ผมมาพักที่นี่เป็นครั้งที่สาม อัยลันดาอยู่ไม่ไกลจากเมืองกระบี่ ห้องพักกว้างขวาวและสะดวกสบาย อาหารรสชาดดี มีห้องไวน์ราคาเหมาะสมและค้อกเทลแปลกๆหลายรายการ มีกิจกรรมกับชาวบ้านให้ทำด้วย ที่ชอบที่สุดคือเกมขี่จักรยานถ่ายภาพ เป็นที่จัดงานเลี้ยงส่วนตัวที่ดีที่สุดในกระบี่

ได้รางวัลจากการเข้าไปร่วมเล่นเกมตอบคำถามที่หน้าเพจของทางรีสอร์ท ดีใจมาก ไปกระบี่ตั้งหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยข้ามไปเกาะกลางเลย ครั้งนี้ได้ไป Islanda ก็หมายถึง ได้ไปเกาะกลางล่ะ แต่ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง ก็เลยชวนน้องเค้าที่กระบี่ำไปเป็นเพื่อน ได้เพื่อนไปแล้ว ก็ ลุย!! ไปถึงที่รีสอร์ทปุ๊บ ก็มี Welcome drink ที่ทั้งสดชื่น และอร่อยออกมาต้อนรับ ทำให้หายเหนื่อยหายร้อนเลยทันที และยังได้ความกรุณาจาก GMใจดี ได้ห้อง Ocean Front Bungalow ที่บรรยากาศดีสุดๆ เพราะอยู่ติดหน้าหาดเลย ตกดึกนอนฟังเสียงคลื่นที่เข้ามากระทบหาด มีความสุขมากๆ ระหว่างวัน ก็ขี่มอเตอร์ไซด์(ที่พาไป)ไปเที่ยวรอบๆเกาะ ชาวบ้านที่นี่อัธยาศัยดี ยิ้ม และคุยด้วยสนุก แต่หากไม่มีมอเตอร์ไซด์ ทางรีสอร์ทก็มีจักรยานไว้ให้ปั่นได้ฟรีรอบเกาะเลย .....ชอบห้องพักที่กว้างขวาง มีการแบ่งห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำไว้เป็นสัดส่วน โล่ง สบาย บรรยากาศ สงบมาก สมาชิกของ รีสอร์ทน่ารักหมด ทั้งคุณ GM ทั้งน้องๆ พี่ๆ ที่เจอกันตลอดสองวัน ถึงแม้หน้าหาดจะเล่นน้ำทะเล ไม่ได้ ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะทางรีสอร์ทมีสระว่ายน้ำ ที่สวยและไม่ลึกมาก คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถลงไปเล่นได้ อาหารอร่อย ส่วนประกอบในการปรุงอาหารสดจริงๆ สั่งมาทานแล้ว ไม่ผิดหวังเลย เครื่องดื่มจาก Village Bar ก็อร่อย พี่เค้าแนะนำ Morjito ก็อร่อยจริงๆ สรุปว่า ชอบที่นี่มาก เสียดายที่กล้องคู่ใจ งอแง ก็เลย ไม่ค่อยได้เก็บรูปมามากนัก มีแต่ความประทับใจ ที่จะจำไว้ตลอดไปว่า Islanda Eco Villaga Resort เป็นสุดยอดของรีสอร์ทสำหรับผู้ที่ต้องการจะมาพักผ่อนจริงๆ อาจจะไม่เห็นแสง สี เสียงเหมือนกับที่พักในเมือง แต่ก้จะเห็นแสงอาทิตย์อัสดง ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งแล้วก็เสียงนกร้องแทน ที่ล๊อบบี้มี Free WiFi ทานข้าวไป ก็สามารถอัพโหลดรูป หรือคุยกับเพื่อนได้สบาย หากมีโอกาส จะกลับไปเยี่ยมอีกครั้งแน่นอน Islanda Eco Village Resort , Krabi ^_^

ตอนแรกกะจะไปเที่ยวเฉยๆ แต่พอนั่งเรือข้ามแม่น้ำไปยังเกาะกลาง ที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงที่มีรีสอร์ทเพียงแห่งเดียว ฉันก็อึ้ง แล้วก็บอกตัวเองว่าเกือบพลาดของดีในกระบี่เสียแล้ว ในความรู้สึกของฉันอาณาเขตของโรงแรมจึงไม่ใช่แค่เพียงโรงแรม แต่เป็นหมู่บ้านชาวประมงระหว่างทางด้วย รูปถ่ายออกมาสวย รากต้นไม้ที่แตกแขนงเป็นแบ็คกราวน์ให้ฉันมีรูปสวยๆ มากมาย อาทิตย์ตกดินที่โรงแรมสวย สงบ ยามอาทิตย์ขึ้นก็สวยหมดจดไปอีกแบบ แถมยังได้ไปช่วยชาวบ้านตากปลาได้พูดคุยกับคนท้องถิ่นทำให้เรื่องราวของเกาะและโรงแรมผ่านคำพูดของสาวมุสลิมดูขลัง พิเศษอย่างน่าภูมิใจ บรรยากาศที่พักสงบ พนักงานเป็นกันเองเหมือนพักอยู่ที่บ้าน บังกะโลขนาดน่ารัก ห้องน้ำที่มองไปเห็นท้องฟ้า ฉฮปปี้จริงๆ ถ้าไปที่นั่นรับรองได้รูปสวยๆ กลับมาแน่นอนแม้จะถ่ายด้วยไอโฟนก็ตาม