โรงแรมพูคาน่านฟ้าแห่งนี้ ตัวอาคารสร้างจากไม้ทั้งหลังมีพื้นที่ทั้งหมด 3 ชั้นครับซึ่งสวยงามมากและการตกแต่งภายในก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ผสมผสานความเป็นเมืองน่าน ศิลปะแบบลานนาโบราณได้อย่างลงตัว ชื่อโรงแรมแห่งนี้มีที่มาครับ คำว่า "พูคา" หมายถึงชื่อของราชวงศ์โบราณของอาณาจักรน่านอันยิ่งใหญ่เมื่อกว่า 700 ปีก่อนครับ ส่วนคำว่า "น่านฟ้า" มาจากชื่อของโรงแรมเดิมแห่งนี้ ซึ่งตัวอาคารโรงแรมสร้างขึ้นจากไม้ทั้งหมดที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานมากกว่า 80 ปี ก่อนขายให้แก่ "คุณบัณฑูร ล่ำซำ" (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย) ครับ จึงได้มีการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดแต่ยังคงรูปลักษณ์ของสถาปัตยกรรมเดิมของตัวอาคารไว้ทั้งหมดส่วนด้านในของโรงแรมมีการพัฒนาให้ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับสากลแต่มีความเรียบหรูสไตล์ลานนาโบราณ เวลาเข้ามาพักที่โรงแรมแห่งนี้แล้วเหมือนมาพักที่บ้านญาติสนิทมิตรสหายที่แสนจะอบอุ่น เพราะเค้าจัดทำห้องพักเพียงแค่ 14 ห้องเท่านั้นโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองน่านเลยครับ ฝั่งตรงข้ามโรงแรมก็จะเป็นตลาดสดมีอาหารและสินค้าพื้นเมืองต่างๆ จำหน่ายมากมายตลาดยามเช้าจะมีพระภิกษุเดินผ่านด้านหน้าโรงแรมสามารถตักบาตรพระตอนเช้าได้ด้วย ได้เห็นวิถีแห่งธรรมแบบท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ และในช่วงเย็นก็ยังมีตลาดเย็นจำหน่ายอาหารปรุงสุกพร้อมกินได้เลยด้วยครับ จึงสะดวกในการหาอาหารอร่อยๆ กินแบบสะดวกสบายย่างก้าวแรกที่เดินเข้ามาภายในบริเวณล็อบบี้โรงแรมแห่งนี้ รู้สึกได้ถึงความมีมิตรไมตรี และความอบอุ่นจากพนักงานต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ทุกๆฝ่ายที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และคอยอำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี บริเวณด้านซ้ายมือของล็อบบี้ จะมีพื้นที่จำหน่ายผ้าพื้นเมืองและสินค้าหัตถกรรมของ "ร้านภูฟ้า" ขององค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ให้จำหน่ายครับ และใกล้ๆ กันก็จะมีห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือโบราณเกี่ยวกับประวัติลานนาและนวนิยายต่างๆมากมายอีกทั้งมี คอมพิวเตอร์ให้ใช้บริการฟรีด้วยครับ และในพื้นที่ชั้นล่างก็ยังเป็นที่ตั้งของห้องอาหารหลักของทางโรงแรมแห่งนี้ครับ อาหารเช้าของทางโรงแรมนี้อร่อยมากๆ ครับ ดูแลและใส่ใจในทุกกระบวนผลิตโดยเชฟผู้มากประสบการณ์ เมนูอาหารเช้ามีทั้งอาหารนานาชาติ และอาหารท้องถิ่นครับอาทิ ไส้อั่ว, แกงฮังเล, น้ำพริกฯลฯ มีหนึ่งเมนูห้ามพลาดเป็นอันขาดซึ่งอร่อยมากๆครับคือ "ข้าวมันไก่" ข้าพเจ้าเคยกินข้าวมันไก่มาก็เยอะมากแต่ไม่เคยกินข้าวมันไก่ที่ไหนอร่อยล้ำเกินบรรยายขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ที่อร่อยนุ่มละมุนลิ้นและน้ำจิ้มสูตรเด็ด ที่ไม่เหมือนที่ใด กินแล้วเหมือนต้องมนต์สะกดในรสชาติที่แตกต่าง จริงๆ ครับ ในส่วนของห้องพัก นั้น เค้ามีการออกแบบที่ผสมผสานความมีจิตวิญญาณแห่งศิลปะที่มีเอกลักษณ์ของเมืองน่านได้อย่างโดดเด่นที่เห็นได้ชัดคือเฟี้ยมไม้ที่กั้นระหว่างห้องน้ำและห้องนอนและผ้าม่านของทุกๆห้องพักจะมีลวดลายงานเขียนสี เป็นรูปของ "ปู่ม่าน,ย่าม่าน" (เจ้าแห่งตำนานกระซิบรักบันลือโลก) ซึ่งเป็นรูปวาดชื่อดังของจังหวัดน่านโดยภาพวาดต้นแบบจะอยู่ที่ภายในวิหารของวัดภูมินทร์จะเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังถูกวาดขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1867 โดยหนานบัวผัน ซึ่งเป็นศิลปินชาวไทลื้อ ที่ต้องการสื่อสารให้เห็นถึงความงดงามของความรักที่อยู่เหนือกาลเวลาครับ และบริเวณชั้น 3 ของโรงแรมแห่งนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น หรือช่วงที่ดวงตะวันจูบลาขอบฟ้า คุณจะสุดแสน Amazing สามารถชมความงดงามของ "ผู้ปกป้องธรรมชาติตามหาแสงสว่างในใจ" ฝูงนกนางแอ่น จำนวนหลายร้อยตัวโผบินผ่านช่องทางประตูด้านหลังโรงแรมเพื่อออกมายังด้านหน้าโรงแรมรวดเร็วประดุจเครื่องบินไอพ่นชนิดพิเศษจำนวนมากมาย ซึ่งข้าพเจ้าคาดการณ์ว่า ฝูงนกเหล่านี้คงคิดว่าเป็นทางด่วนพิเศษที่ใช้ในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็วและประหยัดเวลา จึงบินผ่านช่องทางระหว่างตัวอาคารด้านหลังโรงแรมมายังด้านหน้าโรงแรมแบบนี้เป็นประจำทุกๆ วันครับ ช่างเป็นประสบการณ์ที่สุดแสนจะตื่นเต้นและสร้างความประหลาดใจในการปรับตัวที่ยอดเยี่ยมของฝูงนกท้องถิ่นเหล่านี้ครับ