โรงแรมแห่งนี้เหมาะสำหรับการพักก่อนไปชายแดนกัมพูชา บริเวณใกล้ๆ มีแผงขายอาหารซึ่งทำก๋วยเตี๋ยวได้อร่อยที่สุดเท่าที่เราเคยกินในประเทศไทย

ห้องพักพอใช้ ดูเก่าไปนิดแต่ก็ใช้ได้ ฝักบัวแรงดี

อาหารเช้าไร้ที่ติ ผลไม้สด ไข่ปรุงตามสั่ง ขนมปังปิ้ง และอาหารเช้าแบบไทยๆ

เมื่อมุ่งหน้าไปที่ชายแดน คุณควรระวังพวกต้มตุ๋นและสิบแปดมงกุฏ เริ่มตั้งแต่คนขับรถตุ๊กตุ๊กนอกโรงแรมเลย

คนขับรถตุ๊กตุ๊กจะพาคุณไปที่ร้านรับทำวีซ่า ซึ่งคุณจะได้วีซ่าเข้ากัมพูชาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นข้อดีที่หลอกให้คุณติดใจก่อนต้องเสียเงินมากกว่านี้ คนที่นั่นจะบอกว่าคุณต้องแลกเงินบาทเพื่อนำไปแลกเป็นเงินเรียล เพราะธนาคารในกัมพูชาจ่ายเป็นเงินดอลล่าร์เท่านั้น เท่ากับว่าคุณจะต้องจ่ายค่าสินค้าแพงกว่าเดิมเพราะไม่ใช่สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งโกหกทั้งเพ คุณสามารถใช้บริการรถรับส่งนักท่องเที่ยวจากชายแดนไปยังสถานีรถโดยสารฟรี จากนั้นสามารถจ้างรถมินิบัสเพียง 10 ดอลล่าร์เข้าไปยังเสียมเรียบ ค่าแท็กซี่ไม่ได้ราคา 80 ดอลล่าร์ และระยะเวลาโดยสารก็ไม่ใช่ 7 ชั่วโมง ทุกอย่างหลอกลวงทั้งสิ้น ผมตรวจดูอัตราแลกเปลี่ยนที่บริษัทรับแลกเปลี่ยนที่สถานีรถโดยสารแล้วพบว่า แม้การแลกเงินบาทเป็นเงินเรียลจะไม่เสียค่าคอมมิชชัน แต่คุณจะสูญเงินไป 24% หากแลกเปลี่ยนเงินกับพวกนั้น เพราะขณะนี้อัตราแลกเปลี่ยนคือ 1 บาท = 130 เรียล แต่อัตราแลกเปลี่ยนของพวกนั้นคือ 1 ต่อ 104

ดังนั้นคุณควรข้ามชายแดนและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองด้วยตัวเอง ขอให้โชคดี

วันที่ 15 พ.ย.55 ที่ผ่านมา เราได้ไปพักที่โรงแรมอรัญเมอร์เมด เวลาเที่ยงคืนมีเสียงเคาะประตูห้องแต่เราไม่ได้ไปเปิดประตู และตอนตี3 ก็มาเคาะอีกรอบเราก็ไม่เปิดและโทร.ไปถามที่เค้าเตอร์พนักงานบอกว่าคุณไม่รู้จักคนนั้นหรอค่ะเราตอบไปว่าไม่ค่ะช่วยจัดการให้ด้วยนะคะ พอเช้าประมาณ7.30 มีแม่บ้านเคาะประตูบอกว่ามีคนฝากกุญแจมาคืนค่ะเราก็คิดในใจว่าเรามาที่นี้เราไม่รู้จักใครนิเราก็ไม่ตอบและไม่เปิด พอสักพักแม่บ้านก็เคาะรอบที่2 และบอกว่าแม่บ้านนะค่ะเอาอาหารเท้ามาให้ค่ะเราก็ว่าเราไม่ได้สั่งนิและพอสักพักแม่บ้านก็นำกุญแจสำรองมาเปิดประตู เราเลยโทร.ไปมี่เค้าเตอร์สำรองมาเปิดประตู เราเลยโทร.ไปที่เค้าเตอร์และบอกกับพนักงานว่าให้แม่บ้านมาเปิดประตูห้องได้ไงคะ พนักงานบอกว่าไม่ได้บอกค่ะ เราบอกว่าจัดการให้ด้วย เสียงแม่บ้านพยายามเปิดประตูเข้ามาให้ได้แต่ข้างในมีตัวล็อกไว้เราเลยขวางขวดน้ำไปที่ปประะตู เสียงเงียบไป และแม่บ้านพยายามอีกครั้งเราเลยหยิบขวดโค้กขวางไปอีก ผ่านไปประมาณ3ชม.กว่าๆก็เงียบไป เรื่องที่เกิดขึ้นเรามาพักผ่อนรึเรามาอะไรนะเนีย และเราก็ลงมาเช็คเอ้า และบอกกับพนักงานว่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง พนักงานตอบว่าแม่บ้านเพิ่งมาทำงานใหม่ค่ะ โดยที่ไม่มีการขอโทษรึรับผิดชอบใดๆเลย แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ อยากจะรู้ว่ามางโรงแรมจะจัดการอย่างไร และจะปล่อยให้เรื่อชแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกค้าคนไหนอีก และก่อนหน้านี้เคยมีลูกค้าคนไหนที่เป็นเหมือนเราบ้าง. รึว่าเราคือลูกค้าที่โชคร้ายคนนั้น