ในภาพรวม มีความสุขกับการพักที่รีสอร์ทนี้มาก ฉันกับภรรยาไปฮันนีมูนกัน การเดินทางครั้งนี้จึงต้องมีอะไรพิเศษ ในหลายแง่มุมโรงแรมนี้เติมเต็มสิ่งที่เราต้องการ แต่ยังมีหลายอย่างที่พัฒนาได้อยู่

ตอนที่เรามาถึงก็ได้สนุกกับรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก และม็อคเทลรสชาติดีจากพนักงานที่ดูเป็นมิตรและเอาใจใส่ เช็คอินผ่านไปอย่างเรียบร้อยดีและไม่นานนักเราก็ไปถึงห้องพัก (ซึ่งได้อัพเกรดเพิ่มวิวสวนฟรี) อย่างไรก็ตาม หลังจากพนักงานวางกระเป๋าของเราลง (และรับทิป) ก็ออกไปทันที โดยไม่ได้อธิบายถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในห้องพักให้เรา เราไม่รู้ว่าห้องพักมีมินิบาร์จนสามีภรรยาคู่หนึ่งที่สระว่ายน้ำบอกเราว่ามันอยู่ตรงไหน

รอยร้าวในสวรรค์เล็กๆ นี้ค่อยๆ เผยตัวออกมาเร็วขึ้นๆ ทุกอย่างที่นี่ต้องจ่ายเซอร์วิสชาร์จอีก 10% และ VAT อีก 7% แม้แต่มินิบาร์ แน่นอนว่า VAT นั้นต้องรวมอยู่ในสินค้าทุกอย่าง แต่นี่เป็นโรงแรมแรกที่เราเคยพักในไทยที่แยก VAT ต่างหาก นี่เป็นปัญหาสำคัญของที่นี่ มันสวยงามมาก แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความโลภ

ส่วนตัวคิดว่าการบริการไม่ถึง 5 ดาว ทำให้ราคาที่แพงนั้นยากที่จะรับได้ ไม่มีข้อมูลให้มากนักและพนักงานตอบคำถามไม่ค่อยได้ มีหลายครั้งที่เราต้องรอเครื่องดื่มในร้านอาหารถึง 10 นาทีซึ่งก็ไม่ได้ดีสมราคาด้วย ครั้งหนึ่งฉันลุกขึ้นและเดินไปสั่งที่บาร์เอง จ่ายค่าเครื่องดื่มและยกกลับมา แต่ก็ยังต้องเสียค่าเซอร์วิสชาร์จ และโค้ก 2 แก้วในราคา 150 บาทก็เกินจะรับจริงๆ

บริการที่ล็อบบี้เชื่องช้าและไม่เป็นระบบ การเช็คเอาท์สับสนวุ่นวาย และใช้เวลามากเป็นพิเศษเพราะทางโรงแรมต้องส่งคนไปเช็คมินิบาร์ เพื่อให้แน่ใจว่ารีดเงินจากคุณได้ทุกบาททุกสตางค์

ในด้านดี รีสอร์ทนี้สวยงามและสะอาดมาก ห้องพักของเราวิเศษและสะดวกสบาย สระว่ายน้ำก็ยอกเยี่ยม พร้อมเตียงนอนและบาร์ริมสระ แม้ว่าจะราคาแพงแต่มันก็เป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณอยากดื่มค็อกเทลในวันร้อนๆ

โชคร้ายที่ราคาที่แพงเกินไปทำให้เรารู้สึกแย่ ในที่สุดเราเริ่มออกไปกินอาหารในหมู่บ้านและบาร์หลังรีสอร์ท บาร์ Knock-Out มีอาหารอร่อยในราคาที่เหมาะสมและมีทัวร์เที่ยวเกาะแบบเดียวกับที่รีสอร์ทจัดในราคาที่ถูกกว่ามาก ไม่ต้องพูดถึงว่าเราใช้โอกาสนี้อย่างเต็มที่และได้รับประสบการณ์ที่วิเศษและเป็นแบบดั้งเดิมจริงๆ

โดยสรุป ที่นี่เหมือนสวรรค์ แต่มาในราคาที่ไม่ถูกนัก

น่าเศร้า หลายส่วนของเกาะพีพี (โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ่าวท้องทราย) เต็มไปด้วยโรงแรม/หอพัก ดิสโก้ และร้านอาหารประเภทกับดักจับนักท่องเที่ยวไปเสียแล้ว ผู้คนที่มาเที่ยวระหว่างวันหลั่งไหลมากับเรือนักท่องเที่ยวลำใหญ่จากภูเก็ต เกาะพีพีเมื่อ 30 ปีก่อนซึ่งคุณสามารถหาบังกะโกชายหาดหลังเล็กๆ ในราคาคืนละ $3 หายไปนานแล้ว เกาะพีพีรีสอร์ทอยู่บนสุดปลายอีกด้านหนึ่ง มันเป็นโรงแรมรีสอร์ทที่ดึงดูดใจได้มากด้วยบังกะโลสวยใกล้ชายหาดและวิลล่าชั้นเยี่ยม (มีสระน้ำแบบไร้ขอบ) ที่อยู่ข้างเนินเขา (คิดถึงความรู้สึกจากรีสอร์ทชั้นเยี่ยมของชาวฮาวายหรือตาฮิติ) แรกเริ่มเดิมทีครอบครัวของเราไปที่เกาะพีพีเพื่อดำน้ำแบบสกูบาที่สุดยอด (ร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำและพนักงานดำน้ำอยู่ในระดับโลก) และทัศนียภาพที่สวยงาม ลูกๆ ของเราซึ่งเดินทางจนช่ำชองรักสถานที่แห่งนี้สุดหัวใจและหว่านล้อม (แต่ไม่สำเร็จ) เพื่อที่จะกลับไปทุกปี
การดำน้ำแบบสกูบาทั้งสวยงาม (แนวปะการังสีสันสดใสสวยงาม) และทั้งง่ายดาย (น้ำอุ่นดีมากและไม่มีคลื่นเลย) ไม่ค่อยมี "ปลาใหญ่" มากมายนัก เช่น ฝูงปลาทูน่า ปลาฉลาม ฯลฯ (เราเห็นปลาฉลามไม่กี่ตัว) แต่มีเต่า ปลาไหลมากมาย และเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ตามแนวหินปะการัง (คุณจะเห็นปลาการ์ตูนมากกว่า 500 ตัวในการดำน้ำครั้งเดียว ! ) นี่เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับทั้งนักประดาน้ำที่เชี่ยวชาญและนักดำน้ำที่เพิ่งได้ประกาศนียบัตร เพราะมีแหล่งดำน้ำหลากหลายแห่ง แรกทีเดียวเราไปที่รีสอร์ทแห่งนี้เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้วและไปอีกในฤดูร้อนนี้ รีสอร์ทแห่งนี้ดีมากทั้งสองครั้ง วิลล่าข้างเนินเขาดีพร้อมสำหรับครอบครัว มีสระน้ำเป็นของตนเองและมีทัศนีภาพทั่วมหาสมุทรที่สวยจนน่าตกตะลึง การตื่นนอนตอนเช้าและมองออกไปยังสิ่งที่เหมือนโปสเตอร์ภาพเมืองร้อนเป็นอะไรที่น่าพิศวงมาก ข้อเสียแต่เพียงอย่างเดียวก็คือภัตตาคารของโรงแรม ซึ่งโก่งราคาเป็นบ้าเป็นหลัง คุณสามารถเดินไปยังด้านหลังของโรงแรมประมาณ 500 หลาก็จะถึงบริเวณหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีร้านอาหารเล็กๆ มากมายก่ายกอง (แรกทีเดียวสมาชิกในครอบครัวของพนักงานโรงแรมเป็นผู้ดำเนินกิจการ) และทานอาหารเย็นในราคาประมาณ 1/5 ของราคานั้น ตัวอย่างเช่น เบียร์ช้างหนึ่งกระป๋องในโรงแรมมีราคา $8 แต่ในหมู่บ้านมีราคา $1 แม้สะดวกดีที่จะทานอาหารกลางวันหรือดื่มข้างสระน้ำ หรือบนหาดทรายระหว่างวัน ฉันก็ขอแนะนำเต็มที่ให้คุณไปหาอาหารที่ดีกว่าในราคาที่ดีกว่าและบรรยากาศที่ดีกว่าตรงหัวมุมจากรีสอร์ท เราได้ยินมาว่าเจ้าของคนใหม่กำลังจะมารีสอร์ทในไม่ช้า และเล่าลือกันว่าพวกเขาอาจจะขึ้นราคา นั่นน่าจะเป็นโชคร้ายเพราะราคาสูงมากอยู่แล้ว