วางแผนพาครอบครัวไปเที่ยวช่วงวันแม่ ตอนโทรไปสอบถามผู้จัดการบอกว่า ติดทะเล มีอุปกรณ์ปิ้งย่าง ประกอบอาหารให้ พร้อมจานชาม มีบริการอาหารเช้า รู้สึกดีมากๆจึงตัดสินใจพักที่นี่2คืน จึงจองห้องพักfamily roomขนาดพัก4คน ที่อยู่ใกล้บริเวณชายหาดโดยโทรจองก่อน4สัปดาห์ กะไว้ว่าได้ห้องพักแน่ๆจะได้พักกันทั้งครอบครัว วันไปถึงเค้าเอาห้องfamily room ติดชายหาดให้คนอื่นที่มาพักก่อน แล้วเอาห้องพักขนาด2คนให้เรา2ห้องแทน เลยต้องนอนแยกกันเราก็ไม่ว่าอะไร ต่อมาบอกเราอีกว่าห้ามประกอบอาหารในบริเวณที่พัก จะทำให้ทำใกล้ชายหาด โดยจะต้องเสียค่าเปิดไฟเพราะตรงนั้นมันมืด ชั่วโมงละ100บาท เราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยชอบเพราะไม่ยอมบอกเราก่อนต้องแต่ก่อนตัดสินใจพักที่นี่แต่ก็ยอม วันนั้นปิ้งย่างอาหารกินกัน19.00-22.00น. ผู้จัดการก็มาเก็บเงินค่าไฟ (หลอดไฟหลายหลอดเปิดไม่ได้ เปิดได้แค่สปอร์ตไลท์อันเดียว) 300บาท เราก็จ่ายไป แต่ขอกินเบียร์ต่ออีกครึ่งขวดให้หมดก่อนค่อยปิดไฟได้ใหม ผู้จัดการเขาก็บอกว่าได้ แต่เช้ามาให้เด็กมาเก็บเพิ่มอีก 100บาท เราก็ยอมจ่าย เช้านั้นจะไปทานอาหารเช้าตอน7.30น. เขาบอกว่าน้ำยังไม่ร้อน เราก็บอกแม่ไปว่าเขายังจัดอาหารเช้าไม่เสร็จให้นอนต่อไปก่อน เราก็ไปเดินเล่นรอ 10โมงกว่าๆ แม่เราคิดว่ายังไงเขาคงพร้อมทำอาหารแล้ว (อาหารเป็นกาแฟหรือโอวัลตินกับขนมปังปิ้งเท่านั้น ต้องบอกพนักงาน เขาจึงจะจัดให้ทานได้คนละชุด) แม่เราก็กิน กินเสร็จผู้จัดการให้เด็กเดินมาเก็บค่าอาหารเช้า 30 บาท เราก็ไม่ค่อยพอใจเพราะให้เรารอแล้วไม่บอกเราเลยว่ากินอาหารเช้าได้ตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง อาหารเช้าเรามีสิทธิกินได้ตั้ง 4 คน แต่มีแม่เรากินคนเดียว ก็ยังมาเก็บเราเพิ่มอีก ถึงเป็นเงินไม่มากแต่รู้สึกรำคาญใจมากที่ต้องจ่ายเรื่องยิบย่อยนู่นนี่นั่นตลอด ข้อมูลอะไรก็ไม่บอกเราก่อน ถ้าเรารู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นแบบนี้เราคงเลือกพักที่อื่นดีกว่า อย่างเราไปนั่งเล่นที่หาดไก้แบ้ เจ้าของที่นั่นใจดีมาก ถึงแม้ค่าห้องพักจะแพงกว่านิดหน่อยแต่เรารู้สึกดีกว่า วันจะกลับกุญแจห้องพักไขแล้วหัก เราดูราคาคาปรับกุญแจเสีย 200บาท พอเราเอาเงินไปจ่าย เก็บเรา 300บาท เราถามว่า 200บาทไม่ใช่เหรอ ผู้จัดการก็บอกว่า 300บาท เราก็ยอมจ่ายก่อน แล้วเดินไปดูราคาค่าปรับที่แปะไว้กับประตูตู้เย็นอีกครั้ง ก็เขียน200 บาท เราจึงไปเถียงกับผู้จัดการ เขาจึงยอมคืนเงินมาให้ 100 บาท เราหงุดหงิดมาก เลยถามย้ำอีกว่า อาหารเช้ายังกินได้อยู่มั้ย แล้วกินได้ถึงกี่โมง เขาจึงบอกว่ากินได้ กินได้ฟรีถึง 10โมง เราถึงกล้ากิน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวโดนเก็บเงินอีก กินเสร็จเราจึงเอาเงิน100บาทนั้นให้เป็นทิปกับบริกรของเค้าแทน เพราะบริกร(เป็นคนกัมพูชา) กับแม่ครัวที่นี่ บริการดีมาก แต่ผู้จัดการที่เป็นคนไทยด้วยกันนี่ไม่ไหวจริงๆ การเที่ยวของครอบครัวเราครั้งนี้เลยหมดสนุกไปเลย เพราะต้องรำคาญใจกับบริการของที่พัก นี่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวแบบBackpackที่ต้องวางแผนค่าใช้จ่ายดีๆ มากเจอแบบนี้คงเที่ยวไม่สนุกกว่านี้แน่ ทริปนี้เราจึงรู้สึกว่าน่าผิดหวังจริงๆ อันนี้เป็นเรื่องจริงของเราตามความคิดความรู้สึกของเรานะ ไม่ตั้งใจโพสว่าใครหรอก แต่ไม่อยากให้นักเที่ยวคนอื่นๆมาเจอมารู้สึกผิดหวังแบบเรา อาจช่วยในการตัดสินใจเลือกที่พักของใครได้บ้าง