ผมมาพักที่นี่ 4 คืน ตอนแรกก็ตกใจสภาพโรงแรมแหละ ในใจคิดว่าคงไม่มีอะไร คืนแรก ลมพัด ประตูกระแทกทั้งคืนจนนอนหลับๆตื่นๆ
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ตกใจหนักกว่าเดิม เมื่อเจอสภาพของความสกปรกบนไลน์อาหารเช้า มะเขือเทศที่หั่นไว้มันช้ำ มีกลิ่นเหมือนกำลังจะเสีย ความสะอาดบนไลน์อาหารแทบเป็น 0
นอนคืนแรกก็โอเคนะ เตียงนุ่ม หลับสบายดี แต่มาสะดุดคืนต่อมา กลิ่นธูปที่เขาใช้บูชาตามประเพณีคนบาหลีมันโชยเข้ามาแรงมาก มาจากช่องแอร์ เลยตามพนักงานให้มาดูให้หน่อยว่าพอจะแก้ไขอะไรได้ไหม พนักงานโยนทันที ว่ากลิ่นมาจากด้านนอกห้อง เพราะด้านหลังห้องเป็นห้องอาบน้ำแบบ outdoor กลิ่นมันน่าจะมาจากทางนั้น ทำอะไรให้ไม่ได้ ผมเลยต้องฝืนนอนต่อไป
ตื่นเช้ามาป่วยครับ ภูมิแพ้ขึ้น แสบจมูก แสบคอ ตาแดง ทอมซินอักเสบ เลยเดินมาหน้า front ได้คำตอบเพียงมี tamadol (ยาพารานั่นแหละ) แล้วก็จบแค่นั้น นางบอกจะไปฉีดน้ำหอมให้ แล้วก็จบแค่นั้น ช่วงกลางวันกลิ่นไม่แรงมาก เลยตัดสินใจกินยาแล้วนอนพักผ่อน เพราะป่วยเรียบร้อยแล้ว (ตอนแรกก็สงสัย เลยลองตรวจเเล้ว ขึ้นขีดเดียว)
ออกไปเที่ยวข้างนอกกลับมา คราวนี้ เอาอีกแล้ว ยิ่งดึกกลิ่นยิ่งโชยมาทางแอร์ กลิ่นแรงจนแสบจมูกเช่นเดิม วันนี้เลยไม่ทน เดินไปบอกหน้า front ว่าพอจะทำอะไรได้ไหม มี spray ปรับอากาศไหม พอจะไปช่วยฉีดใส่ท่อ main air หน่อยได้ไหม
คำตอบที่มาคือ ฉันเป็นเพียงแค่ bellboy แม่บ้าน พนักงานทุกคนรวมถึง manager กลับบ้านไปหมดแล้ว โรงแรมเราปิดมา 2 ปีกว่า ตอนนี้คนยังทำงานไม่ครบเหมือนเมื่อก่อน แล้วห้องแม่บ้านเขาก็ล็อค ใส่กุญแจ ก็เลยเข้าไปเอา spray ปรับอากาศให้ไม่ได้ แล้วต่อให้โทรไปหา manager ป่านนี้เขาคงหลับกันหมดแล้ว ทำได้เพียงย้ายห้อง สนใจจะย้ายห้องไหม
ผมเลยทักไปว่ากลิ่นมันมาจากช่องแอร์ ต่อให้ย้ายห้องไป เปิดแอร์มามันก็กลิ่นเดิมอยู่ดีไหม ผมเลยบอก ข้างห้องก็บอกว่ากลิ่นเหม็นเหมือนกัน แต่แค่เขาไม่แพ้เหมือนผมไง คุยกันไปพักใหญ่จนถึงขั้นด่าไปว่า ตั้งแต่เคยไปพัก ibis มา โรงแรมนี้มาตรฐานต่ำสุด ต่ำมากๆ ผิดหวังมากๆ แล้วพูดขู่ไปว่ากลับไปฉันจะไปฟ้อง Accor นางก็ยืนยันว่าทำได้แค่ที่บอก จะย้ายหรือไม่ย้าย
ผมเลยเดินกลับไปที่ห้องอีกรอบ คราวนี้กลิ่นแรงกว่าเดิมอีก แรงจนแสบจมูก แสบตา แสบลงคอ นั่งในห้องไม่ได้ จนต้องออกมานั่งท่ีระเบียงหน้าห้อง
เลยเดินไปให้โทรหา manager ให้หน่อย เลยบอกไปว่า ถ้าเขาด่ามา ให้บอกไปเลยว่าลูกค้าเป็นคนบอกให้โทร
สุดท้ายก็ได้คุยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ manager และ manager ก็โทรกลับมาหา bellboy คนดังกล่าว พอคุยกันไม่ถึงนาที bellboy เดินไปหยิบ spray มา พร้อมเดินไปฉีดในท่อแอร์ แล้วกำลังจะไปฉีดที่ห้องผมต่อ ผมเลยขอขวด spray ไว้เลย เผื่อต้องฉีดซ้ำ
แต่คำถามคือ ไหนว่าไม่มี spray แม่บ้านกลับหมดแล้วไง?
หลังจากนั้น ผมก็กลับมาที่ห้องพัก และลองเปิดแอร์อีกครั้ง ก็ยังกลิ่นเดิม สรุปว่ากลิ่นแรงมากจนสเปรย์ก็เอาไม่อยู่
สุดท้ายเลยตัดสินใจฉีด spray ไปเยอะๆอีกรอบ และต้องปิดแอร์นอน ทนร้อนเอา ไม่งั้นเช้ามาคงจะป่วยหนักกว่าเดิมแน่ๆ
ก่อนจะกลับเลยออกมาพูดที่หน้า front อีกรอบ ถามหา manager ว่ารู้ไหม ว่าฉันป่วยถึงขั้นคออักเสบ ถึงขั้นต้องกินยาและนอนพักในวันพักผ่อนของฉัน
ก็งงดีนะ ไม่มีใครเป็นห่วงลูกค้า หรือเดินมาคุยเองเลย คือต้องเดินไปตามหาตัวอย่างเดียวเลยเหรอ
รู้สึกผิดหวังและเสียดายเงินที่จ่ายไปมากๆ เอาจริงๆโรงแรมที่นั่นราคาไม่แพงนะ จ่ายราคาถูกกว่านี้ไปหานอนโรงแรมบ้านๆเหมือนที่ผ่านมายังจะดีกว่านี้อีกอะ ฝรั่งข้างห้องผมก็พูดคำเดียวกับผมเป๊ะๆเลย แถมนางยังเพิ่มเติมอีกว่าอาหารเช้าที่นี่แย่มากๆ คิดเหมือนผมเป๊ะเลยเพิ่มเติม
US$212

ดูข้อเสนอ