สถานที่รวบรวมเรื่องราวของภูเขาไฟอะโซะ ใกล้ๆมีร้านอาหารเนื้อม้า อร่อยๆ... อ่านเพิ่มเติม
สถานที่รวบรวมเรื่องราวของภูเขาไฟอะโซะ ใกล้ๆมีร้านอาหารเนื้อม้า อร่อยๆ... อ่านเพิ่มเติม
การเดินทางเริ่มจาก Jr Aso Station โดยทะลุออกจากตัวสถานีJR... อ่านเพิ่มเติม
... ญี่ปุ่น หนึ่งในประเทศที่มีพื้นที่อยู่ในแนววงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) ซึ่งเป็นบริเวณในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เกิดแผ่นดินไหว(ล่าสุดใน ค.ศ. 2016 ณ.จังหวัดคุมาโมโตะ) และภูเขาไฟปะทุบ่อยครั้ง.
..." Aso Volcano Museum" : จัดแสดงเรื่องราวการก่อเกิดของภูเขาไฟอะโสะ ตลอดจนความรู้ทางธรณีวิทยาของภูเขาไฟต่างๆใน ญี่ปุ่น การเฝ้าระวัง(สามารถชมปากปล่องภูเขาไฟอะโสะแบบเรียลไทม์ผ่านจดภาพขนาดใหญ่) การคาดการณ์การการปะทุของภูเขาไฟ และเรื่องราวทางธรรมชาติที่เกี่ยวเนื่อง ผ่านนิทรรศการและ สื่อภาพยนตร์ (มีคำบรรยายภาษาอังกฤษ).
... ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์ยังมีจุดบริการข้อมูลการท่องเที่ยว ร้านค้าจำหน่ายของฝากของที่ระลึก("ชุดทดลอง" และ "แผนที่สามมิติ" คือ สินค้าที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆได้เรียนรู้ ภาพสื่อการศึกษา)
การเดินทางสามารถนั่งรถไฟมาจากเมืองคุมาโมโต้ มีรถไฟAso Boyขบวนพิเศษวิ่งด้วย แต่ต้องจองก่อนขึ้น เมื่อมาถึงอาโซะ หากต้องการขึ้นไปบริเวณภูเขาไฟ ต้องนั่งรถบัสไปต่อ แนะนำว่าก่อนไปควรเช็คประกาศจากเว็บไซต์ก่อน ว่าตรงบริปากปล่องภูเขาสามารถเข้าไปได้หรือไม่ หรือเข้าไปได้ถึงแค่ไหน หากปากปล่องปิด ก็ยังสามารถไปลงป้ายที่เป็นทุ่งหญ้าได้ วิวสวยมากเช่นกัน
สถานที่รวบรวมเรื่องราวของภูเขาไฟอะโซะ ใกล้ๆมีร้านอาหารเนื้อม้า อร่อยๆ อีกทั้งตรงข้ามยังมีกิจกรรมให้นั่งบนม้าเดินตามทุ่งหญ้า
การเดินทางเริ่มจาก Jr Aso Station โดยทะลุออกจากตัวสถานีJR ออกมาแล้วเลี้ยวขวาจะมีเคาร์เตอร์หรือตู้กดซื้อตั๋วรถบัส โดยสารถซื้อตั๋วไปลงตามป้ายรถจอดที่ต่างๆได้ ราคาจะต่างกัน แล้วเข้าแถวยืนรอตรงนั้นได้เลย (ดูตารางเวลาเดินรถได้ที่สถานี)
โดยBusจะจอด2ป้าย 1.Aso Museum 2.Aso Ropeway แนะนำว่าให้ไปAso Ropewayก่อน ขากลับค่อยมาแวะAso Museum
ป้ายAso Ropeway จากจุดนี้ สามารถซื้อตั๋วRopeway เพื่อขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟได้ หรือถ้าช่วงที่ไปไม่สามารถไปที่ปากปล่องได้ ก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร และเข้าชมRing of fireได้(เสียค่าเข้าชม)
ป้ายAso Museum ด้านตรงข้ามAso Museum จะมีทุ่งหญ้าKusasenriสวยงามและมีบึงน้ำ2บึง จากจุดนี้สามารถมองเห็นป่องภูเขาไฟ Naka-daka ได้อีกด้วย นอกจากนี้ทุ่งหญ้านี้จะมีวัว ม้า อยู่ทั่วทุ่งสามารถขี่ม้าชมทุ่งได้ในราคา1,300เยน/คน
Aso Museum ภายในจัดแสดงเรื่องราวของภูเขาไฟต่างๆในญี่ปุ่น โดยเฉพาะการเกิดภูเขาไฟอะโสะ(ภาษาญี่ปุ่น)840เยน
นอกจากนี้ทางด้านข้างของ Museum สามารถเดินขึ้นบันไดเพื่อขึ้นเนินไปจุดชมวิว จะมองเห็นวิวทุ่งหญ้าKusasenri ที่อยู่ด้านหน้า และยังเห็นวิวภูเขาไฟ Mt.Kijima-dakeได้อีกด้วย
ปล.ลมข้างบนแรงมากเตรียมเวื้อกันหนาวไปให้ดี
การไปภูเขาไฟaso เราต้องนั่งชินคันเซนไปลงkumamotoจากนั้นก็นั่งรถไฟไปลงaso station นอนที่นี่คืนหนึ่งจากนั่นตอนเช้าเราก็นั่งรถบัสสักครึ่งชั่วโมงก็ไปถึงสถานีรถไปยอดเขาเราซ้อเที่ยวเดียวขากลับเดินเอาก็ไม่ไกลเท่าไรสักครึ่งชม. เดินทางลัดเอาไม่เดินทางรถใช้เวลาที่นี้เกือบครึ่งวัน ใกล้สถานีรถไฟมีร้านค้าขายของกินอร่อยมากถ้าซื้อตอนเย็นลดครึ่งราคาน่าไปมากเลยนะ
า
เป็น Unseen Japan อีกที่หนึ่งที่ บริษัททัวร์ น้อยแห่งจะจัดไปเที่ยว สามารถ ไปด้วยรถไฟ จาก เมืองKumamoto ด้วยรถธรรมดา หรือ รถไพ ขบวนพิเศษ ชื่อ Aso Boy (ต้องReservedที่นั่งก่อน๗ ขบวนตกแต่งสวยงามมาก ลงสถานีAso แล้วต่อรถบัส ลงสถานีรถกระเช้า แล้วต่อกระเช้า ขึ้นไปดูปากปล่อง ภูเขาไฟ สวย, แปลกถ้ามีฝนตก น้ำขังปากปล่องจะสวยมาก เคยเป็นฉากในหนัง เจมส์บอน รุ่นฌอน คอนนารื่ ไปไม่ยากครับ ใช้เวลา ทั้งวัน ไปดูปากปล่องภูเขาไฟ และ สองข้างทาง ภูเขาสวยงาม นั่งรถขบวน Aso boy ขาไป หรือ ขากลับ ซักเที่ยว ก็คุ้มค่าที่แวะมาครับ