุกขึ้นยืนและเดินไปยังรีโมทควบคุมเพื่อปรับอุณหภูมิ)
ห้องน้ำแบบหอพักที่ดูน่าสลด มีฝักบัวที่มีเชื้อรา กระจกเป็นรอยขีดข่วน และไม่มีการระบายอากาศ
เตียงสำหรับเด็กเล็กที่มีให้ก็ไม่สะอาดมากๆ
มีของที่ทันสมัยอย่างเช่น จอทีวี LCD และเครื่องเล่น DVD ระเบียงนั้นค่อนข้างดี มีเก้าอี้สองตัวและโต๊ะเล็กๆหนึ่งตัวให้ เหมาะสำหรับนั่งข้างนอกตอนเช้าและตอนกลางเย็น (ให้ใช้ยากันยุงด้วย) บังกาโลของพวกเราไม่มี "ม้านั่ง" ที่ทางเข้าในขณะที่บังกาโลอื่นๆมี สำหรับแขกที่มีเด็กมาด้วย มันจะไม่สะดวกเพราะคุณต้องลากเก้าอี้จากข้างในออกมาข้างนอกเพื่อนั่งกับเด็กๆที่ระเบียงด้วย
มีราวตากผ้าให้อยู่ที่ทางเข้า (ถ้าสภาพอากาศอำนวย คุณสามารถตากเสื้อผ้าที่เปียกบนนี้ได้)
ยิมออกกำลังกายก็งั้นๆ และควรจะเปลี่ยนช่วงเวลาเปิดใหม่
ห้องดูแลเด็กดูปรับปรุงใหม่และกว้างขวาง แต่ในช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนมาพัก และเนื่องจากไม่ค่อยมีเด็ก จึงไม่มีกิจกรรมให้ทำและคนดูแลเด็กก็ไม่ได้ทำอะไรมากนัก ฉันทิ้งเด็ก 5 ขวบของฉันไว้กับผู้หญิงดูแลเด็กคนหนึ่ง แต่กลับมาพบว่าเธอไม่อยู่แล้ว แต่มีผู้ชายที่ดูแลเรื่องผ้าเช็ดตัวจากสระว่ายน้ำมาแทน ซึ่งนั่นไม่เหมาะสมและน่าผิดหวังอย่างที่สุด (ฉันทิ้งเด็กของฉันไว้ที่นั่นไม่ได้อีกโดยที่ไม่เป็นห่วง) มันไม่มีระบบให้ลงชื่อของเด็ก ชื่อของพ่อแม่ของเด็ก สถานที่สามารถติดต่อพ่อแม่ของเด็กได้ หรือระบุว่าเด็กสามารถออกมาจากห้องดูแลเด็กได้หรือไม่ และอื่นๆ
มีสระว่ายน้ำสองสระ สระหนึ่งอยู่ข้างๆแพนกต้อนรับและห้องดูแลเด็ก (เก่าและมีกระเบื้องที่ค่อนข้างคมตรงขอบสระ) มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาคนเพื่อสั่งอาหารถ้าคุณต้องการที่จะทานอาหารริมสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำทั้งสองที่นี้เด็กสามารถว่ายได้ (มีบริเวณน้ำตื้นให้เด็กไปเล่นได้)
ร้านอาหารหลักอยู่ข้างสระว่ายน้ำหมายเลข 1 และล้อมรอบไปด้วยกลิ่นเหม็นจากบึงที่เน่าเสียใต้มัน ครั้งเดียวที่ไปทานที่นี่คือคืนแรกที่พวกเรายังไม่รู้อะไร
อาหารฝรั่งที่รีสอร์ทนั้นโอเค ส่วนอาหารไทยนั้นควรปรับปรุงเป็นอย่างยิ่ง ราคาแพงมาก ถ้าคุณต้องการทานอาหารดีๆ ให้ไปที่ร้านอาหารที่สองที่ชื่อ Sawasdee ที่ร้านนี้มีอาหารไทยที่สุดยอดมาก อย่างน้อยคุณก็ได้ทานอาหารดีๆสำหรับเงินที่คุณจ่ายไปและก็ไม่มีกลิ่นเหม็นๆด้วย
ผลไม้ปั่นผสมกันยังไม่ดีพอ ร้านอาหารควรจะซื้อเครื่องปั่นใหม่!
ฉันยังได้เสิร์ฟด้วยมาการิต้าในแก้วไวน์พร้อมกับหลอดดูดด้วย...
อืมมมมมมม...
ทีนี้ สระว่ายน้ำที่สองซึ่งอยู่ในบริเวณ "บังกาโลปะการัง" ที่ตกแต่งใหม่ เป็นสระที่มองออกไปเห็นขอบฟ้า ซึ่งดีกว่าสระว่ายน้ำสระแรกมาก มีเตียงอาบแดดใหม่ ผ้าปูเตียงก็ดีกว่า โดยรวมแล้วบรรยากาศดีกว่า
ร้านอาหารที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำนี้ยังมีทิวทัศน์ที่ดีมากและเสิร์ฟอาหารเช้าด้วย หลังจากที่ได้ทานอาหารเช้ามื้อแรกในร้านอาหารหลักเหม็นๆมา ที่นี่เหมือนกับได้อากาศบริสุทธิ์ มีตัวเลือกน้อยกว่ามาสำหรับบุฟเฟ่อาหารเช้า แต่การบริการนั้นดีกว่ามาก มันใกล้ชิดมากกว่า และไม่มีกลิ่นเหม็นมากๆ หรือมีแมลงวันเป็นร้อยตัวบินอยู่รอบคุณ
บังกาโลปะการังดูเหมือนจะมีการตกแต่งที่ดีกว่ามาก และอยู่ในบริเวณที่ตกแต่งใหม่ของโรงแรมที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำที่มองเห็นขอบฟ้า

ชายหาด
ชายหาดเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยที่นี่ไว้...จริงๆ... สระขาวสวย น้ำใสปิ๊ง มีเก้าอี้ และชิงช้า สบายมากๆ ชอบมากๆ

การบริการ
โดยรวมแล้วการบริการเป็นที่น่าพอใจและเป็นมิตร ยกเว้นเหตุการณ์แปลกๆสองเหตุการณ์:
รุมเซอร์วิสลืมที่จะเพิ่มซองชาและกาแฟให้ในห้องตอนเช้า พอเราถามถึงมัน เขาก็บอกว่า(และฉันหยิบยกข้อความมา): "ชาและกาแฟรวมอยู่ในอาหารเช้าแล้ว"! ฉันก็เลยต้องอธิบายว่าฉันอาจจะอยากดื่มชาตอนเย็นก็ได้...
พอฉันรู้ว่าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคของฉันไม่สามารถเก็บในตู้นิรภัยได้ ฉันก็เลยนำมันไปยังส่วนต้อนรับ(คุณสามารถเก็บสัมภาระที่ "ใหญ่กว่า" ที่นั่นได้) พนักงานสาวที่นั่นก็บอกว่า: "ปกติแล้วคุณสามารถทิ้งคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคไว้ในห้องได้" อืมมมมมม... อาจจะใช่ แต่ไม่ใช่้เวลาที่งานของฉันขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์อันนั้น!
อย่างที่ได้กล่าวไป บริการที่สระว่ายน้ำควรจะต้องปรับปรุง ไม่มีใครเดินมาเช็คว่าคุณต้องการจะสั่งอะไรไหม ไม่มีใครมาทำความสะอาดจานและขวดสกปรกๆ คนที่ถือขวดแก้วได้รับอนุญาตให้ริมสระและในสระได้ (นี่ไม่ควรได้รับอนุญาตและเครื่องดื่มควรที่จะถูกเสิร์ฟในแก้วพลาสติก)
อินเตอร์เน็ตไร้สายไม่ฟรี คุณสามมารถซึ้อแบบหนึ่งชั่วโมงหรือ 24 ชั่วโมง (พร้อมตัวเลือกให้ล็อกอินและล็อกเอ้าท์) มีคอมพิวเตอร์สองเครื่องที่ล็อบบี้พร้อมกับอินเตอร์เน็ตฟรี แต่มมักจะเต็มอยู่เสมอ สำหรับคนที่ต้องการอินเตอร์เน็ตนอกเหนือจากเพื่อเช็ค Facebook แล้ว การซื้ออินเตอร์เน็ตรายชั่วโมงก็เป็นทางเลือกเดียว

อาหารเช้า
อาหารเช้านั้นดีและมีตัวเลือกให้มากมาย ไม่มีการคิดเงินเพิ่มสำหรับบกาแฟลาเต้หรือกาแฟประเภทอื่่นๆ

สรุป
ฉันได้พักในโรงแรมในไทยมานับไม่ถ้วนแล้ว ตั้งแต่สามดาวขึ้นไป ฉันคงจะให้ 3 ดาวกับโรงแรม Holiday Inn บนเกาะพีพี มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถปรับปรุงได้โดยเฉพาะการตกแต่งใหม่่ ฉันเห็นบังกาโลบางที่กำลังจะถูกตกแต่งใหม่ในขณะที่พวกเรามาพัก ก็เลยคาดว่าในช่วงฤดูท่องเที่ยวคงจะมีคำบ่นน้อยลงเกี่ยวกับห้องพัก