เราเช่าห้องฮันนีมูนสวีท รู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากกับเงินที่จ่ายไป พระอาทิตย์ตกดินสวยงามเหลือเชื่อ ตัวห้องพักเองถูกสร้างให้เป็นส่วนนึงเนินหิน สถาปนิกค่าตัวหลักล้านไหนๆ ก็คงฝันอยากสร้างอะไรแบบนี้ด้วยแน่ๆ บริการที่นี่ใส่ใจในทุกรายละเอียด บริการแม้กระทั่งช่วยส่งผ้าพันคอทำมือที่ลืมไว้มาให้เราถึงที่ยุโรป โดยไม่คิดตังค์ แถมยังแนบกรอบรูปสวยๆ มาให้เอาอีกอันนึงด้วย เราจะกลับไปที่นี่แน่นอน!

นี่เป็นสถานที่ที่น่ามห้ศจรรย์ที่อยู่ลึกเข้าไปในป่า! ห้องพักไม่ได้เป็นห้องติดกัน แต่เป็นบ้านเดี่ยว พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มที่: ห้องน้ำ, ระเบียง, แอร์, ทีวี, ตู้เย็น ฯลฯ... วิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยในด้านหน้าของเกาะนางยวน ที่แย่ก็คือเสียงของเรือที่อยู่ด้านหน้าโรงแรม! พนักงานใจดีและสามารถเรียกใช้ได้ตลอด... อาหารเช้าไม่ดีแต่ก็โอเค ห้องอาหารไม่มีอะไรเป็นพิเศษและมักจะมีคนเพียงไม่กี่คนที่ทานที่นั่น หากคุณจองห้องพักอย่าลืมที่จะถามหาห้องที่อยู่ใกล้กับแผนกต้อนรับ เพราะห้องอื่นๆ อยู่ไกลขึ้นไปบนเขา และมันเป็นเรื่องยากมากที่จะเดินขึ้นและลงบน "ความชัน" ชายหาดไม่ได้เป็นชายหาดทรายจริง แต่เป็นการปูทรายบนพื่นคอนกรีต... สระว่ายน้ำดีและมีวิวที่เยี่ยม! ในการใช้ช่วงวันหยุดอยู่ที่นี่ คุณต้องเป็นคนรักธรรมชาติมากๆ เพราะมันอยู่ในป่า เต็มไปด้วยมด ปลาหมึก และสัตว์อื่นๆ ซึ่งจะมาเยือนห้องของคุณเป็นครั้งครา แต่สำหรับฉันไม่เป็นปัญหา!

ข้อดี วิวทะเลและเกาะสวยมาก ตอนเรามาถึงที่พักและพบว่าได้วิลล่าติดดอย เราต้องชี้แจงว่าเพื่อนเราคนหนึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับปอด จึงได้พักห้องสวีทจูเนียร์แทนซึ่งอยู่ใกล้แผนกต้อนรับมากกว่าโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทางโรงแรมมีบริการซัตเทิลบัสฟรีไปหายทรายรี (ไกลออกไป 10 นาที) วันละ 3 เที่ยวซึ่งสะดวกดีแม้ว่าจะไม่มีบริการขากลับก็ตาม โดยรวมแล้ว ห้องพักขนาดใหญ่ดีและวิวก็วิเศษมาก ข้อเสีย อาหารเช้าไม่น่าประทับใจเลย มาเมืองไทยที่นี่รสชาติแย่ที่สุด มีนมกล่อง น้าส้มปลอม (พร้อมด้วยเนื้อส้มปลอม) ขนมปังที่หวานมากไป ไข่เจียวหวาน ๆ และผลไม้เช่นแตงแข็ง ๆ และยังไม่สุก แตงโมและสัปรดให้เลือกทานถ้าโชคดี (อาหาร 10 นาทีก็หมดและต้องรออีก 20 นาทีกว่าจะมีคนมาเติม) กลุ่มเรา 3 ใน 4 คนไม่ได้ทานอาหารเช้าเมื่อวาน เขายอมหิวมากกว่าที่จะกินอาหารรสชาติครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้ และการบริการ (ยกเง้นพนักงานต้อนรับี่น่ารักและช่วยเหลือดี) ก็ไม่ราบเรียบ ในคืนสุดท้ายเราได้ขอเปิดขวดไวน์ คิดค่าเปิดขวดตั้ง 300 บาทซึ่งเราว่ามันแพงไป อาหารในภัตตาคารราคาแพงซึ่งไม่ท่าแปลกใจเท่าไร แต่ในรีสอร์ทแบบนี้กลับมีรสชาติแย่และเสิร์ฟในเวลาที่ไ่ม่เหมาะสมมาก (คืนที่เราไปทานอาหารคำทีนั่น คุณพ่อเรากว่าจะได้ทานปูของท่านก็ปาไป 30 นาทีหลังเราได้อาหารกันก่อนแล้ว) ท้ายสุด ขอเตือนครอบครัวอื่นหรือท่านอื่นที่อยากมาเที่ยวหาดทรายที่โฆษณาตามป้ายต่าง ๆ ในรีสอร์ท มันไม่มีแล้ว อยากว่ายน้ำก็ต้องลงบันไดโคลงเคลงหรือกระโดดจากหินลงไปในน้ำทะเลหรือบนทราย (ใต้บันได้คอนกรีต 1 เมตร) ที่เคยเป็นชายหาด เราพอไหวนะแต่สำหรับเด็กๆ หรือคนที่พิการ เคลื่อนไหวไม่ได้มาก คงจะน่ารำคาญถ้าอยากจะนอนบนชายหาด รีสอร์ทนี้มีศักยภาพ ถ้าห้องอาหารปรับปรุงเรื่องรสชาติอาหาร และเพิ่มตัวเลือกในเมนูอาหารเช้า และทำป้ายบอกทางให้ชัดเจนกว่านี้ เป็นต้น ปัญหาที่น่ารำคาญเหล่านี้ก็จะได้รับการแก้ไข แต่ก็ยังงว่านะเราไม่คิดว่าจะกลับไปพักที่โรงแรม Dusit Buncha อีก แค่อาหารเช้าก็ไม่กล้ากลับมาแล้ว!