แปลกตา งดงาม เกินที่จะบรรยาย ต้องไปเห็นด้วยตาตนเอง ธรรมชาต... อ่านเพิ่มเติม
แปลกตา งดงาม เกินที่จะบรรยาย ต้องไปเห็นด้วยตาตนเอง ธรรมชาต... อ่านเพิ่มเติม
สวยงามและอลังการสมคำร่ำลือ ไม่ผิดหวังที่เลือกมาเที่ยวนี่ค่ะ ใครกำลังลังเลอยู่แนะนำเลยค่ะ... อ่านเพิ่มเติม
เดินทางช่วงเดือนเมษายน บนเขายังมีหมอกลงมาก ทำให้ไม่เห็นยอดเขา รู้สึกเสียดายมาก
หากมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน หรือช่วงที่มีหิมะตก น่าจะได้บรรยากาศและถ่ายรูปสวยมากกว่า
แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าสิ่งที่เห็นนั้นเกิดจากธรรมชาติสรรสร้าง แม้นว่าช่วงเวลาที่ไปเยี่ยมเยียนจะมีหมอกปกคลุมบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความประทับใจลดน้อยลงเลย การจัดการสถานที่มีรถเวียนให้บริการตามจุดต่างๆ แต่ฟิตร่ายกายก่อนไปเยือนก็ดีนะคะ กว่าจะเที่ยวให้ทั่วนี่เดินไม่ใช่น้อยๆ เลย ^_^
เส้นทางที่คนส่วนใหญ่ไปกันคือหยวนเจียเจี้ย และ เทียนจื่อซาน ทั้งสองด้านล้วนเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและต่างประเทศที่เดินกันแน่นขนัดจนแทบจะไม่สามารถยืนชมวิวนิ่งๆได้นานนัก ดังนั้นวันนี้จึงขอแนะนำอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ใช่อันซีนแต่คนไม่ค่อยไปกันเพราะไม่ได้ถูกโปรโมทมาก ชื่อว่าหวางสือจ้าย หรือ Yellow Stone Village
ตามแผนที่แล้ว หวางสือจ้ายจะอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของหยวนเจียเจี้ย วิธีการไปคือ 1) นั่งรถจากอู่หลิงหยวน ประมาณ 40 นาที (หรือนั่งจากตัวเมืองจางเจียเจี้ยก็ได้ ประมาณ 40 นาทีเช่นกัน) ไปทางเข้าอุทยานฝั่งตะวันตก เพื่อขึ้นกระเช้า หรือ 2) จากทางเข้าอุทยานฝั่งตะวันออก (ที่มีเจดีย์สูงๆที่คนนิยมขึ้นทางด้านนี้กัน) ให้นั่งรถบัสในอุทยานไปลงตรงทางเข้าลำธารแส้ม้าแล้วเดินเส้นทางลำธารแส้ม้าประมาณ 2-3 ชม.ก็จะถึงทางขึ้นกระเช้าเช่นกัน ...ที่นี่ใช้ตั๋วเดียวกับเทียนจื่อซาน แต่มีค่าขึ้นกระเช้าตะหาก (จำราคาไม่ได้แต่ถูกกว่าลิฟต์แก้วพอสมควร) ขึ้นกระเช้าไปแล้วจะเป็นเส้นทางเดินวงกลมให้ดูวิวตามชะง่อนผา มีราวๆสิบกว่าจุดให้ดู ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง (ถ้าเดินเร็วไม่ถ่ายรูปคงไม่เกิน 2 ชม.) วิวคล้ายๆหยวนเจียเจี้ยและเทียนจื่อซานแต่คนน้อยกว่ากันล้านเท่า ใครอยากเดินเงียบๆ ถ่ายรูปไม่ติดคน พักผ่อนสงบๆ วิวสวยๆ แนะนำเลยครับ ...ตามความเห็นของผม วิวฝั่งเทียนจื่อซานจะสวยกว่าเล็กน้อย แต่เทียบกับปริมาณคนแล้วผมเลือกหวางสือจ้ายเป็นที่หนึ่งในใจสำหรับทริปพักผ่อนเลย
เคล็ดลับเล็กน้อย...สำหรับใครที่พักอยู่อู่หลิงหยวนโดยมีโปรแกรมต่อไปที่จางเจียเจี้ย แล้วต้องการไปเดินหวางสือจ้ายด้วยนะครับ ...เนื่องจากสถานที่นี้ห่างจากอู่หลิงหยวนและจางเจียเจี้ยพอกันคือด้านละ40นาที สิ่งที่ผมทำคือตอนเช้าฝากกระเป๋าที่โรงแรมส่วนใหญ่จะมีบริการส่งกระเป๋าไปที่จางเจียเจี้ยให้เลย (ของผมคิดใบละ20หยวน) เราไปเดินหวางสือจ้ายโดยเข้าทางลำธารแส้ม้าแล้วขาลงนั่งรถตรงไปจางเจียเจี้ยเลย กระเป๋าไปถึงโรงแรมที่จางเจียเจี้ยช่วงเย็นพอดี
สวยสุดๆครับ วิวขั้นเทพ อลังการ ตระการตา ใครที่ชอบธรรมชาติต้องมาสักครั้ง ให้เวลาสัก2-4วัน ใช้ชีวิตช้าๆ
ฉันต้องเข้าคิวเพื่อนั่งรถรางไฟฟ้าสู่เชิงเขาของภูเขาเทียนจื่อซาน เพื่อชมวิวภาพเขียนสิบลี้ เป็นการชมวิวทิวทัศน์ภูเขารูปร่างแปลกตามากมายตลอดเส้นทางขณะรถรางไฟฟ้าแล่น โดยจินตนาการว่าภูเขาแต่ละลูกเป็นภาพวาดอะไรบ้าง หลังจากนั้นฉันแวะชมลำธารจินเปียนซี ลำธารที่ไหลวนตามช่องเขาและชะง่อนผา สองฟากฝั่งมีหินรูปร่างแปลกตั้งตระหง่านเรียงรายกันอยู่เป็นจำนวนมาก ฉันกลับเข้าเมืองเพื่อทานอาหารกลางวัน หลังอาหารกลางวันฉันต้องกลับไปอุทยานจางเจียเจี้ยเพื่อเข้าคิวขึ้นลิฟท์แก้วไป่หลง ลิฟท์แก้วแห่งแรกของเอเชีย สู่เขาเทียนจื่อซานชมทิวทัศน์อันสวยงามของ ชะง่อนผาสูงชัน ป่าหินรูปลักษณะต่างๆ จากจุดชมวิวมองเห็นยอดเขาและหินแปลกตามากมาย และไฮไลท์ภูเขาอวตาร ซึ่งภาพยตร์ชื่อดังเรื่ออวตารได้นำมาเป็นฉากในการถ่ายทำ แต่ฉันว่าสะพานเทียนเสี้ยตี้อี้เฉียวฉากนึงในภาพยนตร์อวตาร มีความสวยงามแปลกตาไม่ด้อยไปกว่าภูเขาอวตารเลย ฉันต้องเข้าคิวทั้งขึ้นและลงลิฟต์แก้วนานหลายชั่วโมง เพื่อชมความงดงามสุดบรรยายของป่าภูเขาจางเจียเจี้ย เพราะลิฟต์แก้วเสียไป 1 ตัว และกำลังปิดซ่อมแซมกระเช้า เป็นการรอคิวนานที่สุดในชีวิตของฉันเลย
เพราะเป็นวิวหุบเขา ที่ประเทศไทยไม่มีอย่างแน่นอน การจัดการของอุทยานดีมาก มีจุดชมวิวหลายจุดที่มีวิวสวยมาก ห้องน้ำในอุทยานสะอาด ไม่สกปรกอย่างที่จินตนาการไว้ ทึ่งในการสร้างลิฟต์ไป่หลงของที่นี่ ที่อยู่บนหน้าผาอย่างนั้นได้