เหตุการณ์แรกก็คือ ชาวตะวันตกได้รับการเสริฟ ชาและแกฟาในช่วงอาหารเช้า แขกชาวเอเซียไม่ได้ถูกถามด้วยซ้ำว่าต้องการรึเปล่าแล้วการบ่นของฉันน่าเชื่อถือแค่ไหนน่ะหรอ พอฉันไม่ได้รับการเสริฟซึ่งฉันเป็นคนเอเซีย ฉันก็เลยถามคนเอเซียอื่นๆที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ฉันได้ถามอย่างน้อย 4 คู่ เพื่อจะได้มั่นใจก็ไม่มีใครได้รับเลย และที่ยิ่งกว่านั้นคือ ผู้จัดการตอบกลับมาว่า เขาไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
แต่เขาก็ได้โต้ตอบว่า พวกชาวตะวันตกกำลังจะไปแล้วแล้วก็ได้พักมาแล้วอย่างน้อย 2 อาทิตย์ แต่ชาวเอเซียมาอยู่อย่างเก่งก็แค่ 4 วัน ทำให้พนักงานคงจะรู้ว่าชาวตะวันตกชอบดื่มอะไรมากกว่า ฉันก็เลยตอบไปว่ามันยากสักแค่ไหนที่จะถามแขกทุกๆคนว่าจะรับชาหรือกาแฟหรือไม่ ไม่ว่าเขาจะพักนานเท่าไหร่ เหตุการณ์ที่สอง ใครก็ตามที่กำลังคิดจะพักที่รีสอร์ทนี้ควรจะรู้ไว้ว่าทางโรงแรมได้จัดเวลาที่คุณจะออกจากเกาะไว้ให้แล้วตอนที่คุณเชคเอ้าท์โดยยกตัวอย่าง เครื่องบินของฉันที่ออกจากมัลดีฟจะออกบินในเวลา 5 ทุ่ม 25 นาที และเรือที่เขาได้จัดไว้ให้ฉันจะออกจากเกาะตอน 2 ทุ่มและจำไว้ว่าเวลาที่เชคเอ๊าท์คือตอนเที่ยง
ดังนั้น ฉันก็เลยไปอยู่ที่บาร์ตั้ง 8 ชั่วโมง มันน่าเบื่อไม๊ล่ะ ฉันได้จองเที่ยวบินสุดท้ายไว้เพื่อที่ฉันจะได้ใช้เวลาในเมืองหลวงเพื่อจะดูว่าชาวพื้นเมืองเขาใช้ชีวิตที่จริงๆกันยังไง ฉันได้อธิบายให้ที่เค้าน์เตอร์ฟังถึงเหตุผลนี้ เขาก็บอกว่าถ้าจะเปลี่ยนเวลาเรือฉันต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 45 เหรียญยูเอส และฉันก็ได้จ่ายค่าเรือไปก่อนแล้ว ฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องเลยที่มาคิดเงินเพิ่ม เพราะว่าฉันไม่ได้ตกลงกับเวลา 2 ทุ่มตั้งแต่แรก และอีกอย่างฉันได้ให้เวลาจัดการถึง 30 ชั่วโมง ไม่ใช่ว่าให้เวลาแค่ 3 ชั่วโมง
ฉันถามพวกเขาว่าทำไมไม่มีใครถามฉันว่าฉันจะไปเมื่อไหร่ ฉันเคยพักที่รีสอร์ทในทั้ง Bali และ Fiji แต่นี้เป็นครั้งแรกที่โรงแรมบอกว่าฉันจะออกได้เมื่อไหร่ พนักงานที่เค้าน์เตอร์และผู้จัดการบอกว่านี่เป็นนโยบายของโรงแรม แต่พอฉันถามว่ามีเขียนไว้ที่ไหนก็ไม่มีอะไรที่จะเอามาเป็นหลักฐานได้เลย พอยิ่งพูดกับผู้จัดการเขาก็ยอมรับว่าการทำอย่างนี้คือเป็นอะไรที่ทำให้รีสอร์ทสามารถดูดเงินจากลูกค้าให้ได้มากที่สุด อย่างเช่น ถ้าฉันต้องอยู่ถึง 2 ทุ่ม ฉันก็ต้องทานอาหารกลางวันและมื้อค่ำที่รีสอร์ทเขาก็คงได้เงินจากฉันและคู่ขาอีก 40 เหรียญยูเอส
ฉันอธิบายกับเขาไปว่าคุณมั่นใจว่าคุณอยากบริการแขกที่จ่ายให้คุณอย่างน้อยมากกว่าแสน (และแน่นอนว่ารวมถึงแขกชาวเอเชียที่มาพักแค่ 4 คืน) ในอากัปกิริยาแบบนี้เพื่อชาร์จเพิ่มเพียง 40 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งดูเหมือนไม่มีความสุขเอามาก ๆ เมื่อเขา/หล่อนเดินทางจากไป นั่นเป็นแค่มุมมองในเรื่องทางการเงินที่ดีที่สุดที่ฉันบอกเขา ท้ายสุดฉันเดาว่าฉันใช้ความเห็นบางอย่างของผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายเพื่อเลี่ยงจ่ายเงิน 45 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ สรุปรวบยอดแล้วความคุ้มเกี่ยวกับเงินที่นี่ไม่ใช่หัวใจของปัญหา ในทางตรงกันข้ามแล้วค่าใช้จ่าย 45 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐดีพอที่จะจ่ายให้กับความไม่เป็นธรรม ความไม่เสมอภาค และมันเปิดไฟเขียวให้รีสอร์ทฝึกความไม่เสมอภาคแบบนี้ต่อไป เหตุการณ์ที่ 3 ฉันไม่เคยพบเคยเห็นพนักงานต้อนรับที่หยาบคายเช่นนี้มาก่อนเลย
พวกเขาบูดบึงและทำหน้าเหมือนกับจะถามว่าเรามาที่นี่ทำไม มันแย่มาก ฉันได้เห็นคนอื่นพูดไว้แล้วที่ Tripadvisor และฉันก็ได้พบกับมัน บทสรุป ถึงแม้ว่า Water Villa จะไม่เลวเลย และการดำบนผิวน้ำยอดเยี่ยมมากแต่การที่รีสอร์ททำกับลูกค้าโดยเฉพาะชาวเอเซียในวิธีที่ไม่เป็นมืออาชีพเลย จะทำให้ฉันไม่กลับมาอีกและฉันก็ได้บอกเพื่อนที่กำลังจะจองที่ Thulhagiri ว่าอย่าจองเลยแล้วฉันก็ไม่ใช่นักเดินทางที่เรื่องมาก เขาต้องทำให้ดีกว่านี้อีกเยอะ ฉันกำลังเขียนหลังจากที่กลับมาบ้านได้ไม่กี่นาที นี่เป็นแค่ข้อที่โดดเด่นของความไม่พอใจอย่างเลวร้ายของฉัน
451
292
87
34
21