เริ่มเดินทางวันที่ 24/11/2020
พี่พักที่ Mercure Koh Chang Hideaway เป็นเวลา 3 คืน การเดินทางจากท่าเรือไปถึงโรงแรมคือไม่ใช่ทางลำบากแต่ขับยากมาก ถนนแคบ โค้งเยอะ โค้งที่น่ากลัวที่สุดคือโค้งหักศอกแต่สิ่งที่กลัวที่สุดไม่ใช่ถนนแต่รถสวนซึ่งบนเกาะมีรถบรรทุกวิ่งด้วย พอไปถึงโรงแรม ได้ห้องพักเรียบร้อย ออกไป 7-11 ซึ่งไม่ไกลจากโรงแรมแต่ทางก็ยากพอกัน เป็น 7-11 สาขาบางเบ้า ที่จอดรถเป็นที่ของคนแถวนั้น ค่าจอด 60 บาท วันแรกก็ซื้อของมาตุนรวมถึงซื้อน้ำแข็งมาด้วย
ถึงเวลากินข้าว อาหารเย็นมื้อแรกรวมอยู่ในค่าห้อง พนักงานห้องอาหารดูแลดี ใส่ใจดี เติมน้ำตลอดเวลา ไม่มีความติดใจในพนักงานห้องอาหารเลยซักนิด ประทับใจน้อง ๆ ในส่วนนี้ แต่การเจอเด็กวิ่งเล่นไปมาโดยที่คนเป็นพ่อแม่ไม่เตือนก็เป็นอะไรที่หงุดหงิดอยู่นะ คือวิ่งไปกรี๊ดไปรอบตัว ไม่ได้เกลียดเด็ก รักเด็กด้วยซ้ำ ทุกคนที่สนิทจะรู้ดี แค่มองว่าเป็นมารยาทในการอยู่ร่วมกันในที่สาธารณะตรงนี้โรงแรมไม่ผิด
ปรี๊ดที่ 1.
ถึงเวลาอาบน้ำ สิ่งที่ทำให้ปรี๊ดสุดจนทำให้การเที่ยวครั้งนี้รู้สึกว่าแย่มากคือ พี่อั๋นเจอ "ผ้าขนหนูมีคราบเปื้อนที่ซักไม่ออก" เดี๋ยวลงรูปไว้ให้ คือ ผ้ามันเลอะแบบนี้มันต้องทิ้งค่ะ มันเอามาใช้ต่อไม่ได้ ไม่ควรเสียดายด้วยประการทั้งปวง เพราะนี่คือโรงแรมไม่ใช่ที่บ้าน แล้วที่สำคัญไม่ใช่โรงแรมกะโหลกกะลา นี่คือ Mercuer โรงแรมระดับนี้ไม่ควรมีอะไรแบบนี้ เจอเรื่องนี้คือลาขาดกับที่นี่เลยจ้า นี่ยังไม่รวมความหยาบของผ้าอีกนะ แล้วเราจะมั่นใจในความสะอาดของโรงแรมคุณได้ยังไง โชคดีที่อีกผืนสะอาดดีถึงแม้สีจะไม่ค่อยขาวก็เถอะ ต้องบอกว่าเมื่อก่อนเคยขนผ้าเช็ดตัวไปเองตลอดแต่มาช่วงหลัง ๆ ที่ไม่ได้เอาไปเองเพราะกระเป๋ามันเต็มมากจนไม่มีที่ แต่หลังจากนี้ต้องพยายามยัดผ้าเช็ดตัวไปเองแล้ว ที่นอนดีหมอนดี เป็นหมอนที่นุ่มแต่แน่น นอนแล้วไม่ปวดคอ เป็นหมอนที่เรียกตัวเองว่าหมอนได้แบบเต็มปาก
25/11/2020
ตื่นเข้ามา ลงไปทานอาหารเช้า อาหารเช้าทั้ง 3 วัน สำหรับคนไม่เรื่องมากเรื่องกิน มันโอเคอยู่นะ มีซุป มีขนม มีไข่ มีชีส มีพิซซ่า มีอาหารไทย
ปรี๊ดที่ 2 .
พอกลับขึ้นมาบนห้อง พี่ก็นั่งล้างเล็บ จนบ่ายโมงครึ่ง พี่โทรไปที่ room service ขอแม่บ้านมาเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวและขอน้ำดื่มเพิ่ม รู้มั้ยว่าแม่บ้านมากี่โมง 17.30 น. จ้า แล้วที่แม่บ้านมาเพราะโทรไปสั่งน้ำแข็ง ที่นี่น้ำแข็งถังละ 60 บาท ไม่ฟรีเหมือนทุกที่ที่เคยไป ก็แบบตกใจแต่ก็ช่างเถอะ ไป 7-11 ก็เสียค่าจอด 60 อยู่ดี เราย้ำว่าขอเปลี่ยนผ้าขนหนูและขอน้ำดื่มเพิ่ม คือที่นี่ให้น้ำวันละ 2 ขวดและขอเพิ่มไม่ได้ ถ้าเพิ่มคิดค่าน้ำขวดละ 30 บาท แม่บ้านเอาน้ำมาให้ 6 ขวด คือของวันที่ 25-26 = 4 ขวด และจ่ายเพิ่มเอง 2 ขวด เราไม่ได้ออกไปคุยเองเพราะรู้ตัวว่ากำลังโมโหอยู่ คือดีที่มีน้ำแร่ที่ซื้อจาก 7-11 มา ถ้าไม่มีคืออดน้ำไปเลยยาว ๆ
ช่วงเย็น เปลี่ยนชุด ลงไปถ่ายรูปได้นิดหน่อย ที่นี่น้ำทะเลใส วิวสวยจริงแต่ทริปนี้ได้รูปน้อยมาก เพราะมีกลุ่มคนที่เรารู้สึกได้ถึงสายตาของการคุมคาม พอแสงเริ่มหมดก็สั่ง happy hour ดื่ม
สำหรับที่นี่ happy hour คือต้องเหมือนกัน 2 แก้ว ไม่เหมือนที่อื่นที่แก้วแถมจะเป็นอะไรก็ได้ขอแค่ราคาเท่ากันหรือต่ำกว่า และกินอาหารเย็นพร้อมกันไปเลย มื้อนี้ยังคงรวมอยู่ในค่าห้อง วันนี้เจอกลุ่มคนกลุ่มเดิม เพิ่มเติมคือหิ้วลำโพงมาด้วย เปิดเพลงเผื่อแผ่ไปอีก และวันนี้พนักงานก็น่ารักเช่นเดิม เดินไปแจ้งกลุ่มนั้นว่าไม่อนุญาตให้เปิดเพลง
26/11/2020
วันนี้เรียบง่าย ไม่มีอะไรมาก นั่งทำเล็บไปหลังจากที่เมื่อวานล้างเล็บออก มีแค่เรียกแม่บ้านมาทำห้องซึ่งวันนี้มาเร็วกว่าเมื่อวาน ทำห้องเร็วแต่สะอาดดี ตอนแรกว่าจะแจ้งเรื่องผ้าเช็ดตัวที่เจอวันแรกแต่ก็ลืม มัวแต่วุ่นวายกับอุปกรณ์ทำเล็บอยู่ ถึงช่วงเย็น ตัดสินใจว่าวันนี้จะลงไปเดินเล่นนั่งรับลม ดื่ม cocktail ชิล ๆ ริมทะเล เพราะสายตาที่คุกคามเมื่อวานเลยทำให้ตัดสินใจไม่ถ่ายรูปอีก
อาหารเย็นมื้อสุดท้าย มื้อนี้จ่ายเงินตามปกติ ไม่ได้รวมในค่าห้อง ค่าอาหารอยู่ที่ประมาณ 1,000 นิดหน่อย